หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สำหรับหนังสือ The Autobiography ของ Sir Alex Ferguson ซึ่งมีประเด็นมากมายที่มาเขียนข่าวได้เป็นอาทิตย์ หลังจากเปิดตัวหนังสือไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Sir Alex Ferguson ก็ได้จัด Event คล้ายๆงานสัมภาษณ์ขึ้นทั่วเกาะอังกฤษ โดยตั้งชื่อว่า An Evening with Sir Alex Ferguson โดยจัดขึ้นที่แรกที่ The Lowry, Salford (เมืองข้างๆ Manchester) เมื่อวานนี้ ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสไปฟังมา ก็เลยอยากเล่าแง่มุมบางแง่มุม มุขบางมุขในงาน



ก่อนอื่นต้องเล่าถึงตั๋วที่ได้มา งานนี้จัดในโรงละครขนาด 2000 ที่นั่งแน่นอน คนที่นี่ก็บ้า Sir Alex มากๆ ทำให้ตั๋วขายหมดภายใน 4 นาที ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของ Events ที่ตั๋วขายหมดเร็วที่สุดของโรงหนังเลยทีเดียว ซึ่งผมก็ฝ่าฝัน 4 นาทีนั้นจนได้มันมา เรียกว่านั่ง Refresh หน้าจอทุกวินาทีเลยที ราคาหน้าตั๋วนั้นก็ 40 ปอนด์ แต่หลังจากนั้นราคาที่มีคนนำไปขายใน E-bay นั้นสูงถึงใบละ 100 ปอนด์ เรียกว่าอยากขายทิ้งทำกำไรมากๆ แต่นั่นก็ยังไม่พอกับความต้องการ เพราะวันนี้ที่หน้าโรงหนังก็ยังมีคนถามซื้อตั๋ว (ปรกติมีแต่คนขายตั๋วผี แต่งานนี้ถามซื้อตั๋ว)



งานนี้ก็มีคนดังมาฟังพอสมควรทั้ง David Moyes, Mike Phelan, Denis Law ราชาสตั๊ดเหินหาว หรือ อดีต ceo คนก่อนหน้าพี่เอ็ดของเราอย่าง David Gill



มาพูดถึงบรรยากาศในงานบ้าง พิธีกรในงานนี้คือ Den Walker จาก BBC1 ซึ่งเริ่มต้นด้วยการฉายวีดีโอสั้นสรุปความสำเร็จที่ผ่านของ Sir Alex ก่อนที่ท่านเซอร์จะปรากฎตัว คำถามแรกๆที่พูดถึงกันคือเกี่ยวกับการรับงานที่ Manchester United ซึ่งท่าเซอร์บอกว่ามันเป็นความท้าทายอย่างมาก เค้าไม่เคยมาดูบอลที่สนาม Old trafford มาก่อนที่จะรับงาน นัดแรกที่เค้าคุมทีมนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะนักเตะเจ็บเกือบครึ่งทีม จนแพ้ไป 2-0

ท่านเซอร์ยอมรับว่าการคุมทีมช่วงนั้นมีการแข่งขันกันหลายทีม ทุกทีมต้องการเป็นแชมป์ เพราะฉะนั้นทุกนัดสำคัญหมด ทีมอย่าง Villa Newcastle ทุกทีมต้องการเป็นแชมป์ Den Walker ถามต่อว่าตอนนั้นคิดไหมว่าจะได้แชมป์ลีคสมัยที่ 13 กับ United ท่านเซอร์บอกว่าตอนนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะชนะ Liverpool พวกเค้าเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก "They won 4 European cup in that period??? (เงียบ) What ever (ฮา)" (ประมาณว่าช่างมันเถอะ แล้วท่านเซอร์ก็ทำท่าแบบไม่แคร์)

ท่านเซอร์ยังเสริมอีกว่าการแข่งขันที่อังกฤษไม่เหมือนกับที่สก๊อตแลนด์ (สมัยคุม Aberdeen) "ที่นั่นเพียงแค่คุณชนะ Ranger กับ Celtic มนุษย์ต่างดาวที่ไหนก็ไม่สามารถแย่งแชมป์ไปจากคุณได้แล้ว"



