คิดเหมือนกันคือ "ยิ่งลักษณ์ไม่มีความจริงใจทำเพื่อประชาชน" เพราะเธอคือซาตานในคราบประชาธิปไตย

'แผน-เป้าหมาย' ใหญ่กว่าชุมนุม "แล้วเอาไงต่อ?"

    ทุกคนในประเทศวันนี้ ไม่เว้นกระทั่งทักษิณ-ยิ่งลักษณ์  นปช. เสื้อเหลือง เสื้อแดง พวกล้มเจ้า ไม่ล้มเจ้า เอาทักษิณ  
ไม่เอาทักษิณ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักวิชาการ สมณะชีพราหมณ์ ยาจก วณิพก ขอทาน มารและเทพ

    ไม่มีใครที่ไม่อยากรู้ว่า เมื่อสภาทาสเพื่อไทย "ลักหลับ" สังคมชาติตอนตี ๔ ของคืนที่ ๑ พ.ย.๕๖ ด้วยพฤติกรรมรุมโทรมระบบนิติรัฐ
ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดหัว-สุดตีนทักษิณ สำเร็จความใคร่ครบ ๓ วาระแล้ว

    "จะเอาไงต่อ?"

    คำถามไม่แปลก แต่แปลกตรงว่า "ทุกไทย" แทนที่จะถามฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทย กลับหันหน้า-ตาจ้องไปถามประชาธิปัตย์
ถามอภิสิทธิ์ ถามสุเทพ ถามทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์

    "แล้วเอาไงกันต่อ?"

    คำถามเช่นนี้ เป็นคำตอบในตัวอย่างหนึ่งว่า การที่รัฐบาลเพื่อไทยอาศัยสภาฯ เป็นเครื่องทรงประชาธิปไตย
แต่ใช้สันDานเผด็จการระบอบทักษิณออกกฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยนั้น

   "ข้อดี" ที่เกิดขึ้นทันตาเห็น คือ ทำให้ประชาชนคนไทยที่เคยแตกแยกเป็นเหลือง-เป็นแดง คืนกลับเป็นคนไทยร่วมธงไตรรงค์
ผืนเดียวกันอีกครั้ง


    เพราะทนไม่ได้ รับไม่ได้ กับที่ทักษิณหลอกใช้ หลอกให้ไปเอาประชาธิปไตยกลับมา ด้วยการฆ่าทหาร-เผาบ้าน-เผาเมือง
เปลี่ยนแผ่นดินเป็นแดง
    
    ทุกอย่าง มันชัดขึ้นทุกวันว่า ทักษิณและยิ่งลักษณ์ ไม่มีความจริงใจที่จะทำให้ประชาชนกินดี-อยู่ดี พ้นจากความยากจน
ตามที่พูด ตรงกันข้าม มีแต่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์และคณะพรรค อยู่ดี-กินดี ร่ำรวยกันถ้วนหน้า


    ท่ามกลางเสียงก่นด่า และพูดจาตำหนิกันทั้งประเทศและทั้งโลกว่า รัฐบาลนี้ บริหารเต็มไปด้วยทุจริต-คอร์รัปชัน
ทุกขั้นตอนและทุกนโยบายที่ออกมาใช้ จนไทย "โกงติดอันดับโลก"

    ดังนั้น ในทันทีที่รัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ สั่งสมุน ส.ส.ใช้เสียงข้างมากหักหาญผ่านกฎหมายในสภาฯ คืนวานซืน
  
    จากเคยรัก กลายเป็นแค้นที่ถูกหลอก และแค้นนี้ ไม่เป็นแค้นเฉพาะคนที่เอา-ไม่เอาทักษิณเท่านั้น มันกลายเป็น
"แค้นร่วมกัน" ของพี่น้องประชาชนร่วมชาติไปทันที!

    นี่คือ "ข้อดี" ในความร-ยำพฤติกรรมนักการเมืองระบอบทักษิณ ทำให้ประชาชนตาสว่าง หางที่เห็นรางๆ แต่ก่อน
นึกว่าเป็นด้ามธงนำทางสู่ประชาธิปไตย

    แต่ตอนนี้ "ตาสว่าง" เห็นชัดกันแล้วว่า ไม่ใช่ด้ามธง หางหมาก็ไม่ใช่ เพราะความเข้มข้นแห่งจัญไr

    ส่วน "ข้อเสีย" คงไม่ต้องจาระไนซ้ำซาก ถ้ายอมให้ระบอบทักษิณครองประเทศ วันไหนที่ทักษิณและโคตรวงศ์พงศา
ปรารถนาสิ่งใดในสยามประเทศ

    กระดิกตีนสั่งรัฐสภาทาส "เฮ้ย...อ้ายสมศักดิ์ ไปออกกฎหมายเวนคืน-ออกกฎหมายขายประเทศมาให้ข้าเดี๋ยวนี้  เร็ว ๓ วาระรวดนะ"

    "คะๆๆๆๆๆ ครับบบบบๆๆๆๆ นาย"!

