เนื่องจาก iPhone 5s วางขายในไทยแล้ว หลายคนคงลังเลอยู่ว่าจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนดี
ส่วนตัวแล้ว ผมจะซื้อเครื่องใหม่และขายเครื่องเดิมทันที ทำแบบนี้ทุกครั้ง และทุกครั้งจะต้องมีคนพูดทำนองว่า "โห เปลี่ยนเครื่องใหม่(อีกแล้ว) ดี(รวย(ประชด))จัง", "เครื่องเก่ายังใหม่อยู่เลย เปลี่ยนทุกรุ่นเลยนะ", "สาวกตัวจริงเลยนะเนี่ย"
ในใจรู้สึกไม่ค่อยดีกับประโยคทำนองนี้ แต่จะบอกเลยว่าผมคิดมาดีแล้วครับว่าวิธีนี้ดีสำหรับผม ครั้งนี้เลยถือโอกาสเอามาเล่าให้ฟังเลยละกัน ว่าผมมีวิธีคิดยังไง กับหัวข้อ.อ.. อ..
"เปลี่ยน iPhone ใหม่ทุกรุ่น เปลืองจังเลย" (จริงเหรอ?)
ผมขอทำเป็นกรณีๆ เพื่อเทียบว่า กรณีไหนมีค่าใช้จ่ายประมาณไหน โดยตัวบ่งชี้ค่าใช้จ่ายคิดเป็น "ค่ามือถือ/ระยะเวลาที่ใช้งาน"
* ข้อมูลราคาตลาดเช็คช่วงเดือน ตุลาคม 2556 การจะให้คุ้มค่าเวลาขายต่อมากที่สุดต้องซื้อ-ขายตอนรุ่นใหม่เพิ่งออกนะครับ
** ราคา iPhone ตอนเปิดตัวทุกรอบปีที่รุ่นเดียวกัน จะราคาเท่ากัน (iPhone 4, iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5s รุ่น 16GB ในรอบปีของมันจะราคาเท่ากันโดยประมาณ)
*** คิดที่รุ่นยอดนิยม iPhone 4, 4s, 5, 5s 16GB ราคาอยู่ที่ 24,000฿ (ราคาประมาณ) ณ เวลาเปิดตัว และไม่เอาเงินต้น 24,000฿ ตอนซื้อเครื่องครั้งแรกมาคิดรวมในอัตรา ฿/เดือน เพราะทุกกรณีมีค่านี้คงที่อยู่แล้วนะครับ
A. กรณีเปลี่ยนเครื่องทันทีที่เครื่องใหม่ออก (iPhone 5 - 1ปี - iPhone 5s)
ลองมาดูกรณีสุดคลาสสิคกันก่อนเลย ผมจะคิดที่รุ่นยอดนิยม iPhone 5 16GB ถ้าขายทันทีไม่เกิน 1-2 สัปดาห์แรกที่ 5s ออก ราคารับซื้อตามท้องตลาดจะอยู่ที่ 14,000฿ คิดตามกรณีผม ซื้อทันทีที่ออก แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 10,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคาเดิม 24,000฿ จะได้สูตรนี้
(24,000 - 14,000) / 12 = 833.33 ฿/เดือน หรือ
10,000/1 = 10,000 ฿/ปี
B. กรณีใช้ iPhone 4s 2ปี (iPhone 4s - 2ปี - iPhone 5s)
กรณีนี้ก็ยอดนิยม เพราะเป็นช่วงเวลาที่หลายคนคิดว่าไม่นานเกินไป Phone 4s ตอนซื้อมาก็ราคา 24,000฿ แต่ผ่านไป 2ปี ราคาลงมาเหลือ 8,000฿ แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 16,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคาเดิม 24,000฿