ต่อมาก็พูดถึงการซื้อตัว Cantona ซึ่งท่านเซอร์บอกว่า Cantona เป็นนักเตะที่เยี่ยมมาก การลงประเดิมสนามนัดแรกในเสื้อ United ของ Cantona ซึ่งลงไปเป็นตัวสำรองในนัดพบกับ Manchester City นั้น สัมผัสแรกที่เค้าได้บอล Cantona ทำให้ท่านเซอร์คิดในใจว่า "ไอ่หมอนี้ผ่านบอลห่วยมาก"

จากนั้น Den Walker ก็ถามว่ามีนักเตะคนไหนที่พิเศษเหมือน Cantona ไหม ซึ่งท่านเซอร์ก็ได้ตอบว่า Cantona มีความพิเศษทั้งความสามารถและบุคลิก ซึ่งคนที่มีความพิเศษก็มีหลายคนอย่าง Keane หรือ Robson ก็มีบุคลิกที่มีความเป็นผู้นำสูง ส่วนความสามารถสูงก็มีอย่าง Ronaldo ซึ่งท่านเซอร์ได้พูดถึงการนำทีมไปเตะกับ Sporting Lisbon ที่โปรตุเกสซึ่งมี Ronaldo อยู่ตอนนั้นว่า เค้าบอกให้นักเตะคนหนึ่งประกบ Ronaldo แต่หลังเตะนักเตะคนนั้นบรรยายสรรพคุณของ Ronaldo ว่า "I cannot reach him" ซึ่งนักเตะคนนั้นคือ John O'Shea


Den Walker ถามต่อว่านักเตะต่างชาติที่ Sir Alex ชอบมากที่สุดคือใคร ซึ่งท่านเซอร์ตอบอย่างรวดเร็วว่า Zola (ผมก็ปลื้ม Zola เหมือนกัน ฟินเลย) "Zola ทำให้ Pallister ไถลไปไกล 5 หลา จนต้องหาตั๋วกลับมาเลย (get a ticket back)"


จากนั้นก็เป็นเรื่องการวางมือซึ่ง Den Walker ถามว่าถ้าไม่ได้แชมป์จะท่าเซอร์วางมือไหม ท่านเซอร์บอกว่าจะวางมือ คราวนี้ไม่เหมือนกับครั้งแรกซึ่งเค้าคิดผิด เพราะการบอกในครั้งแรกนั้น เค้าบอกนักเตะก่อนทำให้นักเตะไม่มีกำลังใจ ในครั้งนี้ไม่ว่าจะจบฤดูกาลด้วยแชมป์หรือไม่เค้าก็จะวางมือ Den Walker จึงถามต่อว่า ถ้าฤดูกาลได้แชมป์ เค้าจะวางมือไหม ท่านเซอร์ตอบว่าไม่ตอนนั้นยังไม่ได้คิด "ความจริงเราควรได้แชมป์ฤดูกาลนั้นด้วย" (สงสัยยังแค้นไม่หาย)

ท่านเซอร์ก็ได้เล่าว่าเค้าได้คิดว่ามือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยตัดสินไม่บอกใคร โดยจะบอกนักเตะเป็นคนกลุ่มแรก เพราะมันเป็นเรื่องของทีม ท่านเซอร์จึงจัดการมันเป็นความลับ แม้กระทั่งน้องชาย (น่าจะ Martin Ferguson) ท่านเซอร์ยังไม่ได้บอกก่อนเลย พอบอกนักเตะเสร็จแล้วก็ค่อยบอกกับคนอื่น รวมทั้งน้องชาย ซึ่งตอนนั้นน้องชายก็ไม่พอใจที่ท่านเซอร์ไม่บอกเรื่องนี้ให้กับครอบครัวก่อน ท่านเซอร์จึงย้ำเหตุผลที่เป็นเรื่องของทีม เค้าต้องการเก็บมันเป็นความลับ แล้วบอกกับนักเตะก่อน "ถ้าคุณบอกความลับคนอื่นก่อน มันก็ไม่เป็นความลับ"

นอกจากนี้ท่านเซอร์ยังเล่าว่า Cathy Ferguson นั้นยังไม่เชื่อในการวางมือของเค้าเลยในตอนแรก เพราะเธอเตะขาเค้าแล้วเดินผ่านเตียงไปพร้อมพูดว่า "You're not doing it"



