สืบเนื่องจากเพื่อนๆในกลุ่ม ลงความเห็นว่าควรจะไปขึ้นเขาใหญ่กันซักครั้งในวันอาทิตย์ที่ 27 แต่เนื่องจากยังไม่มีใครเคยไปมาก่อน ผมและเพื่อนที่ไม่ได้ทำงานในวันจันทร์ ก็เลยอาสาที่จะไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้า เพื่อจะเอามาวางแผนการปั่นให้เหมาะสมกับกลุ่มของพวกเรา
ผมและเพื่อนไปถึงรีสอร์ทฝั่งปราจีนบุรีเพื่อฝากรถประมาณ 8.30 น. และเริ่มปั่นจากจุดนั้น โดยพวกเราไม่เคยปั่นขึ้นเขายาวๆอย่างนี้มาก่อน แต่ก็ทำตามที่น้าๆแนะนำกันในนี้แหละ โดยปั่นไปเรื่อยๆ รักษา HR และไล่เกียร์ให้เหมาะสม...เป้าหมายของพวกเรา แน่นอน ก็คือการได้ไปถ่ายรูปคู่กับรถคู่ใจที่ป้าย "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
ระหว่างที่ผมและเพื่อนกำลังขึ้นเขาเนิบๆ แบบปั่นไปบ่นไป (บ่นกันเองว่ามาเราทำอะไรกันที่นี่ว่ะ อยู่บ้านนอนสบายๆก็ไม่ชอบ) ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนโซ่หลุดพร้อมทั้งบันไดและล้อหลังล๊อคตายแบบทันที....พอผมก้มลงไปมองแทบเป็นลม
ผมคิดว่าตีนผีมันคงอยากมาอยู่ใกล้ๆจานหน้าบ้างอ่ะครับ พอได้สติก็ปลดล้อหลังคลายโซ่และเอาออกมาดูชัดๆ...สรุปคือ Drop out หักสบั้น
ผมดูที่ไมล์ ซึ่งพวกเรามากันได้ประมาณ 22 กิโลแล้ว.....เพื่อนผมขอปั่นต่อโดยให้ผมโบกรถไปรอตรงที่ทำการฯ ซึ่งผมโบกรถคันแรกก็ได้ขึ้นเลยครับ เป็นคุณลุงและคุณป้าใจดีให้ผมติดรถและไปส่งผมที่สามแยกสุดทางข้างบน (ผมพึ่งมารู้ตอนหลังว่าตรงนั้นไม่ใช่ที่ทำการฯ และต้องขึ้นไปอีก 3 กิโล แต่แค่นี้ผมก็ดีใจหลายๆแล้ว)
ผมนั่งพักตรงนั้นซักพัก และเริ่มเข็นรถไปที่ทำการฯ ซึ่งเพื่อนผมก็ตามมาถึงพอดี เรานั่งทานน้ำกันพักใหญ่ๆและตกลงกันว่าจะขออาศัยโบกรถกลับลงไปที่รีสอร์ท ซึ่งก็ได้เจอพี่ใจดีมากับแฟนและลูกกำลังจะลงไปทางด่านปราจีนบุรีพอดี แต่ระหว่างทาง ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักแบบไม่ทันตั้งตัว (ตามสไตล์เขาใหญ่) ผมกับเพื่อนก็ได้เปียกและหนาวกันสุดๆ อยู่บนหลังรถปิคอัพระหว่างขาลงของพวกเรา และไปถึงรีสอร์ทได้โดยสวัสดิภาพ
จากนั้นผมก็รีบเอารถไปให้ช่างดูตอนบ่าย ช่างบอกว่าตีนผีน่าจะไปขัดกับซี่ลวดจนดันให้ drop out หัก.....ผมเลยอยากฝากเป็นข้อเตือนใจ ว่าต้องคอยหมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์ให้พร้อมเสมอ.....อย่างคันนี้ผมปั่นแทบทุกวัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เอาไปปั่นที่จันท์มาเกือบ 150 กิโล (พลาดไป 1 ทริป ที่นัดกับน้าไก่เมืองจันท์จะไปเขื่อน แต่เจอพายุนารีเข้าพอดี) ซึ่งรถผมก็ใช้ได้เป็นปกติมาโดยตลอด และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้เลย แต่ผมยังมองโลกในแง่ดี ก็คือเป็นความโชคดีที่มาเกิดเหตุในช่วงที่กำลังปั่นขึ้นเนินพอดี สมมุติถ้ามันเกิดเป็นช่วงปั่นลงเนินหรือขากลับลงเขา ผมอาจจะไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่ตอนนี้ก็ได้ครับ (หยิบเอาไมล์มาดู max speed 62 ตอนช่วงลงเนินของขาขึ้นเขา)
สุดท้าย..ผมได้ถ่ายรูปกับป้ายเขาใหญ่แล้วนะครับ แต่ไม่เอามาให้ดูเพราะมันยังไม่ฟิน....ซึ่งแน่นอน ผมไม่พลาดที่จะกลับไปแก้มือในวันอาทิตย์นี้อย่างแน่นอน
***ปล.***
-ผมกับเพื่อนไม่ลืมที่จะไหว้จ้าวป่าเจ้าเขาก่อนที่จะปั่นขึ้นไปนะครับ นี่อาจจะส่งผลให้ผมและเพื่อนกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
-ขอขอบคุณ คุณลุงคุณป้าสำหรับขาขึ้น และ คุณพี่กับครอบครัวสำหรับขาลง คนไทยใจดีที่สุดในโลกเสมอครับ