(24,000 - 8,000) / 24 = 666.67 ฿/เดือน หรือ
16,000/2 = 8,000 ฿/ปี
C. กรณีใช้ iPhone 4 3ปี (iPhone 4 - 3ปี - iPhone 5s)
เมื่อปีที่แล้วมีคนแถวนี้ทำอะไรประมาณนี้ (3GS - 5) ไปขายได้ 3,000฿ ต้องเพิ่มเงินอีก 21,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคา 24,000฿ เลยได้ตามสูตร
(24,000 - 3,000) / 36 = 583.33 ฿/เดือน หรือ
21,000/3 = 7,000 ฿/ปี
D. กรณีใช้ iPhone 4s 2ปี แล้วยกให้คนอื่น (iPhone 4s - 2ปี - iPhone 5s)
กรณีนี้พบเห็นได้บ่อยๆ ในวัยรุ่น เช่น ยกให้พี่น้อง ให้พ่อแม่ ให้แฟน บางคนอาจให้ฟรี บางคนอาจได้เงินกลับมาหน่อย กรณีนี้ขอคิดว่าไม่ได้แล้วกัน (ถ้าได้เงินก็ลองไปคิดเทียบกรณี 2 แล้วกันนะ)
(24,000 - 0) + 24,000 / 24 = 1,000 ฿/เดือน หรือ
24,000/2 = 12,000 ฿/ปี
ผมเลยลองมาสรุปเป็นข้อๆ ตามนี้
ความคุ้มค่า = กรณี B
จะประหยัดกว่า กรณี A (2,000 ฿/ปี) ซึ่งกรณีนี้มีประเด็นนิดนึงที่ เครื่องจะไม่ล่าสุดตลอด หลายคนอาจไม่แคร์ แต่ประเด็นอยู่ที่ประกัน ที่ iPhone มีแค่ปีเดียว ถ้าคุณมีกรณีเครื่องเสียในช่วงปีที่ 2 และเสียค่าซ่อมเกิน 2,000 ฿/ปี (4,000 ฿ เป็นเวลา 2 ปี) แปลว่าคุณ "ขาดทุน" เพราะกรณี A จะถูกกว่าทันที แถมยังต้องจ่ายเท่ากรณี A ที่ได้เครื่องใหม่ตลอดด้วยนะ เออ
กรณีนี้เหมาะสำหรับคนต้องการความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน ใช้งาน iPhone รักษาของดี และไม่ซีเรียสเรื่องเทคโนโลยีมากนัก (เก๋ๆเบาๆ)
ความประหยัด = กรณี C
แน่นอนว่ากรณีนี้ประหยัดสุด เพราะจ่าย 7,000 ฿/ปี แต่ถ้าตลอดอายุการใช้งานซ่อมเกิน 1,000 ฿/ปี จะแพงกว่ากรณี B
ถ้าโชคร้ายซ่อมเกิน 3,000 ฿/ปี จะแพงกว่ากรณี A ทันที แถมยังต้องใช้เครื่องเดิมอีก T^T (เครื่องบิ่น, เป็นรอย, จอพัง, เครื่องอืด, แบตเสื่อม)
กรณีนี้เหมาะสำหรับ คนไม่ซีเรียสเรื่องเทคโนโลยีทันสมัย ใช้งานถนอมเครื่องมากๆ และประหยัด
ความเป็นคนดี = กรณี D
กรณีนี้เหมาะสำหรับลูก/แฟน/พี่ ที่แสนดี เนื่องจากได้ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้ญาติๆ และไม่ต้องไปวุ่นวายหาที่ขายเครื่องต่อให้วุ่นวาย แถมยังได้เป็นที่รักของคนที่ได้รับอีกตะหาก แต่จ่ายแพงสุดเลย 12,000 ฿/ปี และจะเป็น 24,000 ฿/ปี ถ้าปีเดียวเปลี่ยน (เฮือก)
