เรารู้ว่าเราคงเป็นอีกกระทู้หนึ่งที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องการซื้อลูกสุนัขที่ติดเชื้อ ..
แต่เราขอเป็นกระทู้ที่จะเป็นข้อเตือนใจสำหรับคนที่จะซื้อไม่ว่าในเวลาใกล้นี้หรืออีกนานก็ตาม ..
เราซื้อชิวาว่า 2 เดือนครึ่งจากงานโชว์สุนัขในห่างแห่งหนึ่งเมื่อต้นเดือนนี้เอง
ถ้าใครได้ไปเดินก็คงจะพอรู้ว่าที่ไหน
โดยปกติเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงน้องหมาเลย ตามจริงบ้านเราเคยเลี้ยง แต่นานมากแล้ว
และไม่ได้เลี้ยงอีกเลยมาเป็น 10ปี หลังจากที่ตัวล่าสุดตายไป
ตัวเราเป็นคนชอบหมาชอบแมวมาก เจอที่ไหนไม่ได้ จ้องจะวิ่งเข้าใส่อยากเล่นอยากลูบอยากจับไปทั่ว
อยู่ดีๆวันนั้นเราเดินผ่านเจอชิวาว่า .. เราซื้อเค้ามาด้วยหวังใจว่าจะเลี้ยงให้ดีที่สุด
เราซื้อกรง ซื้อคอก เบาะนอน ถาดรองฉี่ padรองฉี่ อาหารพรีเมี่ยมแบบที่น้องเคยกินอยู่เดิม เสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์ครบ
ถามถึงแนวทางการให้อาหาร การเลี้ยงดู วัคซีน ทุกอย่าง
นับตั้งแต่วันแรกที่น้องเค้าเข้ามา ชีวิตเราก็เปลี่ยนไป จากนอนตื่นสายตัวคนเดียว
เราต้องตื่นเช้ามาเล่นกับเค้า เปลี่ยนที่รองฉี่รองอึ ทำความสะอาด ทำอาหาร ก่อนจะออกไปทำงาน
กลับมาถึงบ้านก็มาเล่นกับเค้าก่อนเลย เราเน้นสอนให้เค้าอึในที่รองอึ ฝากแม่ฝากพี่ให้ช่วยดู
กลับมาถึงเราจะลุ้นว่าเค้าอึในถาดหรือยัง ก่อนจะเล่นกับเค้า ทำอาหาร และส่งเค้าเข้านอน (เราไม่ได้เอามานอนในห้องด้วยกัน)
เค้าฉลาดมาก อึในถาดเป็นอย่างรวดเร็ว ปรับตัวเก่ง ร่าเริงมากๆ งอแงน้อยมากกว่าที่เราคิดเยอะเลย
เวลาที่เราคิดว่าดี และกำลังจะดี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่ 4 ที่นำน้องเค้ามา น้องอ้วกออกมาสี่กอง และถ่ายกึ่งเหลว 1 กอง
วันนั้นเราหยุดงาน พาน้องไปหาหมอทันที
หมอวินิจฉัยว่าน้องน่าจะเครียด ให้กลูโคสมากิน
บ่ายเรากลับมา น้องก็ยังอึอยู่ เราโทรกลับไปบอกหมอ หมอบอกให้ดูอีกคืน ถ้ายังอึไม่หยุดให้พาไปหาอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้นเรารีบตื่นมาดูน้องก่อนเลย พบว่าน้องยังอึ เราไม่รอช้า พาไปหาหมออีกครั้ง
รอบนี้เราเจอหมออีกคน เมื่อหมออีกท่านได้ฟังอาการก็จับตรวจเชื้อทันที
โรคที่น้องกำลังเป็นคือ ลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง (พาโว) เราคิดว่าในกลุ่มคนเลี้ยงหมา เพาะพันธุ์หมา ก็น่าจะรู้จักดี
แม้เราจะไม่รู้จักโรคนี้มาก่อน แต่ก็พอจะเดาความร้ายแรงได้จากน้ำเสียงของหมอ ..
ทั้งที่น้องก็ยังร่าเริงเล่นกับเราดี แต่หมอหันมาบอกว่า 50-50 นะครับ ..
เราเริ่มตั้งสติ ถามรายละเอียด สาเหตุ วิธีการรักษา และแอดมิดน้องทันที ..
