เที่ยวพม่า ฉบับตามใจฉัน (มันดะเลย์ พุกาม อินเล ย่างกุ้ง ใน 8 วัน): ตอน 1 มันดะเลย์

Once upon a time in Myanmar หลายสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย


    (หมายเหตุนำเรื่อง: ไม่เคยทำรีวิวมาก่อนเลยขอเรียกว่าเป็นบันทึกการเดินทาง รูปถ่ายก็ถ่ายจากมือถือคุณภาพไม่ค่อยเลิศเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเราอยากเก็บความทรงจำในการเดินทางแบ็คแพ็คครั้งล่าสุดเอาไว้ในรูปแบบบันทึกเป็นตัวอักษรน่ะค่ะ เน้นเล่าตามใจฉัน จึงขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้) พาพันรดน้ำต้นไม้

    จุดเริ่มต้นของทริปนี้ เกิดจากเพื่อนสาวนักแบ็คแพ็คเปรยว่าอยากไปพม่าอีกรอบหลังจากเธอไปมาแล้วรอบหนึ่ง แล้วตัวเราก็โพล่งขึ้นว่าอยากไปด้วย จากนั้นเราก็เริ่มเก็บข้อมูลจากเนท แล้วก็จากกระทู้ต่างๆ ในพันทิป แล้วทริปนี้ก็เป็นจริงขึ้นมา ด้วยเกิดจากความรู้สึกว่า...สักครั้งในชีวิต ไปให้รู้ให้เห็นว่าบ้านเมืองเค้าเป็นอย่างไร หลังจากทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนจากประเทศนี้มาหลายปี

    หลังตกลงกันได้ว่าเพื่อนจะไปทำเรื่องขอวีซ่าแทนเรา เราตกลงกับเพื่อนว่าอยากไปสี่เมืองสำคัญ คือ มันดะเลย์ (ขอเรียกในสำเนียงแบบท้องถิ่น) บากัน (ก็คือพุกาม) อินเล และย่างกุ้ง สำหรับทริปนี้ เรากับเพื่อนเห็นพ้องกันเรื่องนั่งเครื่องบินในประเทศสักสองครั้งเพราะเพื่อนเราเคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ ไม่เหมาะจะนั่งรถนาน และตัดสินใจจองตั๋วเที่ยวบินในประเทศพม่าผ่านเอเจนท์ในไทย (ซึ่งมาค้นพบทีหลังว่าเป็นทางเลือกที่อาจไม่ดีที่สุด ไว้จะเล่าในทีหลัง)

    สำหรับตั๋วข้ามประเทศไปกลับ แน่นอนว่าแบคแพคอย่างเราต้องไปกับหางแดง ซึ่งมีข้อดีก็คือหางแดงไปลงมันดะเลย์พร้อมมีบริการ Shuttle Bus เข้าเมือง ค่าตั๋วไปกลับอยู่ประมาณห้าพันกว่า

เมื่อเราจ่ายค่าตั๋วเที่ยวบินทั้ง international & domestic เสร็จแล้วสิ่งที่เตรียมถัดไปคือเงินสด USD ตอนแลกที่ซุปเปอร์ริชแจ้งเค้าเลยว่าไปพม่า พนักงานเค้ารู้ว่าต้องเป็นแบงค์ใหม่เอี่ยมเฟี้ยม เราแลกจากสองหมื่นบาท ได้มาประมาณหกร้อยกว่า USD

เรามีเวลาเที่ยวแปดวันเต็ม route เริ่มต้นจากมันดะเลย์ พุกาม อินเล ตบท้ายที่ย่างกุ้ง (ตอนแรกคิดจะไปพระธาตุอินทร์แขวน แต่คำนวณแล้วเวลาอาจไม่พอจึงเลือกเพียงสี่เมืองหลัก) เดินทางกลางเดือนตุลาคม ปลายฝนต้นหนาว

เม่าออกรถ
วีซ่าพร้อม ตั๋วพร้อม เงินพร้อม ใจพร้อม กายพร้อม นับถอยหลังจนถึงวันเดินทาง แล้วเราก็โบยบินสู่แดนพี่หม่องตามกำหนดการ (หมายเหตุล่วงหน้า ภาพประกอบมาจากกล้องมือถือทั้งสิ้น คุณภาพอ่อนด้อยไปบ้างขออภัย)

First Day: Don Muang- Mandalay

    เราและเพื่อนเลือกไปลงมันดะเลย์ก่อนเพราะเพื่อนบอกว่าเราน่าจะเข้าทางนึงออกอีกทางนึง เลยเลือกจากด้านบนลงล่าง จองไฟลต์แอร์เอเชียนั้นไม่ใช่เรื่องยากเพราะเราจองล่วงหน้าได้สะดวก พอขึ้นเครื่องก็ใช้เวลาเดินทางราวชั่วโมงครึ่งจึงถึงสนามบินนานาชาติของมันดะเลย์ (ซึ่งห่างจากเมืองเอาการ ประมาณนั่งรถสี่สิบนาทีจะถึง)

