*** คิดแบบ.. " ฅน_ยิว " >> คบ ฅนจนๆ ได้รู้วิธีประหยัดแล้ว >> เราจะไม่ได้อะไร อีก.. เล๊ย !

กระทู้สนทนา
ThaiRath (คุณนิติ นวรัตน์) : ทัศนคติ ของ ฅน_ยิว ... " ต่อ "
    จาก LINK_เดิม  ==>  http://ppantip.com/topic/31178850

ครั้งก่อน กล่าวถึง ทัศนคติของชาวยิว ที่มีต่อ เงิน & เรื่อง.. อื่นๆ
    วันนี้! ขออนุญาตต่อ.. ฅน_ยิว ยอมรับความยากส์-ลำบาก ในการทำธุรกิจ คนเผ่าพันธุ์นี้ จะยืนอย่างสง่าเพื่อท้าทายความยากลำบากแสนสาหัส ได้เสมอ , ไม่ว่า ฅน_ยิว ที่ไหนๆ ก็จะเคยได้รับการอบรมสั่งสอนมาว่า “ วงการธุรกิจ ไม่ใช่อ่าวที่มีคลื่นลมสงบนิ่ง คนที่ไม่กล้าเสี่ยง แม้ว่าสวรรค์ จะประทานโอกาสแห่งความร่ำรวยให้ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะ ยื่นมือ ไปรับ ”
    ฅน_ยิว มีความเชื่อว่า.. ต้องผ่านความมืดมิด จึงจะพบกับแสงสว่าง  ส่วนเรื่องความกังวลในอนาคต ฅน_ยิว ไม่ค่อยมี ถึงมีก็น้อยกว่า คนเผ่าพันธุ์อื่น เพราะในคัมภีร์ ของยิว มีคำสอนที่ว่า “ เราต่างไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เหตุใดจึงต้องกังวลถึงวันพรุ่งนี้ ด้วย! ”

เรื่องของความกล้า เรามีความเชื่อกันว่า ฅน_ยิว จะมีเท่ากับ หรือมากกว่า คนเผ่าพันธุ์อื่น *
    เป็นผลมาจาก การอบรมสั่งสอนกันมาจาก รุ่นสู่รุ่น เยาวชน ฅน_ยิว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ ก็เคยได้รับคำสอนจากบรรพบุรุษ ด้วยความที่ว่า “ ความกล้าที่เหนือกว่าผู้อื่น + การมองความเสี่ยงในแง่ดี + การรู้จักถอยเมื่อประสบปัญหา + ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ ฅน_ยิว ประสบความสำเร็จเหนือคนเผ่าพันธุ์อื่นๆ ”

ส่วนในเรื่อง การคบคนรวยคนจน  ฅน_ยิว มีวิธีคิดแตกต่างจาก คนเผ่าพันธุ์อื่นมาก
     โดย ฅน_ยิว คิดว่า “การคิดให้เหมือน เศรษฐี เรียนรู้จากประสบการณ์ ของเศรษฐี & การอยู่ร่วมกับเศรษฐี จะทำให้เรามีโอกาส ที่จะเริ่มต้นสร้างความมั่งคั่งได้มากขึ้น , แต่หากเรา เอาแต่อยู่ ในหมู่ คนจนๆ นอกจาก จะได้เรียนรู้วิธีประหยัดแล้ว เราจะไม่ได้อะไรอีกเลย ”

พ่อแม่_ยิว จึงสอนลูกว่า...
   “ อยากรวย ก็ต้องเรียนรู้ จากคนรวย ถึงแม้จะได้อยู่ในหมู่คนรวย เพียงชั่วครู่ก็ยังดี เพราะอย่างน้อย เราก็ได้ซึมซับกลิ่นอาย ของคนรวยมาบ้างแล้ว ”