จากนั้นพักเป็นเรื่องเบาๆอย่างเรื่องคนดังกับท่านเซอร์ ซึ่งได้กล่าวถึงคนหลายคน เช่น Kylie Minogue หรือ นายกรัฐมนตรีอิสลาเอล จากนั้นก็กลับมาเรื่องฟุตบอลโดยพูดถึง Class of 1992 และวลีเด็ดของ Alan Hansen ที่บอกว่า "'You'll never win anything with kids" ซึ่งกล่าวหลังเกมส์ที่ United แพ้ Villa 3-1 โดยในครึ่งแรกตามอยู่ 3-0 โดยท่านเซอร์บอกว่า "นัดนั้นมันเป็นความผิดของผมเอง"

จากนั้นก็พูดถึงคู่อริอย่าง Liverpool ซึ่งเค้าก็บอกว่า Liverpool เป็นหนึ่งในสองทีมที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ (อีกทีมคือ United อย่างไม่ต้องสงสัย) ซึ่งท่านเซอร์ก็กล่าวชมจนออกนอกหน้าจน Den Walker ต้องถามว่าดูยกย่อง Liverpool จัง ท่านเซอร์เลยปล่อยมุขกลับมาว่า "Did I say that?" (ประมาณว่าฉันพูดไปเหรอ) จนคนหัวเราะกันตรึม พูดไปหมดแล้วครับป๋า

จากนั้นป๋าก็ปล่อยมุขเล็กอีกว่า คุณรู้ไหมว่ามือถือของ Albert Morgan (ลุงที่ดูแลชุดแข่งของ United) มี Ringtone เป็นเพลงอะไร เพลง "The great escape" (ประมาณว่าอยากหนีเต็มที่) จากนั้นก็พูดถึงชีวิตหลังจากการวางมือ ซึ่งท่านเซอร์ได้กล่าวว่ามันเป็น พักผ่อนครั้งแรกในรอบ 71 ปีของเค้า

Den Walker ถามต่อว่านัดไหนที่เป็นนัดพิเศษของท่านเซอร์ ซึ่งท่านเซอร์ตอบว่าทุกนัดเป็นนัดสำคัญหมด Den Walker จึงถามเกี่ยวกับปี 1999 ทั้งนัด Semi-final FA cup กับอาร์เซนอล และ ลูกยิงของ Giggs ท่านเซอร์บอกว่า "ถึงตอนนี้ Keown คงอยากดึง Giggs ให้ล้มลงนอกกรอบมากกว่า"


จากนั้นก็พูดถึงนัดชิง European cup ท่านเซอร์กล่าวว่าเค้ามั่นใจตั้งแต่ตอนที่ผ่านรอบรองกับ Juventus แล้ว ตอนนั้นโปรแกรมชุกมาก พอถึงนัดชิง การเปลี่ยนตัวเอา Lothar Matthaus ถึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ท่านเซอร์ยังได้ยกว่านัดชิงนัดนั้นเป็นนัดที่พิเศษสุดของเค้า (ไหนบอกเมื่อกี้ว่าสำคัญหมดไงป๋า) สุดท้ายก็เป็นเรื่องของ งานปัจจุบันของท่านเซอร์ ที่ทำงานให้กับ 3U ได้แก่ United UNICEF และ UEFA (เป็นผู้ฝึกสอนโค้ช) จากนั้น Den Walker ก็บอกให้ไปอ่านต่อในหนังสือ (หมดเวลาแล้ว) เป็นอันจบงาน

หลังจากจบงานก็ได้รับหนังสือพร้อมลายเซ็นต์ของ Sir Alex แต่ได้มาคนเดียวไม่พอใจ ผมจึงไปดักรอขอลายเซ็นต์ David Moyes มาอยู่ในหน้าเดียวกันซะเลย



สุดท้ายจริงๆ เป็นประโยคหนึ่งที่ท่านเซอร์พูดแล้วผมประทับใจมาก อยากให้แฟนๆ United ในเมืองไทยได้รู้คือ

"The young fans growing up don't remember the really bad days"

ผมก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแฟนรุ่นใหม่ ที่พึ่งเริ่มเชียร์เมื่อปี 1995 อยู่ในช่วงที่ประสบความสำคัญของ United มาตลอด หวังว่าแฟน United จะอยู่เคียงข้างทีมต่อไปไม่ว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต