ช่วยเหลือตอนเค้าลำบาก แต่เราตอนนี้กลับยิ่งลำบากใจ!!!

กระทู้สนทนา
คือไม่รู้จะพูดให้ใครฟังดีน่ะครับ เพราะคุยกะแม่แล้ว แม่ก็บอก จัดการเอาเอง ไม่ค่อยอยากสนน้าเท่าไหร่แล้ว

ผมมีน้าสาว เป็นน้องคนเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน เรียนสูง แต่งงานมีครอบครัวและมีลูก 3 คน เห็นครอบครัวก็อยู่ได้ปกติ และนานๆทีจะเห็นหน้ากันสักครั้ง

เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเดือน พค.ที่ผ่านมา ผมกลับมาจากงานที่เป็นจ๊อบ ได้เงินมาจำนวนเยอะพอสมควรจำนวนนึง และมาอยู่บ้าน น้าสาวผมก็มาหาที่บ้าน ถามว่าเป็นยังไงบ้างเรื่องรถชน(ผมรถชนมาก่อนหน้านั้นสามเดือน และน็อคอยู่ ICU ) ผมก็ว่า ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วนะน้า น้าล่ะ เป็นยังไงบ้าง?

เธอก็เริ่มเล่าปัญหาของครอบครัวของเธอเองสารพัดอย่าง เราก็รับฟัง และก็โมโหกับเรื่องสามีของน้านี่แหละ ตอนหลังสามีของน้าเค้าเล่นการเมืองท้องถิ่น ระดับ อบจ.น่าจะใช่ และก็มีปัญหาเรื่องเค้าไปมีเมียน้อยเป็นพักๆ และไม่ค่อยมาสนใจกับปัญหาของบ้านตัวเอง มัวแต่เข้าสังคมจนไม่ค่อยมาบ้านช่อง แถมมีเมียน้อยอีก

น้าผมก็ร้องไห้ ว่าเครียดหลายอย่างมากๆ ลูกสาวคนโตก็กำลังจะจบแล้ว คนกลางตอนนี้ดร็อปเรียน และคนเล็กยังแค่ 5 ขวบ และรถที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์ 3 คัน เอาไปจำนำจนหมด มาหาผมเพราะยืมรถของเค้ามา และต้องจ่ายเงินให้ลูกสาวคนโตค่ากินอยู่ด้วย เพราะอยู่เชียงใหม่

ผมก็พอเข้าใจคร่าวๆละว่าเรื่องเงิน ผมก็ช่วยไปจำนวนหนึ่ง และก็บอกว่าอย่าไปคิดมาก หนทางมีอีกเยอะนะน้า

ผ่านไปได้สักเดือนนึง น้ามาอีก และก็บอกตอนนี้ รถจะหลุดจำนำแล้ว ไม่มีเงินไปต่อดอกเลย ผมก็ช่วยจำนวนไม่มาก ให้พอเป็นค่าต่อดอกไปก่อน แต่น้าก็มาขอยืมตังผมเพิ่มด้วย

เอ่อ ผมก็เข้าใจนะ เรื่องปัญหา เพราะเอาจริงๆแล้วทุกคนก็มีปัญหาเหมือนกันหมดแหละ แต่จะเรื่องไหนเท่านั้นเอง ตอนแรกผมก็ให้แกยืมไป 3000 และผมก็บอกว่ามีเท่านี้แหละ น้าเค้าก็กลับบ้านไป

อีกอาทิตย์นึงมาอีกแล้ว สเต็ปเดิมๆ ผมว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่ก็นะ ก็เห็นใจน้า และเกลียดสามีที่ห่วยแตกยังไม่พอ เพิ่มภาระหนี้สินให้ที่บ้านอีก

เลยถามน้าว่าจะเอายังไงต่อเนี่ยน้า กับปัญหาหลายๆอย่าง น้าต้องตัดสินใจแล้วนะ เรื่องที่น้าจะขายบ้านน่ะ ขายไปเหอะ เพราะแม่ผมก็บอกว่าขายไปเลย ไม่มีที่อยู่ก็มาอยู่บ้านชั้นไปก่อน เป็นหนี้เป็นสินเรื่องบ้าน เรื่องรถ ไหนจะลูกอีก แม่ผมก็บอกแบบนี้ไป

ผมก็เห็นใจน้าผมมากๆนะ สุดท้ายตัวผมเองไม่เคยจะใจแข็งได้นานซะทีกับน้าผม น้าขอยืม คราวนี้ผมก็ให้เงินไปจำนวนนึง ประมาณก้อนใหญ่พอสมควร เพื่อที่จะได้ไปจัดการกับปัญหาต่างๆ และน้าของผมก็บอกผมว่า

-นี่ เห็นว่าอยากได้กล้องไม่ใช่เหรอ น้าก็เอากล้องของลูกไปจำนำไว้อยู่ อยากได้ก็ไปไถ่เอามาใช้ก่อนก็ได้นะ น้าคืนเงินได้เมื่อไหร่น้าค่อยเอากลับไป

ผมถามว่าเอาไปจำนำไว้เท่าไหร่?
น้าบอกว่า สองหมื่น...

