รบกวนขอความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำจากเพื่อนๆ และ ขอเป็นอุทธาหรณ์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบด้วยครับ
เมื่อเย็นวันนี้การไฟฟ้านครหลวง สาขาสามเสนโทร.มาหาถามว่าคอนโดฯ ที่เป็นเจ้าของอยู่แถวแยกอสมท.มีคนอยู่หรือเปล่า เพราะเขาพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าไม่หมุนเลยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 หรือปีเศษๆ มาแล้ว ผมตอบกลับไปว่ามีคนอยู่เกือบตลอด ยกเว้นช่วงเปลี่ยนผู้เช่าระยะเวลาประมาณ 1 เดือน คือ ประมาณเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา เขาบอกผมว่ามิเตอร์ผมไม่หมุน แต่เขาจำเป็นต้องคิดค่าไฟฟ้าย้อนหลัง ผมถามเขาว่าเขาจะมีวิธีคิดค่าไฟฟ้าอย่างไร เขาตอบว่าเขาจะประมาณการจากค่าเฉลี่ยค่าไฟฟ้าสามเดือนก่อนที่มิเตอร์จะหยุดหมุน หากเป็นตามนั้น ผมคาดว่าค่าไฟฟ้าที่นำมาคำนวณน่าจะหมายถึงประมาณช่วงเดือน ก.พ. ถึง เม.ย. 2555 เขาขอให้ผมติดต่อนิติบุคคลของโครงการเพื่อขอ
ยอดการใช้น้ำประปามาแล้วส่ง fax ให้เขาพิจารณาประกอบ ทั้งนี้เขาขอย้อนหลังไปอีกหนึ่งปีคือตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 ด้วย ผู้เช่ารายแรกเป็นชาวเกาหลีซึ่งเดินทางกลับประเทศไปแล้ว เท่าที่คุยกัน เขาบอกว่าผมในฐานะที่เป็นเจ้าของห้องต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น สำหรับผู้เช่าคนปัจจุบันผมไม่ห่วงมาก เพราะติดต่อกันได้ แต่ผู้เช่ารายแรกคงติดต่อไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ผมก็ยังได้แจ้งว่า ผู้เช่ารายแรกมีอาชีพค้าขาย เดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด ไม่ได้พักที่คอนโดฯ ผมตลอดเวลา ค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้ายที่ผมชำระแทนให้ตอนเขาออกจากห้องมีมูลค่าประมาณ 40 บาทเท่านั้น ผมจึงไม่ได้เอะใจอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากคิดว่าเขาไม่ได้อยู่อาศัยเลย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ คนเดิมบอกผมว่า เป็นไปได้ว่ามิเตอร์หยุดหมุน ทำให้ไม่มียอดการใช้ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้า 40 กว่าบาทนั้นเป็นเพียงค่า "เช่ามิเตอร์" เท่านั้น
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า มิเตอร์ของห้องผมถูกเปลี่ยนเครื่องด้วย ซึ่งหลังจากได้ยินเช่นนั้น ผมก็ได้บอกไปว่าผมเป็นเจ้าของห้อง ผมยังไม่เคยทราบเลยว่ามิเตอร์ของผมถูกเปลี่ยนไป ซึ่งผมจำไม่ได้แน่ชัดว่าเขาบอกผมว่าเปลี่ยนไปเมื่อใด (เนื่องจากคุยกันนาน) แต่ในความเข้าใจของผมเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มิเตอร์หยุดหมุนมีความเป็นไปได้สูงที่เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนมิเตอร์แล้ว ทั้งนี้พอผมถามไปว่าเปลี่ยนได้อย่างไร เขาตอบอย่างไม่ชัดเจนว่าสามารถทำได้ "หลายช่องทาง" แต่ก็ไม่สามารถอธิบายให้อย่างชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง
ก่อนวางสายจากกัน เขาก็ยังแนะนำให้ผมเปลี่ยนช่องทางในการชำระค่าไฟฟ้า จากเดิมที่ผมให้ผู้เช่าชำระเองตามยอดที่ตนใช้ เป็นผมชำระเอง เขาว่าวิธีนี้ผมจะสังเกตถึงความผิดปกติจากการใช้ไฟฟ้าได้ เขายังแนะนำอีกว่าสังเกตง่ายๆ คอนโดฯ ที่ไม่มีคนอยู่อาศัย หรืออาศัยน้อยมาก แต่มีตู้เย็นเสียบปลั๊กไฟอยู่จะมีค่าไฟอย่างน้อยๆ ประมาณ 200 บาทแน่ๆ หากต่ำกว่านั้นให้สงสัยว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น
จากที่เล่ามาทั้งหมด ผมสงสัยว่า
1. การที่การไฟฟ้าฯ จะเรียกเก็บเงินย้อนหลังจากผมมีความเป็นธรรมหรือไม่
