เป็นเรื่องราวของ บีทีเอส ที่มีการวิ่งระยะทางความยาวไม่เกิน 1 ชั่วโมง ภาพที่เห็นคือ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีอายุแบบ พี่ ป้า น้า อา หรือบางครั้งก็เป็นนักศึกษาที่มีสัมภาระห้อยอยู่เต็มมือกลับยืนอยู่ข้างหน้าหนุ่มๆทั้งหลายที่กำลังจิ้มโทรศัพท์แบบไม่มีเวลาเหลียวมองคนข้างหน้าเลย
บางทีกระเป๋าของคนที่ยืนนั้นแทบจะทิ่มเข้าไปในลูกตาอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายไม่ได้ลุกให้ผู้หญิงนั่งเลย
เข้าใจว่า ระยะทางมันสั้น ได้รับความสะดวกจากแอร์เย็นๆในขบวนรถ แต่น้ำใจน่าจะนำมาใช้บ้างในสถานการณ์แบบนี้ คือเห็นใจคนที่มีสัมภาระเป็นกระเป๋า และเป็นผู้หญิงด้วยที่ไม่อาจวางสัมภาระบนพื่นได้ บางทีตัวเล็กๆด้วย บีทีเอสเบรกที หัวแทบทิ่ม
เราเป็นผู้ชาย พอมีกำลัง ผมคิดว่า จากต้นทาง ถ้าเราเสียสละที่นั่ง ปล่อยให้ผู้หญิงหรือเด็กๆเข้ามานั่ง คงเป็นภาพที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
อาศัยว่า หญิงชาย เท่าเทียมกัน จ่ายค่าโดยสารเท่ากัน บางเรื่องก็สมควร แต่บางเรื่องก็แล้วแต่มุมมองของท่านครับ เพราะทุกวันนี้ น้ำใจเล็กๆน้อยๆหายากมากๆ ครับ
แต่ก็มีส่วนน้อยนะครับ ที่จะลุกให้สตรี หรือเด็กๆนั่ง แต่ไม่ยอมนั่ง อย่าไปคิดว่าหน้าแตกเลยครับ ลุกแล้วก็ปล่อยที่ว่าง ด้วยก็มีคนอื่นๆมานั่งต่อครับ
ทำไม ไม่ลุกให้นั่งครับ
บางทีกระเป๋าของคนที่ยืนนั้นแทบจะทิ่มเข้าไปในลูกตาอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายไม่ได้ลุกให้ผู้หญิงนั่งเลย
เข้าใจว่า ระยะทางมันสั้น ได้รับความสะดวกจากแอร์เย็นๆในขบวนรถ แต่น้ำใจน่าจะนำมาใช้บ้างในสถานการณ์แบบนี้ คือเห็นใจคนที่มีสัมภาระเป็นกระเป๋า และเป็นผู้หญิงด้วยที่ไม่อาจวางสัมภาระบนพื่นได้ บางทีตัวเล็กๆด้วย บีทีเอสเบรกที หัวแทบทิ่ม
เราเป็นผู้ชาย พอมีกำลัง ผมคิดว่า จากต้นทาง ถ้าเราเสียสละที่นั่ง ปล่อยให้ผู้หญิงหรือเด็กๆเข้ามานั่ง คงเป็นภาพที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
อาศัยว่า หญิงชาย เท่าเทียมกัน จ่ายค่าโดยสารเท่ากัน บางเรื่องก็สมควร แต่บางเรื่องก็แล้วแต่มุมมองของท่านครับ เพราะทุกวันนี้ น้ำใจเล็กๆน้อยๆหายากมากๆ ครับ
แต่ก็มีส่วนน้อยนะครับ ที่จะลุกให้สตรี หรือเด็กๆนั่ง แต่ไม่ยอมนั่ง อย่าไปคิดว่าหน้าแตกเลยครับ ลุกแล้วก็ปล่อยที่ว่าง ด้วยก็มีคนอื่นๆมานั่งต่อครับ