"ธีรภัทร เจริญสุข"เขียน"ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ออกพรรษาสองแผ่นดิน"
ที่มา : คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง มติชนรายวัน
โดย ธีรภัทร เจริญสุข



เช้าตรู่วันที่ 19 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา เป็นวาระอันงดงามของความสัมพันธ์มิตรประเทศไทย-ลาว เมื่อนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของไทย และนายกรัฐมนตรี ทองสิง ทำมะวง ของ ส.ป.ป.ลาว ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรเนื่องในประเพณีวันออกพรรษา ณ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง หรือวัดหลวงพ่อพระใส จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนจากทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงมาร่วมงานบุญครั้งนี้อย่างล้นหลาม

วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวงนั้น เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย ซึ่งเดิมทีเป็นพระพุทธรูปซึ่งสร้างขึ้นโดยเจ้าหญิงล้านช้างสามพี่น้อง ได้แก่ พระสุก พระเสริม พระใส เมื่อคราวที่กองทัพสยามปราบเจ้าอนุวงศ์ ได้เชิญพระพุทธรูปทั้งสามองค์มาจากเวียงจันทน์ พระสุกนั้นแพขนส่งล่มจมอยู่ใต้แม่น้ำโขง พระเสริมได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ส่วนพระใสเมื่อจะอัญเชิญลงกรุงเทพฯ เกวียนที่ใช้ขนส่งหักครั้งแล้วครั้งเล่า จึงนับถือกันว่าพระใสไม่อยากเสด็จไปไหน ได้ประดิษฐานไว้ที่หนองคาย เป็นที่เคารพสักการะของพี่น้องชาวไทยลาวนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

งานประเพณีทำบุญตักบาตรดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่บุคคลระดับผู้นำของสองประเทศได้เข้าร่วม ซึ่งงานนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเหตุเศร้าสลด อุบัติเหตุเครื่องบินชนิด ATR ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ตกที่เมืองปากเซ มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทยและลาวรวมกัน 44 ราย และประเทศไทยก็ได้ช่วยเหลือการกู้ซากเครื่องบินและศพผู้เคราะห์ร้าย รวมถึงการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเพื่อนำร่างกลับคืนสู่ญาติพี่น้องไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีทางศาสนา โดยรัฐมนตรีคมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ไปพบกับรัฐมนตรีโยธาและขนส่งสมมาด พนเสนา ของลาวที่จุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง ทำให้กระแสสังคมในโซเชียลเน็ตเวิร์กของชาวลาวต่างก็ยกย่องความมีน้ำใจช่วยเหลือกันในยามยากของภาครัฐและอาสาสมัครไทยเป็นอย่างมาก

ภาพที่ออกมาจากงานทำบุญตักบาตรไทย-ลาวดังกล่าว ซึ่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ส่วมชุดผ้าไหม นุ่งซิ่นมีตีนซิ่นอย่างลาว ห่มผ้าเบี่ยง ถอดรองเท้าขณะร่วมพิธีในวัดหลวงพ่อพระใสนั้นงดงามจับใจพี่น้องชาวลาวอย่างยิ่ง เพื่อนฝูงมิตรสหายต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า "อิจฉาที่คนไทยมีนายกฯเป็นแม่หญิงผู้งาม" ในเฟซ บุ๊กทางการของนายกฯ ก็มีชาวไทยชาวลาวเข้ามาชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นอกเสียจากความงามภายนอกแล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นได้จากงานทำบุญตักบาตรสองแผ่นดินครั้งนี้ คือความให้เกียรติซึ่งกันและกันของฝ่ายไทย โดยทั้งป้ายประชาสัมพันธ์และการออกข่าวตามสื่อต่างๆ ได้ให้เกียรติท่านนายกฯทองสิง ทำมะวง ไม่น้อยไปกว่านายกฯยิ่งลักษณ์ เรื่องนี้แสดงถึงความจริงใจที่มิตรประเทศพึงมีให้แก่กันในฐานะรัฐเอกราชที่เท่าเทียม มิได้มองอีกฝ่ายเป็นลูกน้องที่ต้องคอยช่วยเหลือ หรือเป็นลูกไล่ต่ำต้อยกว่า

ความจริงใจเช่นนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไทย-ลาว ดีวันดีคืน ภายหลังจากที่เคยเสื่อมทรามลง ที่แม้ไทยจะเข้าไปช่วยเหลือการจัดซีเกมส์ครั้งที่ 25 แต่ลาวก็ตัดเยื่อใยปฏิเสธการช่วยเหลือหลายๆ อย่าง เนื่องจากการวางท่าทีที่ไม่เหมาะสมในช่วงหลายรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น การบีบคั้นเงื่อนไขการช่วยเหลือเพื่อแลกกับการไล่ล่าแกนนำทางการเมือง การคุมเข้มด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือแม้แต่การสร้างความตึงเครียดตามแนวพรมแดนเพื่อระดมแนวคิดชาตินิยม

ในห้วงเวลาที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใกล้เข้ามาทุกวัน และจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในไม่ช้า ความจริงใจให้แก่กัน ผ่านขนบธรรมเนียมประเพณีนี่เอง ที่จะเป็นสะพานเชื่อมต่อผู้คนไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างเครือข่ายสาธารณูปโภคเชื่อมต่อการเดินทาง เมื่อทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน ความสัมพันธ์ไทยลาวจะผูกพันมั่นแก่นยั่งยืนสืบต่อไป


มติชนออนไลน์ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382675559&grpid=&catid=02&subcatid=0200


                                           ??????????????????????????????????????



".....ความจริงใจเช่นนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไทย-ลาว ดีวันดีคืน ภายหลังจากที่เคยเสื่อมทรามลง ........

..... การบีบคั้นเงื่อนไขการช่วยเหลือเพื่อแลกกับการไล่ล่าแกนนำทางการเมือง การคุมเข้มด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือแม้แต่การสร้างความตึงเครียดตามแนวพรมแดนเพื่อระดมแนวคิดชาตินิยม...."



วันวานที่ผ่านมา.....
ความเป็นบ้านพี่เมืองน้องต้องห่างเหิน
ความเป็นมิตรประเทศต้องเลือนลางในยุคกาขาวนั่งเมือง

แต่บัดนี้ฟ้าใหม่ได้เรืองรองขึ้นมาแล้วทางทิศตะวันออกและรอบๆทุกทิศทาง
ข้ามไปถึงโพ้นฟ้าในที่ไกลแสนไกล...ไกลออกไปทั่วทุกมุมโลก.....

ยุคใหม่ของไทยได้เริ่มขึ้นแล้วด้วยนารีขี่ม้าขาว
ท่านเห็นหรือไม่พี่น้องไทยที่รัก.....