ฝากข้อคิดสักนิดไว้ให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็น จนท. ของโรงแรมๆนึง ใน กรุงเทพ วันนึงมีแขกต่างชาติส่งเมล์มาว่าอยากได้ตั๋วรถไฟ กรุงเทพ-เชียงใหม่ เดินทางวันที่ 5 พ.ย. (ซึ่งขณะนั้น การรถไฟ แจ้งว่าจะปิดเส้นทางสายเหนือไปจนถึงแค่วันที่ 1 พ.ย.) ผมเลยส่ง ลูกน้องของผมคนนึงไปซื้อตั๋วให้ โดยออกเงินค่าตั๋วไปให้ก่อน พอลูกน้องของผม ได้ตั๋วกลับมาเรียบร้อย ก็บอกผมว่า "พี่ ซื้อตั๋วรถไฟต้องใช้บัตรประชาชนด้วยนะ แต่โชคดีที่ผมเอาติดตัวไปด้วย ถ้าเป็นชาวต่างชาติ ก็ต้องเอาพาสปอร์ตไปแสดง " ผมก็งงๆ ว่า เออ ทำไมเดี๋ยวนี้ซื้อตั๋วรถไฟ ทำไมต้องยุ่งยากจัง
หลังจากนั้น ไม่นาน น่าจะสักวันที่ 20 ต.ค. มั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทยก็ประกาศดื้อๆว่าจะปิดเส้นทางสายเหนือต่อไปอีกจนถึงแค่วันที่ 1 ธ.ค. กระทั่งแขกต่างชาติมาเช้คอิน ที่โรงแรมผมวันนี้ แล้วทราบเรื่องการยืดเวลาปิดเส้นทางต่อไปอีก เค้าเลยบอกว่าอยากจะทำการคืนตั๋วรถไฟ ที่ซื้อไปได้มั้ย ผมเลยโทรไป 1690 สายด่วนของการรถไฟ ซึ่งการรถไฟก็ยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน แต่คนที่จะไปทำการคืนตั๋วต้องเป็นคนเดียวกันกับคนที่ไปซื้อ งานเข้าแล้วสิครับ เพราะลูกน้องของผมคนที่ไปซื้อตั๋วนั้น เพิ่งลางานไปบวชเมื่อ 3วันก่อน แถมไปธุดงค์ที่ต่างจังหวัดแล้ว ผมก็เลยพยายามเจรจา พูดคุยว่าพอจะมีทางอื่นมั้ย ส่งคนอื่นเอาตํวไปคืนได้มั้ย คำตอบจากทางการรถไฟ คือ ไม่ได้ ยังไงก็ต้องให้นิมนต์พระมา ก็กฏมันเป็นยังงี้ ช่วยอะไรไม่ได้ ผมเลยบอกไปว่า งั้นผมขอคุยกับหัวหน้าของคุณหน่อย เค้าก็ยังบอกว่า ถึงจะคุยกับหัวหน้า คำตอบก็ยังเหมือนเดิม
สุดท้าย สรุปหลังจากได้คุย คนที่เป็นหัวหน้า เค้ายอมให้ทางโรงแรมออกหนังสือรับรองเพื่ออนุญาตให้ จนท. คนอื่นมาทำการคืนตั๋วแทนให้ได้ ผมเลยต้องวุ่นวายกับการ ออกหนังสือรับรอง, ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน, เขียนใบมอบอำนาจ ให้กับลูกน้องของผมอีกคนนึงไปจัดการให้ แต่รู้อะไรมั้ย พอไปถึงหัวลำโพง ลูกน้องผมคนนี้ บอกว่า จนท. ไม่พูดอะไรเลย หยิบตั๋วไปแล้วเอาคืนให้มาโดยไม่ถามอะไรสักคำ
ตกลง การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าขาดทุนปีละเท่านั้น เท่านี้ ตัวคุณเองเคยหันมาปรับปรุง ขั้นตอนการทำงาน การบริการ ทัศนคติของพนง. ในองค์กรตัวเองบ้างรึเปล่า