(ผมยอมรับในหลักการที่ว่าหากมีการใช้ไฟฟ้า ผู้ใช้ก็ต้องรับผิดชอบ แต่ผมรู้สึกว่าการที่มิเตอร์ที่ผมเป็นเจ้าของถูกเปลี่ยนไปโดยพลการ เนื่องจากไม่มีการแจ้งให้ผมทราบล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผมไม่ทราบว่าสาเหตุที่เปลี่ยนเพราะอะไร และคุณภาพของมิเตอร์เครื่องที่นำมาเปลี่ยนเป็นอย่างไร การติดตั้งทำได้อย่างถูกต้องหรือไม่)
2. ผมสงสัยว่าหากผมตอบไปตอนแรกว่า "ไม่มีคนอยู่อาศัย" การไฟฟ้าฯ จะทำอย่างไร หรือจะทำอะไรได้ เพราะมีการใช้ไฟฟ้าเกิดขึ้นจริง มีค่าใช้จ่าย (แฝง) เกิดขึ้น แต่เอาผิดกับใครไม่ได้ อย่างนั้นหรือเปล่า ที่ผมใช้คำว่า "แฝง" คงไม่ถูก เพราะไม่ทราบจะใช้คำว่าอะไรดี แต่ผมคิดว่า เจ้าหน้าที่ฯ ก็คงไม่ทราบ เพราะเขาบอกผมว่ามิเตอร์ค้างอยู่ที่ 499 หน่วยมาตลอดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2555 การถามผมว่าคอนโดฯ มีผู้อาศัยหรือไม่จึงเหมือนการ "หยั่งเชิง" และคำตอบของผมเป็นเหมือนการ "เข้าทาง" ของเขาหรือเปล่า
3. ผมสามารถปฏิเสธความรับผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไหมครับ หากยกเหตุผลเรื่องมิเตอร์มาประกอบ แต่ทั้งนี้ผมไม่มีหลักฐานอะไรเลย ว่ามิเตอร์ถูกเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการอ้างของเจ้าหน้าที่ ผมไม่มีเลขประจำมิเตอร์เครื่องเก่า และเลขประจำมิเตอร์เครื่องใหม่ ไม่ทราบจะพิสูจน์ได้อย่างไร หากเป็นเรื่องเป็นราวกันต่อไป และเจ้าหน้าที่ฯ กลับคำว่าไม่เคยมีการเปลี่ยนมิเตอร์เพื่อให้พ้นผิด
รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ใกล้เคียง หรือมีความรู้ทางกฏหมายหน่อยได้ไหมครับ ว่าทางออกในเรื่องนี้สำหรับผมควรเป็นหัวหรือก้อยดี เพราะยอดการรับผิดอาจเป็นหลักหมื่นบาทได้ ขอบคุณมากครับ
########## การไฟฟ้าบอกว่ามิเตอร์ของคอนโดที่ปล่อยเช่าหยุดหมุนมานาน จะคิดเงินย้อนหลัง ทำยังไงดี ##########
เมื่อเย็นวันนี้การไฟฟ้านครหลวง สาขาสามเสนโทร.มาหาถามว่าคอนโดฯ ที่เป็นเจ้าของอยู่แถวแยกอสมท.มีคนอยู่หรือเปล่า เพราะเขาพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าไม่หมุนเลยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 หรือปีเศษๆ มาแล้ว ผมตอบกลับไปว่ามีคนอยู่เกือบตลอด ยกเว้นช่วงเปลี่ยนผู้เช่าระยะเวลาประมาณ 1 เดือน คือ ประมาณเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา เขาบอกผมว่ามิเตอร์ผมไม่หมุน แต่เขาจำเป็นต้องคิดค่าไฟฟ้าย้อนหลัง ผมถามเขาว่าเขาจะมีวิธีคิดค่าไฟฟ้าอย่างไร เขาตอบว่าเขาจะประมาณการจากค่าเฉลี่ยค่าไฟฟ้าสามเดือนก่อนที่มิเตอร์จะหยุดหมุน หากเป็นตามนั้น ผมคาดว่าค่าไฟฟ้าที่นำมาคำนวณน่าจะหมายถึงประมาณช่วงเดือน ก.พ. ถึง เม.ย. 2555 เขาขอให้ผมติดต่อนิติบุคคลของโครงการเพื่อขอ
ยอดการใช้น้ำประปามาแล้วส่ง fax ให้เขาพิจารณาประกอบ ทั้งนี้เขาขอย้อนหลังไปอีกหนึ่งปีคือตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 ด้วย ผู้เช่ารายแรกเป็นชาวเกาหลีซึ่งเดินทางกลับประเทศไปแล้ว เท่าที่คุยกัน เขาบอกว่าผมในฐานะที่เป็นเจ้าของห้องต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น สำหรับผู้เช่าคนปัจจุบันผมไม่ห่วงมาก เพราะติดต่อกันได้ แต่ผู้เช่ารายแรกคงติดต่อไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ผมก็ยังได้แจ้งว่า ผู้เช่ารายแรกมีอาชีพค้าขาย เดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด ไม่ได้พักที่คอนโดฯ ผมตลอดเวลา ค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้ายที่ผมชำระแทนให้ตอนเขาออกจากห้องมีมูลค่าประมาณ 40 บาทเท่านั้น ผมจึงไม่ได้เอะใจอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากคิดว่าเขาไม่ได้อยู่อาศัยเลย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ คนเดิมบอกผมว่า เป็นไปได้ว่ามิเตอร์หยุดหมุน ทำให้ไม่มียอดการใช้ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้า 40 กว่าบาทนั้นเป็นเพียงค่า "เช่ามิเตอร์" เท่านั้น