    ใครถาม "นางสำมนักขา" ว่า ทำไมทำจัญไrกันอย่างนี้ ก็ให้ตอลี้-ตอแหlตอบว่า "รัฐบาลไม่เกี่ยว
เป็นเรื่องของรัฐสภาค่าาาาา
คนละหน้าที่กัน"


    ผ่านวาระ ๓ แล้ว จะปล่อยเลยตามเลย.....

    ก็มีหลายเวทีที่ทำหน้าที่พิทักษ์ประเทศ ทั้งที่สวนลุมฯ  กลุ่มสันติอโศก ทั้งที่อุรุพงษ์ โดยคุณนิติธร ล้ำเหลือ
และที่สถานีสามเสนโดยประชาธิปัตย์ ซึ่งคัดท้ายในสภาฯ แล้ว กำลังน้อยสู้เขาไม่ได้

    จึงออกมาตั้งเวทีรวบรวมมวลประชาอยู่สถานีสามเสน สู้กับอสูรมารที่ ยึดบ้าน-ยึดเมือง-ยึดสภาฯ อยู่เวลานี้!

    สดับตรับฟังทิศทางทั้งหางเสียงและหัวเสียงแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีกลุ่มมิตรมากมวลชน ก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนหลากหลาย
ด้วยเป้าหมายต้านระบอบทักษิณกินเมืองตรงกัน เช่น กลุ่มเครือข่ายประชาชน ๗๗ จังหวัด โดยอาจารย์สมเกียรติ-สุริยะใส เป็นต้น
  
    แค่แบกความแค้นคับในความร-ยำระบอบทักษิณมารวมกันนั่งฟังปราศรัยไป-มา คืนแล้ว คืนเล่า มันก็ชักเหงา และเซ็ง
เพราะเร่งเครื่องใส่เกียร์ ๕ มา แต่ก็เดินหน้าต่อไม่ได้

    แล้วจะยืนระยะได้อย่างไร ในขณะที่นาฬิกาฝ่ายรัฐบาลบอกวัน-เวลาสุดท้ายให้ได้ แต่นาฬิกาฝ่ายประชาชนต่อต้านเผด็จการ
ระบอบทักษิณ มีแค่เข็มสั้นชี้วัน-เวลา ชั่วนา-ตาปี เข็มยาวไม่มีมาบรรจบเลข ๑๒ ซักที

    ลงท้าย "ฝ่อตาย" ก่อนตำรวจกระทืบตาย!

    เห็นคุณสุเทพ ณ สถานีสามเสนบอกว่า
๑.ไม่มีการเคลื่อนขบวนชุมนุม
๒.ไม่มีการเจรจาต่อรองรัฐบาล
๓.รอให้ประชาชนมาชุมนุมมากๆ แล้วค่อยถามมติ
๔.จะปล่อยให้ประชาชนคนคิดเอง

    "อ้าว...จะชุมนุมเพื่อฟังและชิมอาหาร ๔ ภาคตลอดไป จนกว่าทักษิณ-ยิ่งลักษณ์เบื่อหน่ายอำนาจแล้วเลิกราจากการ
เป็นรัฐบาลไปเองงั้นหรือ?"

    นี่อาจเป็นคำถามแทรกจากผู้ชุมนุมที่ยังยืนคำถามว่า "แล้วเอาไงต่อ เมื่อรัฐบาล+รัฐสภาเดินหน้าวาระ ๓ รอเข้าวุฒิสภา
เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไปอย่างนี้?"

    หรือทุกอย่าง เอาไปกองไว้ที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" แล้วนอนรอคำวินิจฉัย นั่นคือภารกิจที่ประชาธิปัตย์ทำได้นอกจากสู้ในสภาฯ
และที่สถานีสามเสน

    ไม่ใช่ขัดคอ-ขัดขา แต่ฝากให้คิด เมื่อประชาธิปัตย์ "เปิดหน้าชก-เดินหน้าชน" อย่างนี้ หมายความว่าพร้อมแล้ว ทั้งคน-ทั้งแผน
ถ้านำพลาด อนาคตประชาธิปัตย์ก็จะจบทั้งในและนอกสภาฯ ต่อจากนี้

    ก่อนที่ "มหาชนนำประเทศไป" ประชาธิปัตย์ซึ่งเป็น "ขาใหญ่" จะต้อง "นำมหาชน" เดินหน้า จากซอกหลืบริมทางรถไฟ
โดยมี "เป้าหมาย" เป็นป้ายจอด

    เป็น "พญามังกร" จะต้องไม่คะนองน้ำอยู่ในหนองอย่างนี้!

cr:http://www.thaipost.net/news/021113/81518?fb_action_ids=616599881715183&fb_action_types=og.likes&fb_source=other_multiline&action_object_map={%22616599881715183%22%3A567414409999135}&action_type_map={%22616599881715183%22%3A%22og.likes%22}&action_ref_map=[]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่