ครบ 1 ปี จาก 4 ล้อ มาเป็น 2 ล้อ

กระทู้สนทนา


ย้อนกลับไปเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว  ผมตัดสินใจขายรถยนต์ที่ใช้ไปทำงาน  ด้วยเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เชื้อเพลิงและปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขายเนื่องจากสภาพการจราจรที่หนาแน่นขึ้นกว่าเดิมหลังจากรถยนต์จากนโยบายรถคันแรกเริ่มเติมเข้าสู่ถนน   ทำให้การเดินทางไปทำงานและกลับบ้านต้องใช้ชีวิตอยู่หลังพวงมาลัยไม่น้อยกว่าวันล่ะ 3 ชั่วโมง  ผมมองว่ามันเสียเวลาโดยใช่เหตุรวมถึงการเคร่งเครียดบนท้องถนนเวลารถติดมันไม่สนุกเอาเสียเลย    

เมื่อตัดสินใจจึงประกาศขายรถในรถมือสอง   ช่วงระหว่างนั้นหันมาหาข้อมูลรถมอเตอร์ไซค์ไว้ใช้งานแทนคันแรกๆที่เข้ามาในใจคือคาวาซากิ Er6n มันโดนจริงๆ  ไปลองคร่อม ลองขี่แล้วใช่เลย  แต่มานั่งคิดอีกทีว่ามันเหมาะหรือเปล่าเนื่องจากมีสัมภาระที่ต้องติดตัวไปทำงานทุกวันนนั้นคือกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค ครั้นจะสะพายหลังไปก็ไม่สะดวก  และต้องส่งลูกสาวไปโรงเรียนทุกวัน คิดไปคิดมาจึงมาลงตัวที่ ฮอนด้า Pcx 150  ชนะการประกวดตรงที่ใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คผมได้ทั้งใบในยูบ๊อก ส่วนบิ๊กไบค์ไว้มีโอกาสค่อยว่ากันใหม่

หลังจากขายรถยนต์ได้แล้ว  ก็จัดการถอยเจ้า pcx150  มาครอบครอง แรกๆก็ขี่ในหมู่บ้านก่อนเพื่อความคุ้นเคยและรอป้ายทะเบียน   เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกสนามจริง  วันแรกที่ขี่ไปทำงานเล่นเอามือเย็น เหงื่อแตก  กลัวสาระพัด  ระแวงไปหมดไม่ว่ารถเล็กรถใหญ่  ฝาท่อ ฝนตก  ไม่กล้ามุด   แต่พอมีชั่วโมงบินมากขึ้น  รวมถึงการขับขี่ด้วยความระมัดระวังเอาสติมาเป็นที่ตั้งและเคารพกฎจราจร เครื่องหมายต่างๆ  พอแชร์เป็นประสบการณ์บนท้องถนนใน 1 ปี ของผมดังนี้ครับ

1.  พยายามซ้ายเสมอแต่ไม่ขอบทางยกเว้นชั่วโมงเร่งด่วน    และระลึกเสมอว่าเวลาวิ่งเลนกลางหรือขวา หากเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เรามีส่วนผิดเนื่องจากกฎหมายปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์วิ่งเลนซ้าย
2.  ไม่ให้รถบรรทุก  รถเมล วิ่งตามท้าย  เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุมักได้ยินวลีประจำ "มองไม่เห็นมอเตอร์ไซค์"
3.  หากจะเปลี่ยนเลนเวลามุดช่องว่างระหว่างแถว ต้องหยุดมองรถมอเตอร์ไซค์คันอื่นก่อน  ไม่ปาดหน้าเพราะอันตรายจริงๆ   ไม่มั่นใจไม่แทรก ไม่มุดกลัวเกี่ยวกันล้ม  ตบกระจกมองข้างรถยนต์  ตั้งแต่ขี่มาไปสะกิดกระจกมองข้างรถยนต์ (เฉพาะกระบะ) 3 ครั้ง  ทุกครั้งจอดเปิดหมวกและขอโทษ   หรือเมื่อเวลารถติดแล้วรถยนต์คันหน้าเปิดช่องให้ก้มหัวขอบคุณความมีน้ำใจเสมอ
4.  ใช้ความเร็วที่ปลอดภัย  ไม่ขี่จี้ท้ายคันอื่น  และอยู่ในตำแหน่งสลับฟันปลาป้องกันการเบรคกระทันหัน  การให้สัญญานไฟต่างๆ
5.  เวลาฝนตก หรือถนนลื่น ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษกว่าปกติ   ระวังหลุม  คราบน้ำมัน ทราย หิน
6.  มั่นสังเกตุและวิเคราะห์สถานการณ์รถคันข้างหน้า  ดูการใช้สัญญานไฟ  ปกติถ้ารถยนต์เปิดไฟขอเปลี่ยนเลนผมจะชะลอให้ไปก่อน เพราะถือว่ารถเล็กคล่องตัวกว่า   แต่ก็แอบแปลกใจทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใน กทม. ยิ่งเห็นไฟเลี้ยวยิ่งจี้เข้าไปหา
7.  อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลหมวก  ถุงมือ  เสื้อคลุม  อุปกรณ์ป้องกันรถหาย  ล็อคดิส ฯลฯ และที่สำคัญคือมีสติไม่ประมาท ทุกครั้งที่ขี่มอเตอร์ไซค์  

ทุกวันนี้ติดใจ 2 ล้อ  จากเดิมที่เสียเวลาเดินทางวันล่ะ 3 ชั่วโมง+  ปัจจุบันเหลือไม่เกิน 1.30 ชั่วโมง  ไปมาสะดวก จอดรถง่าย (หายก็ง่ายเช่นกัน)  ค่าบำรุงรักษาและค่าเชื้อเพลิงสบายกระเป๋าตังค์มากๆ  อนาคตหากมีโอกาสคงได้ออกต่างจังหวัดบ้างตามรอยไอดอลพี่น้องชาว 2 ล้อหรือเหล่าทะโมน ไปท่องโลกกว้างกับเค้าบ้าง  


สวัสดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่