ใครจะรู้ หลังจากออกมาจากร้านหมอ เราร้องไห้เสียสติ เราหลงรักน้องไปแล้ว แค่คิดว่าน้องจะไปเราก็รับไม่ได้
เราเข้าเน็ตทันที เสริชหาข้อมูล แนวทางการรักษา ..
ส่วนเรื่องแนวทางการรักษาเราขอไม่แนะนำ ไม่พูดนะ ข้ามไปเลยแล้วกัน ..
ทั้งรักษาแบบหลักสากลทั่วไปคือแอดมิด รักษาตามอาการ งดน้ำงดอาหาร ให้น้ำเกลือ ยาเคลือบกระเพาะ วิตามิน เกลือแร่ ทุกอย่างไม่ผ่านทางปาก แต่ผ่านทางสายฉีดน้ำเกลือ
หรือแบบหมอชูศักดิ์ (หมอโยเกิร์ตและ HIS) หรือบางท่านแนะให้ทานน้ำต้มฟ้าทะลายโจร
ที่เราบอกเราขอไม่แนะนำ เพราะน้องหมาของเราเสียชีวิต .. การรักษาต่างๆนั้นเป็นทางเลือก ผู้เลี้ยงเป็นผู้เลือก จะรักษาน้องแบบไหน
มีทั้งหายและตายหมดทุกแนวทาง เราพูดได้แค่นี้
เนื่องจากโรคนี้เป็นไวรัส เหมือนเวลาพวกเราติดหวัด เราทำได้แค่รักษาตามอาการ
มีน้ำมูกกินยาแก้น้ำมูก มีไข้กินยาแก้ไข้ พักผ่อนเยอะๆ รอให้ร่างกายสร้างภูมิมาต่อสู้กับไวรัสได้เอง
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราเป็นหวัดหายเร็วไม่เท่ากัน
ลำไส้อักเสบในสุนัขก็เหมือนกัน
ดังนั้นจึงมีที่ทั้งตายและรอด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
แต่หลักๆคือขึ้นอยู่กับภูมิของน้องเค้า
ในช่วงที่น้องแอดมิด เราไปหาเช้าเย็น (บางวันเช้ากลางวันเย็น)
เช็ดอึ เช็ดอ้วก ไปเล่นด้วย ไปเรียกเค้า แต่เค้ากลับแย่ลงทุกวัน
และไปจากเราในวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันวิกฤติตามที่หมอบอก คือถ้าผ่านไปได้ก็รอด
แต่น้องคงทนไม่ไหว ..
หลังจากที่น้องไป .. สำหรับเรามันเป็นแผลลึกมากในหัวใจ
ลึกมากกับเราจริงๆ เราคิดต่างๆนานา หรือเรายังรักษาน้องไม่ดี เราเลือกแนวทางผิดรึเปล่า
เราเสียใจนะที่ตอนน้องไปเราไม่ได้อยู่ด้วย ..
โรคนี้น่ากลัวนะ มันอยู่กับหมาได้ไม่เกินเจ็ดวัน ถ้ารอดคือหาย ไม่เป็นอีกเลยตลอดชีวิต
ถ้าไปก็ไปเลย ไม่มียืดเยื้อเหนี่ยวรั้ง ดื้อดึงกันเลย
สิ่งที่เราอยากเตือนทุกท่านที่กำลังจะซื้อสุนัขนะ
1.สุนัขตามงานโชว์หรือจตุจักร ตลาดนัดต่างๆ เป็นไปได้อย่าซื้อเลย แม้ว่าเค้าจะติดป้าย "ห้ามสุนัขเลียมือก็ตาม" แต่ใครอุ้มบ้างก็ไม่รู้
คนเรานี่แหละเป็นพาหะ ถ้าหมาเลียและกลืนลงไปเท่ากับได้รับเชื้อทันที ในกรณีหมาโตภูมิเค้าแข็งแรงแล้วไม่เป็นไร
แต่ส่วนใหญ่มักพรากหมาเด็กไปจากเรามากกว่า เพราะภูมิเค้ายังน้อย.. ถ้าเราไม่ซื้อ เค้าขายไม่ได้ อีกหน่อยร้านที่มาขายตามงานหรือตลาดนัดอาจจะน้อยลง
จะซื้อทั้งที ซื้อฟาร์มปิดที่เค้าคุมอนามัยน้องดีๆ ดีกว่า ..
(เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความต้องการเลี้ยงสุนัขว่าจะรับสุนัขหาบ้านหรือซื้อเอานะ
ถ้าอยากซื้อก็ซื้อ แต่จะซื้อทั้งทีเลือกฟาร์มปิดดีๆดีกว่า)
2.ถ้าลูกสุนัขของคุณอ้วกหรือถ่ายเหลว หาหมอและขอตรวจโรคร้ายทันที (ลำไส้อักเสบกับหัด) ไม่ต้องรอดูอาการใดๆทั้งสิ้น
เชื่อเราเถอะ เป็นกระต่ายตื่นตูมดีกว่าต้องมานั่งเศร้าเสียใจภายหลัง
3.หมาเด็กภูมิเค้าต่ำนะ ก่อนเล่นกับเค้าล้างมือล้างเท้าก็ดี บางทีเรานำเชื้อมาให้เค้าโดยไม่รู้ตัว
4.เชื้อตัวนี้สามารถติดอยู่ในบ้านได้นานมาก เดทตอลก็ฆ่าไม่ได้ ให้ใช้ไฮเตอร์เจือจางน้ำเปล่า พ่นแล้วเช็ดให้ทั่ว (ในกรณีอยากรับน้องหมาใหม่มาเลี้ยง)
5.เวลาจะซื้อกับร้านไหนให้ถามเรื่องประกันสุขภาพ ถ้ารับน้องมาไม่เกิน 1 อาทิตย์แล้วมีอาการแสดงออกมา แล้วเสียชีวิต ร้านควรจะให้สุนัขตัวใหม่หรือคืนเงินเต็มจำนวน
เนื่องจากเชื้อตัวนี้ใช้เวลาในการแสดงอาการหลังจากรับเชื้อ 3-10 วัน
PS.คิดถึงมากนะโมชิ ขอบคุณที่ครั้งนึงเราได้เจอกัน
ขอบคุณที่ได้เล่นมีความสุขด้วยกัน
ขอบคุณที่ทำให้เราได้เข้าใจอีกครั้งว่าการดูแลใครมันเป็นยังไง
ขอบคุณที่อดทน
ขอบคุณที่สู้กับไวรัส
ขอให้หนูมีความสุขกับทางที่หนูไปนะ
รักมากๆ คิดถึงมากๆนะหนู
เรื่องเล่าลำไส้อักเสบในสุนัขและอุทาหรณ์สำหรับคนที่มีแผนจะซื้อสุนัข
แต่เราขอเป็นกระทู้ที่จะเป็นข้อเตือนใจสำหรับคนที่จะซื้อไม่ว่าในเวลาใกล้นี้หรืออีกนานก็ตาม ..
เราซื้อชิวาว่า 2 เดือนครึ่งจากงานโชว์สุนัขในห่างแห่งหนึ่งเมื่อต้นเดือนนี้เอง
ถ้าใครได้ไปเดินก็คงจะพอรู้ว่าที่ไหน
โดยปกติเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงน้องหมาเลย ตามจริงบ้านเราเคยเลี้ยง แต่นานมากแล้ว
และไม่ได้เลี้ยงอีกเลยมาเป็น 10ปี หลังจากที่ตัวล่าสุดตายไป
ตัวเราเป็นคนชอบหมาชอบแมวมาก เจอที่ไหนไม่ได้ จ้องจะวิ่งเข้าใส่อยากเล่นอยากลูบอยากจับไปทั่ว
อยู่ดีๆวันนั้นเราเดินผ่านเจอชิวาว่า .. เราซื้อเค้ามาด้วยหวังใจว่าจะเลี้ยงให้ดีที่สุด
เราซื้อกรง ซื้อคอก เบาะนอน ถาดรองฉี่ padรองฉี่ อาหารพรีเมี่ยมแบบที่น้องเคยกินอยู่เดิม เสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์ครบ
ถามถึงแนวทางการให้อาหาร การเลี้ยงดู วัคซีน ทุกอย่าง
นับตั้งแต่วันแรกที่น้องเค้าเข้ามา ชีวิตเราก็เปลี่ยนไป จากนอนตื่นสายตัวคนเดียว
เราต้องตื่นเช้ามาเล่นกับเค้า เปลี่ยนที่รองฉี่รองอึ ทำความสะอาด ทำอาหาร ก่อนจะออกไปทำงาน
กลับมาถึงบ้านก็มาเล่นกับเค้าก่อนเลย เราเน้นสอนให้เค้าอึในที่รองอึ ฝากแม่ฝากพี่ให้ช่วยดู
กลับมาถึงเราจะลุ้นว่าเค้าอึในถาดหรือยัง ก่อนจะเล่นกับเค้า ทำอาหาร และส่งเค้าเข้านอน (เราไม่ได้เอามานอนในห้องด้วยกัน)