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า มิเตอร์ของห้องผมถูกเปลี่ยนเครื่องด้วย ซึ่งหลังจากได้ยินเช่นนั้น ผมก็ได้บอกไปว่าผมเป็นเจ้าของห้อง ผมยังไม่เคยทราบเลยว่ามิเตอร์ของผมถูกเปลี่ยนไป ซึ่งผมจำไม่ได้แน่ชัดว่าเขาบอกผมว่าเปลี่ยนไปเมื่อใด (เนื่องจากคุยกันนาน) แต่ในความเข้าใจของผมเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มิเตอร์หยุดหมุนมีความเป็นไปได้สูงที่เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนมิเตอร์แล้ว ทั้งนี้พอผมถามไปว่าเปลี่ยนได้อย่างไร เขาตอบอย่างไม่ชัดเจนว่าสามารถทำได้ "หลายช่องทาง" แต่ก็ไม่สามารถอธิบายให้อย่างชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง
ก่อนวางสายจากกัน เขาก็ยังแนะนำให้ผมเปลี่ยนช่องทางในการชำระค่าไฟฟ้า จากเดิมที่ผมให้ผู้เช่าชำระเองตามยอดที่ตนใช้ เป็นผมชำระเอง เขาว่าวิธีนี้ผมจะสังเกตถึงความผิดปกติจากการใช้ไฟฟ้าได้ เขายังแนะนำอีกว่าสังเกตง่ายๆ คอนโดฯ ที่ไม่มีคนอยู่อาศัย หรืออาศัยน้อยมาก แต่มีตู้เย็นเสียบปลั๊กไฟอยู่จะมีค่าไฟอย่างน้อยๆ ประมาณ 200 บาทแน่ๆ หากต่ำกว่านั้นให้สงสัยว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น
จากที่เล่ามาทั้งหมด ผมสงสัยว่า
1. การที่การไฟฟ้าฯ จะเรียกเก็บเงินย้อนหลังจากผมมีความเป็นธรรมหรือไม่
(ผมยอมรับในหลักการที่ว่าหากมีการใช้ไฟฟ้า ผู้ใช้ก็ต้องรับผิดชอบ แต่ผมรู้สึกว่าการที่มิเตอร์ที่ผมเป็นเจ้าของถูกเปลี่ยนไปโดยพลการ เนื่องจากไม่มีการแจ้งให้ผมทราบล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผมไม่ทราบว่าสาเหตุที่เปลี่ยนเพราะอะไร และคุณภาพของมิเตอร์เครื่องที่นำมาเปลี่ยนเป็นอย่างไร การติดตั้งทำได้อย่างถูกต้องหรือไม่)
2. ผมสงสัยว่าหากผมตอบไปตอนแรกว่า "ไม่มีคนอยู่อาศัย" การไฟฟ้าฯ จะทำอย่างไร หรือจะทำอะไรได้ เพราะมีการใช้ไฟฟ้าเกิดขึ้นจริง มีค่าใช้จ่าย (แฝง) เกิดขึ้น แต่เอาผิดกับใครไม่ได้ อย่างนั้นหรือเปล่า ที่ผมใช้คำว่า "แฝง" คงไม่ถูก เพราะไม่ทราบจะใช้คำว่าอะไรดี แต่ผมคิดว่า เจ้าหน้าที่ฯ ก็คงไม่ทราบ เพราะเขาบอกผมว่ามิเตอร์ค้างอยู่ที่ 499 หน่วยมาตลอดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2555 การถามผมว่าคอนโดฯ มีผู้อาศัยหรือไม่จึงเหมือนการ "หยั่งเชิง" และคำตอบของผมเป็นเหมือนการ "เข้าทาง" ของเขาหรือเปล่า
3. ผมสามารถปฏิเสธความรับผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไหมครับ หากยกเหตุผลเรื่องมิเตอร์มาประกอบ แต่ทั้งนี้ผมไม่มีหลักฐานอะไรเลย ว่ามิเตอร์ถูกเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการอ้างของเจ้าหน้าที่ ผมไม่มีเลขประจำมิเตอร์เครื่องเก่า และเลขประจำมิเตอร์เครื่องใหม่ ไม่ทราบจะพิสูจน์ได้อย่างไร หากเป็นเรื่องเป็นราวกันต่อไป และเจ้าหน้าที่ฯ กลับคำว่าไม่เคยมีการเปลี่ยนมิเตอร์เพื่อให้พ้นผิด
รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ใกล้เคียง หรือมีความรู้ทางกฏหมายหน่อยได้ไหมครับ ว่าทางออกในเรื่องนี้สำหรับผมควรเป็นหัวหรือก้อยดี เพราะยอดการรับผิดอาจเป็นหลักหมื่นบาทได้ ขอบคุณมากครับ