เมื่อก่อนจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือนิยายซักเท่าไหร่ เพราะว่าสมาธิสั้น
ตอนเรียนก็เรียนๆ เล่นๆ หนังสือเรียนก็ไม่ค่อยจะอ่าน มาอ่านตอนใกล้สอบ
จบมาก็ได้เกรดกลางๆ ตอนนั้นชอบดูหนัง เล่นเกมออนไลน์ มากกว่า
แต่ชีวิตก็พลิกผัน ได้เริ่มอ่านนิยายเล่มหนาๆ ครั้งแรก คือ แฮรี่ พอตเตอร์เล่มแรก
มันคือหนังสือที่หนาที่สุดเล่มแรกในชีวิตที่เคยอ่านเลยะนะ
เห็นลูกพี่ลูกน้องอ่านแล้วบอกว่าสนุกดี เลยขอยืมเค้ามาอ่าน สรุปว่าชอบ
ก็เลยบอกแม่กับน้องลองอ่านดู ก็ชอบเหมือนกัน เลยแชร์กันซื้อไปเรื่อยๆ จนครบชุด
เนื่องจากตอนนั้นก็ยังเรียนอยู่ ใกล้จบละ ก็เลยต้องแชร์กัน
จากนั้น ก็ซื้อ ลอร์ดออฟ เดอะ ริง ก็ยังไม่ใช่เงินตัวเองทั้งหมด
พอเริ่มทำงาน ก็ห่างหายจากการอ่านนิยาย มาอ่านหนังสือการ์ตูนแทน
ช่วงนั้นงานที่ทำ ทำไม่ค่อยเป็นเวลา บางวันเข้างานตี 3 บางวันเลิกงานตี 2
เลยไม่มีเวลาว่างหยิบจับนิยายเล่มหนาๆ อีกเลย
พอมาทำงานประจำ เริ่มมีเงินเก็บซื้อคอม โน๊ตบุ๊ก มือถือ เสื้อผ้าด้วยเงินตัวเอง
แต่ก็ยังไม่มีเวลาหานิยายมาอ่านสักที จนมาเมื่อปีที่แล้ว ที่มีเวลาว่างมากขึ้น
จึงได้เริ่มหานิยายที่เราลองอ่าน ลองดูจากหนังแล้วชอบ
สุดท้าย ก็ได้นิยายชุดจากเงินตัวเองล้วนๆ 2 ชุดนี้ซื้อเมื่อปลายปีที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ซื้ออีกชุดนึง + หนังสือที่น่าจะทำให้เราพัฒนาความคิดไปอีกระดับหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วมาครั้งล่าสุดที่พึ่งผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเอามารวมกัน เราเลยรู้สึกแอบภูมิใจเล็กๆ กับสิ่งที่เราเชอบมันตั้งแต่เยาว์วัย
ถึงตอนนี้ บางครั้งบางคราว เราก็อยากแลกเปลี่ยน คห. กับคนอื่นๆ ที่อ่าน แนวเดียวกับเรานะ
แต่หาแบบที่เป็นกลุ่มเป็นก้อนจริงๆ แทบจะไม่มีเลย ไม่เหมือนพวก หนัง ละคร ที่มีให้เห็นมากมาย
ใครอยากแลกเปลี่ยน หรือ แชร์ ความรู้สึก เชิญได้นะครับ
ยินดีรับฟัง และสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ
จบงานหนังสือไปอีกครั้งหนึ่ง แอบภูมิใจตัวเองลึกๆ กับหนังสือที่ซื้อมา
ตอนเรียนก็เรียนๆ เล่นๆ หนังสือเรียนก็ไม่ค่อยจะอ่าน มาอ่านตอนใกล้สอบ
จบมาก็ได้เกรดกลางๆ ตอนนั้นชอบดูหนัง เล่นเกมออนไลน์ มากกว่า
แต่ชีวิตก็พลิกผัน ได้เริ่มอ่านนิยายเล่มหนาๆ ครั้งแรก คือ แฮรี่ พอตเตอร์เล่มแรก
มันคือหนังสือที่หนาที่สุดเล่มแรกในชีวิตที่เคยอ่านเลยะนะ
เห็นลูกพี่ลูกน้องอ่านแล้วบอกว่าสนุกดี เลยขอยืมเค้ามาอ่าน สรุปว่าชอบ
ก็เลยบอกแม่กับน้องลองอ่านดู ก็ชอบเหมือนกัน เลยแชร์กันซื้อไปเรื่อยๆ จนครบชุด
เนื่องจากตอนนั้นก็ยังเรียนอยู่ ใกล้จบละ ก็เลยต้องแชร์กัน
จากนั้น ก็ซื้อ ลอร์ดออฟ เดอะ ริง ก็ยังไม่ใช่เงินตัวเองทั้งหมด
พอเริ่มทำงาน ก็ห่างหายจากการอ่านนิยาย มาอ่านหนังสือการ์ตูนแทน
ช่วงนั้นงานที่ทำ ทำไม่ค่อยเป็นเวลา บางวันเข้างานตี 3 บางวันเลิกงานตี 2
เลยไม่มีเวลาว่างหยิบจับนิยายเล่มหนาๆ อีกเลย
พอมาทำงานประจำ เริ่มมีเงินเก็บซื้อคอม โน๊ตบุ๊ก มือถือ เสื้อผ้าด้วยเงินตัวเอง
แต่ก็ยังไม่มีเวลาหานิยายมาอ่านสักที จนมาเมื่อปีที่แล้ว ที่มีเวลาว่างมากขึ้น
จึงได้เริ่มหานิยายที่เราลองอ่าน ลองดูจากหนังแล้วชอบ
สุดท้าย ก็ได้นิยายชุดจากเงินตัวเองล้วนๆ 2 ชุดนี้ซื้อเมื่อปลายปีที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ซื้ออีกชุดนึง + หนังสือที่น่าจะทำให้เราพัฒนาความคิดไปอีกระดับหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วมาครั้งล่าสุดที่พึ่งผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเอามารวมกัน เราเลยรู้สึกแอบภูมิใจเล็กๆ กับสิ่งที่เราเชอบมันตั้งแต่เยาว์วัย
ถึงตอนนี้ บางครั้งบางคราว เราก็อยากแลกเปลี่ยน คห. กับคนอื่นๆ ที่อ่าน แนวเดียวกับเรานะ
แต่หาแบบที่เป็นกลุ่มเป็นก้อนจริงๆ แทบจะไม่มีเลย ไม่เหมือนพวก หนัง ละคร ที่มีให้เห็นมากมาย
ใครอยากแลกเปลี่ยน หรือ แชร์ ความรู้สึก เชิญได้นะครับ
ยินดีรับฟัง และสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