ใหญ่กว่าก็ไม่กลัว!!! อาเบะ ขู่ฟ่อ ใส่จีน อย่าคิดใช้กำลัง!!! จะตอบโต้อย่างแข็งกร้าว!!! พร้อมส่งเครื่องบินรบสู่ท้องฟ้า!!!

กระทู้ข่าว

อาเบะ ขู่ฟ่อ ใส่จีน!!! อย่าคิดใช้กำลัง!!! ขณะ 2 ฝ่ายส่งเครื่องบินรบสู่ท้องฟ้า!!!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ตุลาคม 2556

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ (ด้านบนคนกลาง) เป็นประธานตรวจพลสวนสนามของกองกำลังป้องกันตนเอง (กองทัพ) ของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์(27) เขาใช้โอกาสนี้กล่าวเตือนจีนว่าอย่าคิดใช้กำลังมาเปลี่ยนแปลง “สถานะเดิม” ในภูมิภาคนี้

       เอเจนซีส์ – อุณหภูมิการเมืองในเอเชียตะวันออกยิ่งร้อนระอุ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวเตือนจีนอีกครั้งในวันอาทิตย์ (27 ต.ค.) ว่าอย่าได้ใช้กำลังบีบบังคับเพื่อเปลี่ยนดุลอำนาจในภูมิภาค พร้อมเรียกร้องทหารญี่ปุ่นเลิกคิดเพียงฝึกซ้อมยามสงบ แต่ต้องปกป้องประชาชนและประเทศชาติ ขณะที่มีรายงานว่าโตเกียวได้ส่งฝูงเครื่องบินขับไล่ของตนขึ้นสู่ท้องฟ้า 3 วันติดต่อกัน เพื่อตอบโต้เครื่องบินทหารของปักกิ่งซึ่งบินไปใกล้ๆ เกาะโอกินาวา

           สงครามวาจาระหว่างสองมหาอำนาจแห่งเอเชียซึ่งกำลังแย่งชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเซงกากุในภาษาญี่ปุ่น หรือเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีน ยิ่งระอุขึ้นกว่าเดิม หลังจากปักกิ่งเตือนโตเกียวว่า การกระทำเป็นปรปักษ์ใดๆ ต่ออากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ของจีนจะถือเป็น “พฤติการณ์ของการทำสงคราม”

           ขณะที่ นายกรัฐมนตรีอาเบะของญี่ปุ่น พูดในการกล่าวปราศรัยต่อกองทัพญี่ปุ่นวันอาทิตย์ว่า “เราจะแสดงเจตนารมณ์ของเราในฐานะรัฐที่ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม ด้วยวิธีการใช้กำลัง เราต้องทำทุกอย่าง เช่น การสอดแนมและเก็บข่าวกรองเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว” ทั้งนี้ตามการตีความของผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นนั้น การใช้กำลังที่อาเบะพูดพาดพิงนี้ หมายถึงการที่จีนกำลังขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกอย่างก้าวร้าว

           อาเบะสำทับว่า กองทัพญี่ปุ่นควรละทิ้งความคิดที่ว่า สิ่งที่ทหารควรทำในยามสงบคือการฝึกเท่านั้น

           “พวกคุณมีความรับผิดชอบในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนดินแดน น่านน้ำ และน่านฟ้าของประเทศ รวมถึงส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของโลก”

ภาพที่แจกจ่ายโดยกองเสนาธิการร่วม แห่งกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ (26ต.ค.) แสดงให้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ เอช-6 ของจีน กำลังบินอยู่ระหว่างเกาะโอกินาวา กับเกาะมิยาโกะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

       นับเป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมาที่อาเบะตอกย้ำว่า ญี่ปุ่นพร้อมแสดงออกอย่างหนักแน่นยิ่งขึ้นต่อจีน

           อาเบะนั้นถูกมองว่า เป็นนักชาตินิยมสายเหยี่ยวที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมุ่งสันติยุคหลังสงครามที่ร่างโดยสหรัฐฯ และเสริมสร้างสถานะทางทหารของญี่ปุ่นให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในการตัดสินใจสำคัญนับแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปีที่แล้วคือ เพิ่มงบการทหารเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

           นอกจากนี้ในระหว่างให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัลช่วงก่อนหน้านี้ อาเบะยังกล่าวว่า หลังจากที่ญี่ปุ่นทุ่มเทความสนใจกับปัญหาภายในประเทศมากเกินไปในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ที่เศรษฐกิจของประเทศกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ญี่ปุ่นจะทุ่มเทมากขึ้นเพื่อทำให้โลกเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยวิธีหนึ่งคือ การคานอำนาจจีนในเอเชีย

           “มีความวิตกกังวลกันว่า จีนกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม ด้วยวิธีการใช้กำลัง แทนที่จะใช้หลักนิติธรรม” อาเบะบอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัล ในการให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุมซัมมิตหลายๆ รายการระหว่างพวกผู้นำภูมิภาคในตอนกลางเดือนที่ผ่านมา

           “แต่ถ้าจีนเลือกที่จะเดินไปในเส้นทางเช่นนั้นแล้ว จีนก็จะไม่สามารถก้าวผงาดขึ้นมาอย่างสันติได้” เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (26)