เค้าฉลาดมาก อึในถาดเป็นอย่างรวดเร็ว ปรับตัวเก่ง ร่าเริงมากๆ งอแงน้อยมากกว่าที่เราคิดเยอะเลย
เวลาที่เราคิดว่าดี และกำลังจะดี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่ 4 ที่นำน้องเค้ามา น้องอ้วกออกมาสี่กอง และถ่ายกึ่งเหลว 1 กอง
วันนั้นเราหยุดงาน พาน้องไปหาหมอทันที
หมอวินิจฉัยว่าน้องน่าจะเครียด ให้กลูโคสมากิน
บ่ายเรากลับมา น้องก็ยังอึอยู่ เราโทรกลับไปบอกหมอ หมอบอกให้ดูอีกคืน ถ้ายังอึไม่หยุดให้พาไปหาอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้นเรารีบตื่นมาดูน้องก่อนเลย พบว่าน้องยังอึ เราไม่รอช้า พาไปหาหมออีกครั้ง
รอบนี้เราเจอหมออีกคน เมื่อหมออีกท่านได้ฟังอาการก็จับตรวจเชื้อทันที
โรคที่น้องกำลังเป็นคือ ลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง (พาโว) เราคิดว่าในกลุ่มคนเลี้ยงหมา เพาะพันธุ์หมา ก็น่าจะรู้จักดี
แม้เราจะไม่รู้จักโรคนี้มาก่อน แต่ก็พอจะเดาความร้ายแรงได้จากน้ำเสียงของหมอ ..
ทั้งที่น้องก็ยังร่าเริงเล่นกับเราดี แต่หมอหันมาบอกว่า 50-50 นะครับ ..
เราเริ่มตั้งสติ ถามรายละเอียด สาเหตุ วิธีการรักษา และแอดมิดน้องทันที ..
ใครจะรู้ หลังจากออกมาจากร้านหมอ เราร้องไห้เสียสติ เราหลงรักน้องไปแล้ว แค่คิดว่าน้องจะไปเราก็รับไม่ได้
เราเข้าเน็ตทันที เสริชหาข้อมูล แนวทางการรักษา ..
ส่วนเรื่องแนวทางการรักษาเราขอไม่แนะนำ ไม่พูดนะ ข้ามไปเลยแล้วกัน ..
ทั้งรักษาแบบหลักสากลทั่วไปคือแอดมิด รักษาตามอาการ งดน้ำงดอาหาร ให้น้ำเกลือ ยาเคลือบกระเพาะ วิตามิน เกลือแร่ ทุกอย่างไม่ผ่านทางปาก แต่ผ่านทางสายฉีดน้ำเกลือ
หรือแบบหมอชูศักดิ์ (หมอโยเกิร์ตและ HIS) หรือบางท่านแนะให้ทานน้ำต้มฟ้าทะลายโจร
ที่เราบอกเราขอไม่แนะนำ เพราะน้องหมาของเราเสียชีวิต .. การรักษาต่างๆนั้นเป็นทางเลือก ผู้เลี้ยงเป็นผู้เลือก จะรักษาน้องแบบไหน
มีทั้งหายและตายหมดทุกแนวทาง เราพูดได้แค่นี้
เนื่องจากโรคนี้เป็นไวรัส เหมือนเวลาพวกเราติดหวัด เราทำได้แค่รักษาตามอาการ
มีน้ำมูกกินยาแก้น้ำมูก มีไข้กินยาแก้ไข้ พักผ่อนเยอะๆ รอให้ร่างกายสร้างภูมิมาต่อสู้กับไวรัสได้เอง
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราเป็นหวัดหายเร็วไม่เท่ากัน
ลำไส้อักเสบในสุนัขก็เหมือนกัน
ดังนั้นจึงมีที่ทั้งตายและรอด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
แต่หลักๆคือขึ้นอยู่กับภูมิของน้องเค้า
ในช่วงที่น้องแอดมิด เราไปหาเช้าเย็น (บางวันเช้ากลางวันเย็น)
เช็ดอึ เช็ดอ้วก ไปเล่นด้วย ไปเรียกเค้า แต่เค้ากลับแย่ลงทุกวัน
และไปจากเราในวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันวิกฤติตามที่หมอบอก คือถ้าผ่านไปได้ก็รอด
แต่น้องคงทนไม่ไหว ..