    วูบแรกที่มาถึงมันดะเลย์คือ...ร้อนจัง อมยิ้ม19 เพราะตอนแรกเห็นจากแผนที่ว่าเมืองนี้อยู่ระนาบเดียวกับแถวๆ เชียงใหม่อากาศน่าจะดี แต่เปล่าเลย...เดินออกมาจากสนามบิน ร้อนผ่าวๆ โอ้...เหนือความคาดหมาย

    เมื่อมาถึงก็ต้องแลกเงิน เรทโดยทั่วไปใกล้เคียงกันแต่ถ้ามีเวลาจะเลือกหน่อยก็ได้ว่าตู้ไหนดี จากเงินสดหกร้อยดอลลาร์ พวกเราแลกประมาณสี่ร้อย เพื่อจะมีเงินดอลลาร์เหลือเก็บไว้สำหรับจ่ายค่าที่พักและค่าธรรมเนียมที่คิดเป็นดอลลาร์

    ข้อดีอย่างหนึ่งของแอร์เอเชียที่มาลงมันดะเลย์คือมี Shuttle Bus นำมาส่งในตัวเมืองด้วย ตอนแรกอ่านในเวบก็รู้ว่ามี แต่ถามคุณแอร์บนเครื่องเธอก็บอกไม่แน่ใจให้ถาม จนท ที่สนามบิน (ซึ่งก็หาตัวเป็นๆ ให้ถามไม่เห็น) แต่โชคดีสายตายาวมองไปเห็นรถบัสติดป้ายว่าเป็นบริการ Shuttle Bus ของแอร์เอเชียเลยรีบปรี่ขึ้นไป เด็กรถ (ที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงฟังยาก) ก็จะถามว่าพักที่ไหนเขาจะได้ส่งลงถนนใหญ่ถูก

ลืมถ่ายภาพตัวรถ มาถ่ายเอาด้านใน เค้าเอาเสื้อยืดแอร์เอเชียมาสวมให้เบาะเป็น Air Asia shuttle bus นะเนี่ย

    โชคดีอีกอย่างที่โรงแรมที่เราจองไว้คือ Smart Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่เพราะมีป้ายด้านหน้าทางเข้า พอรถบัสจอดส่งก็เดินมั่วๆ (นึกว่าจะหลงแล้ว) แต่สุดท้ายก็มาถึงจนได้ ข้อดีของผังเมืองที่นี่คือค่อนข้างเป็นระเบียบ เป็นบล้อคสี่เหลี่ยมชัดเจน ถ้าตั้งสติดีๆ แล้วไม่น่าจะหลงง่ายๆ
    โรงแรมนี้ขนาดกลางแต่สภาพห้องดีและพนักงานใส่ใจดีมาก ราคาห้องอยู่ที่ประมาณ 50 USD และสามารถจองทาง agoda ได้ นับเป็นที่พักแห่งแรกที่ประทับใจทั้งเรื่องห้องพัก อาหารเช้า บริการต่างๆ  (มีฟรีไวไฟ แต่ว่าไม่ค่อยไว)


เราแจ้งพนักงานว่ามะรืนนี้จะเดินทางไปพุกาม (ซึ่งคือไปที่เมือง Nyang-U ยองอู) ทางโรงแรมก็จองให้เสร็จสรรพ ตั๋วไปพุกามด้วยรถทัวร์เราอยู่ที่ราคา 10,000 Kyat (ประมาณ 300 กว่าบาท)

วันแรกเรากับเพื่อนเดินเล่นแถวนั้น ใกล้ๆ สถานีรถไฟจะมีร้านน่ารักร้านนึงชื่อ Mandalay Donut มีทั้งของคาวของหวานครบ พวกเราเอาท้องรอดได้ในที่สุด



แล้วย่านนั้นก็จะมีห้างที่ภายนอกใหญ่หรูดูดี ส่วนข้างในจะเป็นสินค้าแนวๆ ประตูน้ำ ส่วนด้านล่างสุดเป็นซุปเปอร์มาร์เกต


วันแรกสำหรับมันดะเลย์ ชิวๆ สบายๆ สังเกตอย่างนึงว่าบ้านเมืองเค้าแปลกดีตรงที่ขับรถคนละเลนกับเรา (คือชิดเลนขวา แต่บ้านเราชิดเลนซ้าย) แต่พวงมาลัยรถโดยมากดันอยู่ฝั่งเดียวกับบ้านเรา ซึ่งอันนี้เราว่าขัดแย้งกันมาก แต่ก็พอจะรู้มาว่าเมื่อก่อนก็พวงมาลัยซ้าย แต่จู่ๆ ดันมาเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยขวา การวิ่งรถของที่นี่จึงแปลกเอาการ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่