ความทันสมัยที่เหมาะสม (ในความคิดผม) = กรณี A
กรณีนี้แพงสุดแน่นอน แต่ที่ผมบอกว่าคุ้มเพราะอะไร ลองมาดูกัน
- ได้ใช้เครื่องใหม่ล่าสุดตลอดเวลา
- ได้ใช้ Feature ใหม่ๆ ทันทีที่ออก
- ประกัน 1 ปี ปีชนปี ตลอดการใช้งาน ไม่ต้องกลัวเครื่องพัง
- ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเสื่อม เพราะใช้แค่ปีเดียวอยู่แล้ว
ถ้าต้องเลือกกรณี B ใช้ 2 ปี ส่วนต่าง 2,000 ฿/ปี (4,000 ฿/2ปี) ผมว่าด้วยการใช้งานแบบผม แบตเสื่อมแน่นอน แถมขาดประกันและไม่ได้ใช้รุ่นใหม่อีก แค่เพิ่มอีก 2,000 ฿ ปีผมยอมจ่ายครับ
ส่วนกรณี C ตัดออกเลย เพราะนานเกินไปสำหรับผม
สรุปนะครับ
สำหรับผม ถ้าต้องจ่ายต่างกันนิดเดียว เพื่อความสบายใจและได้เครื่องใหม่อยู่ตลอด ผมยอมเปลี่ยนทุกปีดีกว่าเยอะ ไม่ต้องกลัวหมดประกันแล้วเอาไปซ่อมไม่คุ้มเลย และผมเชื่อว่า หลายคนที่ใช้ iPhone เคยเอาไปซ่อมเกินราคาคุ้ม
ยังไงลองอ่านแล้วตัดสินใจดูนะครับ ^^
**** ล่าสุด 27/11/2556 เพื่อนผมขาย iPhone 5 32GB ไปในราคา 17,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 32GB ในราคา 27,500฿ เรียบร้อยแล้ว 2 คน
สุดท้าย ถ้าชอบบทความ ช่วยกดไปที่ลิ้งค์นี้ (ลิ้งค์ต้นฉบับจาก Blog ผมเอง)
http://pongpansblog.blogspot.com/2013/10/iphone.html
เป็นกำลังใจให้คนรีวิวด้วยนะฮะ ขอบคุณครับ
***** EDIT 1,2 : *****
ทิ้งท้ายว่า ผมไม่ได้จะบอกว่ากรณี A ดีสุดนะครับ แต่จะบอกว่า เหมาะกับคนที่คิดแบบผม
ผมบอกชัดเจนไปแล้วว่า ประหยัดสุดคือ C และ B ตามลำดับ
ส่วนเรื่องคุ้ม หรือ พอเพียง ผมว่า ขึ้นอยู่กับความหมายของแต่ละคนดีกว่านะครับ
"เปลี่ยน iPhone ใหม่ทุกรุ่น เปลืองจังเลย" (จริงเหรอ?)
ส่วนตัวแล้ว ผมจะซื้อเครื่องใหม่และขายเครื่องเดิมทันที ทำแบบนี้ทุกครั้ง และทุกครั้งจะต้องมีคนพูดทำนองว่า "โห เปลี่ยนเครื่องใหม่(อีกแล้ว) ดี(รวย(ประชด))จัง", "เครื่องเก่ายังใหม่อยู่เลย เปลี่ยนทุกรุ่นเลยนะ", "สาวกตัวจริงเลยนะเนี่ย"
ในใจรู้สึกไม่ค่อยดีกับประโยคทำนองนี้ แต่จะบอกเลยว่าผมคิดมาดีแล้วครับว่าวิธีนี้ดีสำหรับผม ครั้งนี้เลยถือโอกาสเอามาเล่าให้ฟังเลยละกัน ว่าผมมีวิธีคิดยังไง กับหัวข้อ.อ.. อ..
"เปลี่ยน iPhone ใหม่ทุกรุ่น เปลืองจังเลย" (จริงเหรอ?)