ผมเอง หา!!!! อะไรนะ (ไม่เคยเล่นกล้องด้วยแหละครับ แต่ราคานี้สูงไปจริงๆนะ)

ผมเลยบอกน้าว่า น้าก็ไปต่อดอกเถอะ เพราะเอาจริงๆอยากได้ของใหม่มากกว่า น้าก็บอกว่าของลูกแกเอง แกรักษามาก น้าก็เครียดที่ต้องเอากล้องลูกไปจำนำ ผมก็บอกว่ายังอ่ะน้า เอาเงินที่ได้ไป ไปจ่ายต่างๆค่าค้างชำรำอะไรต่ออะไรไปก่อนละกัน แต่น้าต้องคืนนะ เพราะตัวผมเองก็ไม่ใช่คนร่ำรวยมีเงินถุงเงินถัง น้าก็บอกว่าจะทยอยคืนให้ทุกเดือนละกัน และกลับไป

ช่วงก่อนหน้าผมเล่นเฟสบุคบ้าง ไอ้เราก็มีเฟสของลูกสาวน้า ก็แทบไม่เคยกดเข้าไปดูเลย ลองกดเข้าไปดูซิ

-โอ้โห แต่งตัวเอามากๆ และอัพรูปขึ้นเฟสเป็นว่าเล่น ไปเที่ยวทะเล ไปต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนบ่อยมากๆจากที่เห็นในเฟส แต่งตัวเป็นสาวไฮโซกันเลยทีเดียว โชว์แบรนด์เนมต่างๆสารพัด

ผมพอเห็นแล้ว ก็เลยกดแชทเข้าไปคุยด้วยหน่อย ว่า เป็นยังไง เที่ยวบ่อยจริงๆนะเรา

น้องมันก็บอกมาว่า ไปกะกลุ่มเพื่อนเรื่องเรียนน่ะพี่ และก็ไปถ่ายภาพ(เรียนนิเทศ) และชอบแต่โพสการแต่งตัว คนกดไลค์มหาศาล

ผมบอกน้องไปว่า - นี่ เราอยู่ที่นั่นอ่ะ อย่าเที่ยวมาก เห็นใจแม่หน่อย อดเอา อีกแป๊บเดียวก็จบแล้ว ใช้เงินประหยัดๆหน่อยละกัน แม่เราก็เหนื่อย และน้องมันก็เงียบไป

ซักพัก ผมก็มามาเช็คไทม์ไลน์ในเฟสบุค จำได้ว่าคุยล่าสุดกะน้องมันไปประมาณ 10 นาทีนี่ล่ะ

น้องมันก็ตั้ง Status ว่า "คนอะไรว่ะ ว่าตัวเองก็เป็น! 5555+"

คราวนี้ผมไม่แน่ใจว่าน้องมันว่าให้ผมรึเปล่า แต่กับช่วงเวลาที่น้องมันเงียบไป และอยู่มีสเตตัสแบบนี้ ผมก็เริ่มไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ละ แต่ก็ไม่อยากไปทำให้น้าลำบากใจอะไรเพิ่มอีก ก็เฉยๆไปซะ คิดว่าเด็กมันไม่ฟังก็เรื่องของมัน

ปัญหามาเกิดตอนหลังๆ ที่ผมก็ไม่ได้มีจ๊อบพิเศษเพิ่ม และที่สำคัญ ไม่มีเงินแล้ว

ผมก็โทรไปหาน้าผมนะ น้าก็บอก มีเท่านี้อยู่ ยังไงเอาไปก่อนแล้วกัน

แต่น้าก็ไม่มา และเงียบหายไป หายไป ไม่แวะมาที่บ้านผม และผมก็ เอาวะ คงไม่มีเงินมั้งในช่วงนี้ เพราะน้าผมก็เป็นข้าราชการครู ยังไงมันก็ต้องได้เงินเดือนแน่นอนอยู่แล้ว

จนตอนนี้ ช่วงนี้ จ๊อบยังแทบจะไม่ค่อยมีเข้ามา และผมก็มารู้สึกปวดใจนะ เพราะเอาจริงๆเงินที่ช่วยไป มันไม่ใช่น้อยๆเหมือนกัน ทำไมน้าไม่นึกถึงเราบ้าง ว่าตอนเรามี ขนาดไม่ค่อยอยากจะรับฟังเรื่องราวแล้ว แต่ก็ยังช่วย และช่วยในทุกๆครั้ง จนตอนไม่มี ผมต้องมาเอาตังที่แม่ไปก่อน ยิ่งพูดยิ่งเสียความรู้สึกมากๆ แม่ผมก็โทรไปทวงให้นะ และคำตอบก็คือ ไม่มี

เพื่อนๆคิดว่า ผมไม่ต้องไปใส่ใจกับเงินจำนวนนี้แล้วดีไหมครับ เพราะถ้าผมโทรไปไม่รับสายอีกอะไรอีก ผมก็ยิ่งเครียดไปอีก

และมันทำให้ผมคิดได้กับจุดนี้ที่ได้เจอมา ทำไม..การที่เราเห็นใจและช่วยเหลือ มันถึงทำให้เรารู้สึกแย่ไปกว่าเดิมครับ??

(ขอบคุณที่รับฟังนะครับ ===นั่งอดๆต่อไป ไม่รู้จะทำยังไง T T)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่