เมืองไทยบ้านเรา พ่อแม่ พยายามเร่งให้ลูกเรียนหนังสือจบชั้น ป.ตรี ไวๆ
     จบมาแล้ว ก็กลายเป็นบัณฑิต มีแต่ความรู้ เพียงแต่ในตำรา ทว่า.. ขาดความฉลาดเฉลียว - ขาดประสบการณ์ ผิดกับ.. นักเรียนยิว ที่เมื่อจบชั้น ม.ปลาย แล้ว ถ้าเป็นในรัฐอิสราเอล เด็กผู้ชาย ต้องไปเกณฑ์ทหารก่อน 3ปี เด็กผู้หญิงต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ก่อน 2ปี
     พ้นจากการโดนเกณฑ์ทหารแล้ว เด็กยิว ก็ยังไม่ต่อ ป.ตรี ในมหาลัย ส่วนใหญ่จะถูกแนะนำให้ ออกไปหาประสบการณ์การทำงาน & ท่องเที่ยวในโลกภายนอกกัน คนละ ปี-2ปี , หลังจากนั้นจึงมาต่อ ป.ตรี เด็กยิวในรัฐอิสราเอล จึงจบ ป.ตรี ช้ากว่าเด็กไทยของเรา ประมาณ 4 - 5ปี แต่เมื่อเป็นบัณฑิตแล้ว เด็กยิว จะเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ มากกว่าบัณฑิตของชนชาติอื่น เพราะผ่านประสบการณ์ชั่วเคยมี ดีเคยผ่าน มาก่อน

พ่อแม่_คนไทย จำนวนไม่น้อย ประคบประหงมลูก เอาใจลูกทุกอย่าง ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม
     คนไทยส่วนหนึ่ง ไม่ยอมให้ลูกเจอความทุกข์ ผิดกับพ่อแม่ชาวยิว ที่ชอบให้ลูกเจอความทุกข์ เสียตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กเล็กอยู่ เมื่อโตขึ้นไปเจอปัญหาใหญ่ๆ จะได้มีภูมิต้านทาน , ฅน_ยิว มีทัศนคติ ที่ว่า.. “ ความทุกข์ คือแก่นแท้ของชีวิต ผู้ที่ไม่เคยประสบความทุกข์ใดๆ ย่อมไม่ถือว่า เป็นคนที่แท้จริง เพราะ ความทุกข์ เป็น ส่วนใหญ่ ของชีวิต

ส่วนความสุข ฅน_ยิว เชื่อว่า.. เป็นเพียงส่วนเล็กๆ อีกทั้งยัง จับต้องไม่ได้
     ความสุข เป็นเพียงภาพลวงตา สำหรับชาวยิว เท่านั้น! , ทัศนคติ ของ ฅน_ยิว เกี่ยวกับ เงินตรา &ทรัพย์สิน ต่างกับแก่นของพวกคอมมิวนิสต์ ราวกับฟ้ากับดิน , สมัยสตาลินปกครองสหภาพโซเวียต ไล่ๆๆ ฅน_ยิว รัสเซีย  ให้ไปอยู่ไซบีเรีย โดยตั้งเป็น แคว้นปกครองตนเอง ที่ชื่อ_เยฟเรสสกายา มีเมืองหลวงชื่อบีโรบิดจาน แม้ว่าจะอยู่ในสหภาพโซเวียตประเทศเดียวกัน แต่ ฅน_ยิว จะเดินทางไปนอกแคว้น ต้องมีบัตรเชิญจากสถานที่ที่จะไปเยือน & ได้รับอนุญาตจาก จนท.รัฐคอมมิวนิสต์เสียก่อน

คอมมิวนิสต์ เชื่อว่า.. ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน & เงิน ไม่ใช่สิ่งสำคัญ!
     แต่ ฅน_ยิว เชื่อว่า.. “ เงิน ไม่เพียงแต่ สามารถซื้อ เกียรติยศศักดิ์ศรี ได้เท่านั้น! แต่ๆๆ ยังสามารถซื้อของที่เราคาดไม่ถึง ได้อีกมาก สิ่งต่างๆ อย่างนั้น ต่างก็มีความสำคัญกับเงิน ทั้งสิ้น , หากมีเงิน เราก็มีชีวิตที่ทุกคน ต้องอิจฉาริษยา เมื่อทุกคนเคารพ &อิจฉาเรา เราก็มีอำนาจที่จะ แสดงความคิดเห็น ”

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่