ผมขอทำเป็นกรณีๆ เพื่อเทียบว่า กรณีไหนมีค่าใช้จ่ายประมาณไหน โดยตัวบ่งชี้ค่าใช้จ่ายคิดเป็น "ค่ามือถือ/ระยะเวลาที่ใช้งาน"
* ข้อมูลราคาตลาดเช็คช่วงเดือน ตุลาคม 2556 การจะให้คุ้มค่าเวลาขายต่อมากที่สุดต้องซื้อ-ขายตอนรุ่นใหม่เพิ่งออกนะครับ
** ราคา iPhone ตอนเปิดตัวทุกรอบปีที่รุ่นเดียวกัน จะราคาเท่ากัน (iPhone 4, iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5s รุ่น 16GB ในรอบปีของมันจะราคาเท่ากันโดยประมาณ)
*** คิดที่รุ่นยอดนิยม iPhone 4, 4s, 5, 5s 16GB ราคาอยู่ที่ 24,000฿ (ราคาประมาณ) ณ เวลาเปิดตัว และไม่เอาเงินต้น 24,000฿ ตอนซื้อเครื่องครั้งแรกมาคิดรวมในอัตรา ฿/เดือน เพราะทุกกรณีมีค่านี้คงที่อยู่แล้วนะครับ
A. กรณีเปลี่ยนเครื่องทันทีที่เครื่องใหม่ออก (iPhone 5 - 1ปี - iPhone 5s)
ลองมาดูกรณีสุดคลาสสิคกันก่อนเลย ผมจะคิดที่รุ่นยอดนิยม iPhone 5 16GB ถ้าขายทันทีไม่เกิน 1-2 สัปดาห์แรกที่ 5s ออก ราคารับซื้อตามท้องตลาดจะอยู่ที่ 14,000฿ คิดตามกรณีผม ซื้อทันทีที่ออก แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 10,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคาเดิม 24,000฿ จะได้สูตรนี้
(24,000 - 14,000) / 12 = 833.33 ฿/เดือน หรือ
10,000/1 = 10,000 ฿/ปี
B. กรณีใช้ iPhone 4s 2ปี (iPhone 4s - 2ปี - iPhone 5s)
กรณีนี้ก็ยอดนิยม เพราะเป็นช่วงเวลาที่หลายคนคิดว่าไม่นานเกินไป Phone 4s ตอนซื้อมาก็ราคา 24,000฿ แต่ผ่านไป 2ปี ราคาลงมาเหลือ 8,000฿ แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 16,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคาเดิม 24,000฿
(24,000 - 8,000) / 24 = 666.67 ฿/เดือน หรือ
16,000/2 = 8,000 ฿/ปี
C. กรณีใช้ iPhone 4 3ปี (iPhone 4 - 3ปี - iPhone 5s)
เมื่อปีที่แล้วมีคนแถวนี้ทำอะไรประมาณนี้ (3GS - 5) ไปขายได้ 3,000฿ ต้องเพิ่มเงินอีก 21,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 16GB ที่ราคา 24,000฿ เลยได้ตามสูตร
(24,000 - 3,000) / 36 = 583.33 ฿/เดือน หรือ
21,000/3 = 7,000 ฿/ปี
D. กรณีใช้ iPhone 4s 2ปี แล้วยกให้คนอื่น (iPhone 4s - 2ปี - iPhone 5s)
กรณีนี้พบเห็นได้บ่อยๆ ในวัยรุ่น เช่น ยกให้พี่น้อง ให้พ่อแม่ ให้แฟน บางคนอาจให้ฟรี บางคนอาจได้เงินกลับมาหน่อย กรณีนี้ขอคิดว่าไม่ได้แล้วกัน (ถ้าได้เงินก็ลองไปคิดเทียบกรณี 2 แล้วกันนะ)
(24,000 - 0) + 24,000 / 24 = 1,000 ฿/เดือน หรือ
24,000/2 = 12,000 ฿/ปี
ผมเลยลองมาสรุปเป็นข้อๆ ตามนี้
ความคุ้มค่า = กรณี B
จะประหยัดกว่า กรณี A (2,000 ฿/ปี) ซึ่งกรณีนี้มีประเด็นนิดนึงที่ เครื่องจะไม่ล่าสุดตลอด หลายคนอาจไม่แคร์ แต่ประเด็นอยู่ที่ประกัน ที่ iPhone มีแค่ปีเดียว ถ้าคุณมีกรณีเครื่องเสียในช่วงปีที่ 2 และเสียค่าซ่อมเกิน 2,000 ฿/ปี (4,000 ฿ เป็นเวลา 2 ปี) แปลว่าคุณ "ขาดทุน" เพราะกรณี A จะถูกกว่าทันที แถมยังต้องจ่ายเท่ากรณี A ที่ได้เครื่องใหม่ตลอดด้วยนะ เออ
