โคมโปรเจคเตอร์  ถ้าจะติดซีนอน  ติดได้ครับ เพราะ  ลำแสงโปรเจคเตอร์มันจะควบคุมแสงไฟไม่ให้ฟุ้งกระจายเหมือนโคมธรรมดาอยู่แล้ว และช่วยได้เยอะด้วย    สังเกตได้จากรถยุโรป หรือรถญี่ปุ่น แพงๆ หน่อย จะได้โคมโปรเจคเตอร์และไฟซีนอนมาจากโรงงานเลย  ทั้งนี้ ถึงแม้โคมโปรเจคเตอร์จะช่วยลดการกระจายและฟุ้งของแสง  แต่  หากใส่ซีนอนที่มีค่า K มาก  ก็เอาไม่อยุ่ครับ    ดังนั้น ซีนอนที่ติดมาจากโรงงาน พร้อมโปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่ จะมีค่า K  อยู่  4,300-6,000  K ถ้าเกินนี้  ผิดกฎหมายนะครับ    โดย 4,300 K  จะได้แสงที่ได้จะออกสีขาวนวลอมเหลืองทอง     โดยตัวอย่างจะเห็นได้จาก  ปาร์เจโร่  ฟอร์จุนเนอร์ แคมรี่ ตัวปัจจุบัน   ฯลฯ  ส่วน 6,000  K จะออกสีขาวอมฟ้า ดังจะเห็นได้จาก รถยุโรป อย่างเบนซ์ E-class  Bmw        จำไว้อย่างนึงว่า  ถ้าค่า K ยิ่งมาก  สีฟ้ายิ่งมากขึ้นนะครับ  โปรเจคเตอร์ก็โปรเจคเตอร์เถอะ เอาไม่อยู่แน่     ทั้งนี้ทั้งนั้น  ถึงมีโปรเจคเตอร์ช่วยลดการกระจายของแสง แต่ การปรับตั้งไฟก็จำเป็นนะครับ   ตั้งให้พอดี      ในรถรุ่นใหม่ๆ  มีตัวปรับตั้งไฟในตัวเลย ทั้งอัตโนมือ และอัตโนมัติ     ซึ่งจะช่วยในเรื่องแสงแยงตาคันข้างหน้าน ในกรณีที่รถบรรทุกหนัก หน้าโด่ง   สรุปว่า....ติดซีนอนได้ครับ  ไม่แยงตาแน่นอน  โดยมีข้อแม้ว่า ต้องมีโคมโปรเจคเตอร์     ตั้งไฟให้ได้มาตรฐาน  และที่สำคัญ  เลือก ซีนอนที่มีค่า K 4,300-6,000     ถ้ามากกว่านี้  ผิดกฎหมายและแยงตาแน่นอนครับ  

ปล.ตามภาพผมติดใส่ ฟอร์จูนเนอร์ของผม ครับ  6,000 K  ในไฟต่ำ ส่วน ไฟตัดหมอก ไฟสูง ใช้หลอกเดิมครับ เพราะไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว และคิดว่า ไม่จำเป็น   ส่วนภาพ ที่เห็น DRL ตัวนี้น่าจะ 8,000 K ผมซื้อมา 900 บาท  ใช้ได้ 5 เดือน น้ำเข้า ไม่ติดข้างนึง  เลยถอดทิ้ง ซื้อตัวใหม่ ประมาณ 2,500 รับประกัน 1 ปี   ใช้ดีมากๆ ครับ ใช้มา จะ 2 ปีไม่หงอแง  และแสงของ DRL ไม่สว่างจนเกินไป  ความสว่างอยู่ที่ 6,000 K มีระบบ ติดอัตโนมัติ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์  ดับเมื่อดับเครื่อง 1 นาที    มีระบบเชื่อมกับไฟเลี้ยว   และเมื่อเปิดไฟหน้าไฟ DRL จะหรี่ลง หรือดร๊อปแสงลง  เหมือนแอคคอร์ดและครับ    ส่วนซีนอน ถ้าโคมโปรเจคเตอร์จัดเลยครับ 6,000 K พอดีสุด ไม่แยงตาชาวบ้านแน่นอน  ที่สำคัญ มันสวยด้วยครับ