           “ดังนั้น ถ้าหากจีนเลือกที่จะเดินไปในเส้นทางเช่นนั้น หลายๆ ชาติก็คาดหมายให้ญี่ปุ่นแสดงทัศนะของตนเองออกมาอย่างแข็งขัน โดยที่พวกเขาคาดหวังว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาต่อจากนั้นก็คือ จีนจะมีการกระทำอันแสดงถึงความรับผิดชอบในประชาคมระหว่างประเทศ” อาเบะบอก

           สำหรับการปราศรัยต่อกองทัพของอาเบะในวันอาทิตย์นั้น มีขึ้นในโอกาสที่เขาไปเป็นประธานการตรวจพลสวนสนามประจำปี ที่มีการนำยานโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกของอเมริกามาแสดงเป็นครั้งแรก ตอกย้ำแผนการของกระทรวงกลาโหมแดนปลาดิบในการสร้างหน่วยสะเทินน้ำสะเทินบกเพื่อปกป้องหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกลของตน และชิงคืนในกรณีที่ถูกรุกล้ำ

           นอกจากนี้สื่อของญี่ปุ่น เป็นต้นว่า สำนักข่าวเกียวโด ยังรายงานว่า ญี่ปุ่นได้ส่งฝูงเครื่องบินขับไล่ออกปฏิบัติภารกิจเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องกันเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อตอบโต้ที่จีนส่งเครื่องบินเตือนภัย “วาย-8” 2 ลำและเครื่องบินทิ้งระเบิด “เอช-6” อีก 2 ลำบินระหว่างทะเลจีนตะวันออกกับมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ไม่ได้ล่วงล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่นก็ตาม

ภาพที่แจกจ่ายโดยกองเสนาธิการร่วม แห่งกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ (26ต.ค.) แสดงให้เห็นเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าแบบ วาย-8 ของจีน กำลังบินอยู่ระหว่างเกาะโอกินาวา กับเกาะมิยาโกะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นไม่ได้ออกมายืนยันข่าวนี้ กระนั้น กองทัพแดนอาทิตย์อุทัยได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังขณะที่สงครามวาจากับจีนเกี่ยวกับหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาทกันในทะเลจีนตะวันออกดุเดือดยิ่งขึ้น โดยเมื่อวันเสาร์ (26) จีนตอบโต้อย่างเดือดดาลหลังมีรายงานว่า ญี่ปุ่นร่างแผนยิงโดรนต่างชาติที่รุกล้ำน่านฟ้าของประเทศ หากยังไม่ยอมฟังคำเตือนของโตเกียว

           แผนการดังกล่าวร่างขึ้นหลังจากที่โดรนจีนรุกล้ำเขตพิสูจน์ฝ่ายการป้องกันทางอากาศของญี่ปุ่นใกล้หมู่เกาะเซงกากุเมื่อเดือนที่แล้ว

           “เราขอแนะนำให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหลายอย่าได้ประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของทหารจีนในการปกป้องอธิปไตยแห่งชาติของจีน” เกิง เหยียนเซิง โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ระบุในการแสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์ของกระทรวง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

           “ถ้าญี่ปุ่นใช้มาตรการบังคับ เช่น ยิงเครื่องบินอย่างที่พูด นั่นจะถือเป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรง เป็นพฤติการณ์ของการทำสงคราม และเราจะดำเนินการตอบโต้อย่างแข็งกร้าว และผู้ที่ยั่วยุจะต้องรับผิดชอบผลของการกระทำนั้นทั้งหมด” เกิง บอก

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134265

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วงแตก!!! จีนประท้วงญี่ปุ่น!!! ทำลายสินค้าญี่ปุ่น!!! แล้วนักข่าวจีนใช้กล้องยี่ห้ออะไรถ่ายรูปล่ะ!!!

20 ก.ย. 55 11.31 น

จีนประท้วงต่อต้าน ทำลายสินค้าญี่ปุ่น แล้วนักข่าวใช้กล้องอะไรไปถ่ายรูปล่ะเกริ่นก่อนว่า
ข่าวนี้มาจากสถานการณ์ประท้วงของชาวจีนต่อญี่ปุ่นกรณีพิพาทเกาะเตียวหยู
ซึ่งประเด็นก็คือชาวจีนไม่พอใจญี่ปุ่นเกี่ยวกับเรื่องข้อพิพาทดินแดน

และลามไปถึงเรื่องวันครบรอบที่ญี่ปุ่นบุกแมนจูเรีย ทำให้ชาวจีนประท้วงและทำลายทรัพย์สิน
รวมถึงต่อต้านการใช้สินค้าญี่ปุ่นด้วย
บรรดาช่างภาพสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวต่างก็ใช้กล้อง Nikon ไม่ก็ Canon ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น

ดังนั้นเพื่อป้องกันผู้ประท้วงที่กำลังอยู่ในอารมณ์เกรี้ยวกราดมาทำลายเครื่องมือหากิน
ก็เลยต้องทำแบบที่เห็นนี่แหละ จะเปลี่ยนไปใช้กล้อง Leica เดี๋ยวได้กินแกลบ
ว่าแต่ว่าทำแบบนี้แล้วเค้าไม่รู้จริงๆ เหรอว่ากล้องอะไรมาจากไหน ปลอมตัวแบบหนังไทยชัดๆ