กรณีนี้เหมาะสำหรับคนต้องการความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน ใช้งาน iPhone รักษาของดี และไม่ซีเรียสเรื่องเทคโนโลยีมากนัก (เก๋ๆเบาๆ)
ความประหยัด = กรณี C
แน่นอนว่ากรณีนี้ประหยัดสุด เพราะจ่าย 7,000 ฿/ปี แต่ถ้าตลอดอายุการใช้งานซ่อมเกิน 1,000 ฿/ปี จะแพงกว่ากรณี B
ถ้าโชคร้ายซ่อมเกิน 3,000 ฿/ปี จะแพงกว่ากรณี A ทันที แถมยังต้องใช้เครื่องเดิมอีก T^T (เครื่องบิ่น, เป็นรอย, จอพัง, เครื่องอืด, แบตเสื่อม)
กรณีนี้เหมาะสำหรับ คนไม่ซีเรียสเรื่องเทคโนโลยีทันสมัย ใช้งานถนอมเครื่องมากๆ และประหยัด
ความเป็นคนดี = กรณี D
กรณีนี้เหมาะสำหรับลูก/แฟน/พี่ ที่แสนดี เนื่องจากได้ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้ญาติๆ และไม่ต้องไปวุ่นวายหาที่ขายเครื่องต่อให้วุ่นวาย แถมยังได้เป็นที่รักของคนที่ได้รับอีกตะหาก แต่จ่ายแพงสุดเลย 12,000 ฿/ปี และจะเป็น 24,000 ฿/ปี ถ้าปีเดียวเปลี่ยน (เฮือก)
ความทันสมัยที่เหมาะสม (ในความคิดผม) = กรณี A
กรณีนี้แพงสุดแน่นอน แต่ที่ผมบอกว่าคุ้มเพราะอะไร ลองมาดูกัน
- ได้ใช้เครื่องใหม่ล่าสุดตลอดเวลา
- ได้ใช้ Feature ใหม่ๆ ทันทีที่ออก
- ประกัน 1 ปี ปีชนปี ตลอดการใช้งาน ไม่ต้องกลัวเครื่องพัง
- ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเสื่อม เพราะใช้แค่ปีเดียวอยู่แล้ว
ถ้าต้องเลือกกรณี B ใช้ 2 ปี ส่วนต่าง 2,000 ฿/ปี (4,000 ฿/2ปี) ผมว่าด้วยการใช้งานแบบผม แบตเสื่อมแน่นอน แถมขาดประกันและไม่ได้ใช้รุ่นใหม่อีก แค่เพิ่มอีก 2,000 ฿ ปีผมยอมจ่ายครับ
ส่วนกรณี C ตัดออกเลย เพราะนานเกินไปสำหรับผม
สรุปนะครับ
สำหรับผม ถ้าต้องจ่ายต่างกันนิดเดียว เพื่อความสบายใจและได้เครื่องใหม่อยู่ตลอด ผมยอมเปลี่ยนทุกปีดีกว่าเยอะ ไม่ต้องกลัวหมดประกันแล้วเอาไปซ่อมไม่คุ้มเลย และผมเชื่อว่า หลายคนที่ใช้ iPhone เคยเอาไปซ่อมเกินราคาคุ้ม
ยังไงลองอ่านแล้วตัดสินใจดูนะครับ ^^
**** ล่าสุด 27/11/2556 เพื่อนผมขาย iPhone 5 32GB ไปในราคา 17,000฿ เพื่อเอาไปซื้อ iPhone 5s 32GB ในราคา 27,500฿ เรียบร้อยแล้ว 2 คน
สุดท้าย ถ้าชอบบทความ ช่วยกดไปที่ลิ้งค์นี้ (ลิ้งค์ต้นฉบับจาก Blog ผมเอง)
http://pongpansblog.blogspot.com/2013/10/iphone.html
เป็นกำลังใจให้คนรีวิวด้วยนะฮะ ขอบคุณครับ
***** EDIT 1,2 : *****
ทิ้งท้ายว่า ผมไม่ได้จะบอกว่ากรณี A ดีสุดนะครับ แต่จะบอกว่า เหมาะกับคนที่คิดแบบผม
ผมบอกชัดเจนไปแล้วว่า ประหยัดสุดคือ C และ B ตามลำดับ
ส่วนเรื่องคุ้ม หรือ พอเพียง ผมว่า ขึ้นอยู่กับความหมายของแต่ละคนดีกว่านะครับ