***แก้ไขข้อความ -> ดูการแก้ไขเฉพาะหน้า เพื่อให้ปั่นไปต่อได้ที่ คห. 10 นะครับ
***
^^เขาใหญ่ - ไปถึงแบบเกือบไม่ถึง และข้อเตือนใจ^^
ผมและเพื่อนไปถึงรีสอร์ทฝั่งปราจีนบุรีเพื่อฝากรถประมาณ 8.30 น. และเริ่มปั่นจากจุดนั้น โดยพวกเราไม่เคยปั่นขึ้นเขายาวๆอย่างนี้มาก่อน แต่ก็ทำตามที่น้าๆแนะนำกันในนี้แหละ โดยปั่นไปเรื่อยๆ รักษา HR และไล่เกียร์ให้เหมาะสม...เป้าหมายของพวกเรา แน่นอน ก็คือการได้ไปถ่ายรูปคู่กับรถคู่ใจที่ป้าย "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
ระหว่างที่ผมและเพื่อนกำลังขึ้นเขาเนิบๆ แบบปั่นไปบ่นไป (บ่นกันเองว่ามาเราทำอะไรกันที่นี่ว่ะ อยู่บ้านนอนสบายๆก็ไม่ชอบ) ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนโซ่หลุดพร้อมทั้งบันไดและล้อหลังล๊อคตายแบบทันที....พอผมก้มลงไปมองแทบเป็นลม
ผมคิดว่าตีนผีมันคงอยากมาอยู่ใกล้ๆจานหน้าบ้างอ่ะครับ พอได้สติก็ปลดล้อหลังคลายโซ่และเอาออกมาดูชัดๆ...สรุปคือ Drop out หักสบั้น
ผมดูที่ไมล์ ซึ่งพวกเรามากันได้ประมาณ 22 กิโลแล้ว.....เพื่อนผมขอปั่นต่อโดยให้ผมโบกรถไปรอตรงที่ทำการฯ ซึ่งผมโบกรถคันแรกก็ได้ขึ้นเลยครับ เป็นคุณลุงและคุณป้าใจดีให้ผมติดรถและไปส่งผมที่สามแยกสุดทางข้างบน (ผมพึ่งมารู้ตอนหลังว่าตรงนั้นไม่ใช่ที่ทำการฯ และต้องขึ้นไปอีก 3 กิโล แต่แค่นี้ผมก็ดีใจหลายๆแล้ว)
ผมนั่งพักตรงนั้นซักพัก และเริ่มเข็นรถไปที่ทำการฯ ซึ่งเพื่อนผมก็ตามมาถึงพอดี เรานั่งทานน้ำกันพักใหญ่ๆและตกลงกันว่าจะขออาศัยโบกรถกลับลงไปที่รีสอร์ท ซึ่งก็ได้เจอพี่ใจดีมากับแฟนและลูกกำลังจะลงไปทางด่านปราจีนบุรีพอดี แต่ระหว่างทาง ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักแบบไม่ทันตั้งตัว (ตามสไตล์เขาใหญ่) ผมกับเพื่อนก็ได้เปียกและหนาวกันสุดๆ อยู่บนหลังรถปิคอัพระหว่างขาลงของพวกเรา และไปถึงรีสอร์ทได้โดยสวัสดิภาพ
จากนั้นผมก็รีบเอารถไปให้ช่างดูตอนบ่าย ช่างบอกว่าตีนผีน่าจะไปขัดกับซี่ลวดจนดันให้ drop out หัก.....ผมเลยอยากฝากเป็นข้อเตือนใจ ว่าต้องคอยหมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์ให้พร้อมเสมอ.....อย่างคันนี้ผมปั่นแทบทุกวัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เอาไปปั่นที่จันท์มาเกือบ 150 กิโล (พลาดไป 1 ทริป ที่นัดกับน้าไก่เมืองจันท์จะไปเขื่อน แต่เจอพายุนารีเข้าพอดี) ซึ่งรถผมก็ใช้ได้เป็นปกติมาโดยตลอด และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้เลย แต่ผมยังมองโลกในแง่ดี ก็คือเป็นความโชคดีที่มาเกิดเหตุในช่วงที่กำลังปั่นขึ้นเนินพอดี สมมุติถ้ามันเกิดเป็นช่วงปั่นลงเนินหรือขากลับลงเขา ผมอาจจะไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่ตอนนี้ก็ได้ครับ (หยิบเอาไมล์มาดู max speed 62 ตอนช่วงลงเนินของขาขึ้นเขา)
สุดท้าย..ผมได้ถ่ายรูปกับป้ายเขาใหญ่แล้วนะครับ แต่ไม่เอามาให้ดูเพราะมันยังไม่ฟิน....ซึ่งแน่นอน ผมไม่พลาดที่จะกลับไปแก้มือในวันอาทิตย์นี้อย่างแน่นอน
***ปล.***
-ผมกับเพื่อนไม่ลืมที่จะไหว้จ้าวป่าเจ้าเขาก่อนที่จะปั่นขึ้นไปนะครับ นี่อาจจะส่งผลให้ผมและเพื่อนกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
-ขอขอบคุณ คุณลุงคุณป้าสำหรับขาขึ้น และ คุณพี่กับครอบครัวสำหรับขาลง คนไทยใจดีที่สุดในโลกเสมอครับ
***แก้ไขข้อความ -> ดูการแก้ไขเฉพาะหน้า เพื่อให้ปั่นไปต่อได้ที่ คห. 10 นะครับ ***