หลังจากที่น้องไป .. สำหรับเรามันเป็นแผลลึกมากในหัวใจ
ลึกมากกับเราจริงๆ เราคิดต่างๆนานา หรือเรายังรักษาน้องไม่ดี เราเลือกแนวทางผิดรึเปล่า
เราเสียใจนะที่ตอนน้องไปเราไม่ได้อยู่ด้วย ..
โรคนี้น่ากลัวนะ มันอยู่กับหมาได้ไม่เกินเจ็ดวัน ถ้ารอดคือหาย ไม่เป็นอีกเลยตลอดชีวิต
ถ้าไปก็ไปเลย ไม่มียืดเยื้อเหนี่ยวรั้ง ดื้อดึงกันเลย
สิ่งที่เราอยากเตือนทุกท่านที่กำลังจะซื้อสุนัขนะ
1.สุนัขตามงานโชว์หรือจตุจักร ตลาดนัดต่างๆ เป็นไปได้อย่าซื้อเลย แม้ว่าเค้าจะติดป้าย "ห้ามสุนัขเลียมือก็ตาม" แต่ใครอุ้มบ้างก็ไม่รู้
คนเรานี่แหละเป็นพาหะ ถ้าหมาเลียและกลืนลงไปเท่ากับได้รับเชื้อทันที ในกรณีหมาโตภูมิเค้าแข็งแรงแล้วไม่เป็นไร
แต่ส่วนใหญ่มักพรากหมาเด็กไปจากเรามากกว่า เพราะภูมิเค้ายังน้อย.. ถ้าเราไม่ซื้อ เค้าขายไม่ได้ อีกหน่อยร้านที่มาขายตามงานหรือตลาดนัดอาจจะน้อยลง
จะซื้อทั้งที ซื้อฟาร์มปิดที่เค้าคุมอนามัยน้องดีๆ ดีกว่า ..
(เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความต้องการเลี้ยงสุนัขว่าจะรับสุนัขหาบ้านหรือซื้อเอานะ
ถ้าอยากซื้อก็ซื้อ แต่จะซื้อทั้งทีเลือกฟาร์มปิดดีๆดีกว่า)
2.ถ้าลูกสุนัขของคุณอ้วกหรือถ่ายเหลว หาหมอและขอตรวจโรคร้ายทันที (ลำไส้อักเสบกับหัด) ไม่ต้องรอดูอาการใดๆทั้งสิ้น
เชื่อเราเถอะ เป็นกระต่ายตื่นตูมดีกว่าต้องมานั่งเศร้าเสียใจภายหลัง
3.หมาเด็กภูมิเค้าต่ำนะ ก่อนเล่นกับเค้าล้างมือล้างเท้าก็ดี บางทีเรานำเชื้อมาให้เค้าโดยไม่รู้ตัว
4.เชื้อตัวนี้สามารถติดอยู่ในบ้านได้นานมาก เดทตอลก็ฆ่าไม่ได้ ให้ใช้ไฮเตอร์เจือจางน้ำเปล่า พ่นแล้วเช็ดให้ทั่ว (ในกรณีอยากรับน้องหมาใหม่มาเลี้ยง)
5.เวลาจะซื้อกับร้านไหนให้ถามเรื่องประกันสุขภาพ ถ้ารับน้องมาไม่เกิน 1 อาทิตย์แล้วมีอาการแสดงออกมา แล้วเสียชีวิต ร้านควรจะให้สุนัขตัวใหม่หรือคืนเงินเต็มจำนวน
เนื่องจากเชื้อตัวนี้ใช้เวลาในการแสดงอาการหลังจากรับเชื้อ 3-10 วัน
PS.คิดถึงมากนะโมชิ ขอบคุณที่ครั้งนึงเราได้เจอกัน
ขอบคุณที่ได้เล่นมีความสุขด้วยกัน
ขอบคุณที่ทำให้เราได้เข้าใจอีกครั้งว่าการดูแลใครมันเป็นยังไง
ขอบคุณที่อดทน
ขอบคุณที่สู้กับไวรัส
ขอให้หนูมีความสุขกับทางที่หนูไปนะ
รักมากๆ คิดถึงมากๆนะหนู