คิดให้ดีๆ ก่อนจะจองตั๋วกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็น จนท. ของโรงแรมๆนึง ใน กรุงเทพ วันนึงมีแขกต่างชาติส่งเมล์มาว่าอยากได้ตั๋วรถไฟ กรุงเทพ-เชียงใหม่ เดินทางวันที่ 5 พ.ย. (ซึ่งขณะนั้น การรถไฟ แจ้งว่าจะปิดเส้นทางสายเหนือไปจนถึงแค่วันที่ 1 พ.ย.) ผมเลยส่ง ลูกน้องของผมคนนึงไปซื้อตั๋วให้ โดยออกเงินค่าตั๋วไปให้ก่อน พอลูกน้องของผม ได้ตั๋วกลับมาเรียบร้อย ก็บอกผมว่า "พี่ ซื้อตั๋วรถไฟต้องใช้บัตรประชาชนด้วยนะ แต่โชคดีที่ผมเอาติดตัวไปด้วย ถ้าเป็นชาวต่างชาติ ก็ต้องเอาพาสปอร์ตไปแสดง " ผมก็งงๆ ว่า เออ ทำไมเดี๋ยวนี้ซื้อตั๋วรถไฟ ทำไมต้องยุ่งยากจัง
หลังจากนั้น ไม่นาน น่าจะสักวันที่ 20 ต.ค. มั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทยก็ประกาศดื้อๆว่าจะปิดเส้นทางสายเหนือต่อไปอีกจนถึงแค่วันที่ 1 ธ.ค. กระทั่งแขกต่างชาติมาเช้คอิน ที่โรงแรมผมวันนี้ แล้วทราบเรื่องการยืดเวลาปิดเส้นทางต่อไปอีก เค้าเลยบอกว่าอยากจะทำการคืนตั๋วรถไฟ ที่ซื้อไปได้มั้ย ผมเลยโทรไป 1690 สายด่วนของการรถไฟ ซึ่งการรถไฟก็ยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน แต่คนที่จะไปทำการคืนตั๋วต้องเป็นคนเดียวกันกับคนที่ไปซื้อ งานเข้าแล้วสิครับ เพราะลูกน้องของผมคนที่ไปซื้อตั๋วนั้น เพิ่งลางานไปบวชเมื่อ 3วันก่อน แถมไปธุดงค์ที่ต่างจังหวัดแล้ว ผมก็เลยพยายามเจรจา พูดคุยว่าพอจะมีทางอื่นมั้ย ส่งคนอื่นเอาตํวไปคืนได้มั้ย คำตอบจากทางการรถไฟ คือ ไม่ได้ ยังไงก็ต้องให้นิมนต์พระมา ก็กฏมันเป็นยังงี้ ช่วยอะไรไม่ได้ ผมเลยบอกไปว่า งั้นผมขอคุยกับหัวหน้าของคุณหน่อย เค้าก็ยังบอกว่า ถึงจะคุยกับหัวหน้า คำตอบก็ยังเหมือนเดิม
สุดท้าย สรุปหลังจากได้คุย คนที่เป็นหัวหน้า เค้ายอมให้ทางโรงแรมออกหนังสือรับรองเพื่ออนุญาตให้ จนท. คนอื่นมาทำการคืนตั๋วแทนให้ได้ ผมเลยต้องวุ่นวายกับการ ออกหนังสือรับรอง, ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน, เขียนใบมอบอำนาจ ให้กับลูกน้องของผมอีกคนนึงไปจัดการให้ แต่รู้อะไรมั้ย พอไปถึงหัวลำโพง ลูกน้องผมคนนี้ บอกว่า จนท. ไม่พูดอะไรเลย หยิบตั๋วไปแล้วเอาคืนให้มาโดยไม่ถามอะไรสักคำ
ตกลง การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าขาดทุนปีละเท่านั้น เท่านี้ ตัวคุณเองเคยหันมาปรับปรุง ขั้นตอนการทำงาน การบริการ ทัศนคติของพนง. ในองค์กรตัวเองบ้างรึเปล่า