ย้อนประวัติ ผลงานด้านบันเทิง ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนผู้ล่วงลับ

กระทู้สนทนา
ย้อนประวัติ ผลงานด้านบันเทิง ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนผู้ล่วงลับ

เนื่องจาก การจากไปอย่างกะทันหัน ของ คุณ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เมื่อวานนี้ จึงขอนำเรื่องราวเก่าๆ ที่คุณ เอ็กซ์ได้มีส่วนร่วมในวงการบันเทิง ที่โดดเด่น มาให้รับทราบกันอีกครั้งนะครับ

ที่มา http://bit.ly/1c665Uo

ประวัติด้านการกีฬา
เริ่มยิงปืนได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนที่จะติดทีมชาติไทยครั้งแรกเมื่ออายุได้เพียง 18 ปี สร้างเกียรติประวัติให้ชาติไทยมากมาย ได้แก่ คว้าอันดับ 4 ศึกเอเชียนเกมส์ 1998, ได้เหรียญเงินใน ซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์  และครองอันดับ 8 ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008

นอกเหนือจากการ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ในการไปแข่งกีฬา เพื่อสร้างชื่อเสียงแล้วนั้น จักรกฤษณ์ ยังมีผลงานในวงการบันเทิงที่โดดเด่น และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ดังต่อไปนี้


1. การรับบท แสดงเป็น โค้ชพงศ์ ผู้จัดการทีมชาติลาว หมากเตะรีเทิร์นส์

หมากเตะ เป็น ภาพยนตร์ไทย ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ แม่ค้าที่บ้าฟุตบอล ถูกหวย 192 ล้าน แล้วนำเงินไปสร้างทีมฟุตบอลทีมชาติลาว เพื่อให้ลาวได้ไปแข่งขัน ฟุตบอลโลก มีกำหนดฉาย ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ตรงกับช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006

ภาพยนตร์เรื่องหมากเตะ นั้นเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ GTH ที่เกิดปัญหาขึ้นก่อนจะนำฉายจริง เพราะ  นายเหียม พมมะจัน เอกอัคราชทูตลาว เกรงว่าชาวลาวจะไม่พอใจ เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับชาวลาว และ เป็นหนังตลก จึงได้ขอเปลี่ยนเอาเนื้อหาที่เกี่ยวกับลาวออกทั้งหมด

ทางต้นสังกัด จึงต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการการเปลี่ยนประเทศในหนัง จากลาว เป็น ราชรัฐอาวี และเปลี่ยนชื่อเป็น หมากเตะรีเทิร์นส์ ซึ่งการกลับมาอีกครั้งนั้น ทำให้รายได้ไม่สู้ดีนัก


2. รับบทเป็น  ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ใน ปืนใหญ่จอมสลัด

ภาพยนตร์แนวแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ของ นนทรีย์ นิมิบุตร ทุนสร้าง 140 ล้านบาท เขียนบทภาพยนตร์โดย วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และคงเดช จาตุรันต์รัศมี

ภาพยนตร์ออกฉายปฐมทัศน์ครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2008 เดเรก เอลเลย์ จาก นิตยสารวาไรอิตี พูดถึงว่า ภาพยนตร์ขาดการโฟกัสและด้วยความยาว 133 นาที ที่ยาวเกินไป หลังจากการตอบรับสหมงคลฟิล์มจึงได้ทำให้สั้นลง และจากกำหนดการเดิมจากเดือนสิงหาคมเลื่อนไปเป็นเดือนตุลาคม ซึ่งทางผู้กำกับอธิบายว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดของเหตุการณ์การเมือง

ภาพยนตร์ออกฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส และยังได้ออกฉายรอบกาล่า ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2008 โดยออกฉายรอบทั่วไปในประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551 โดยเปิดตัวรายได้ในสัปดาห์แรกที่ 31.6 ล้านบาท ทำรายได้รวม 74.8 ล้านบาท


3. รับบทเป็น อุปราชมังระ ในขุนรองปลัดชู

ขุนรองปลัดชู หรือในชื่อเต็มว่า ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม ภาพยนตร์ไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ในสงครามพระเจ้าอลองพญา ออกฉายในช่วงกลางปี พ.ศ. 2554 นำแสดงโดย สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ, จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม กำกับการแสดงโดย สุรัสวดี เชื้อชาติ

ขุนรองปลัดชู เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเนื้อหาเพียง 2 บรรทัดที่จารึกลงในพงศาวดารที่ว่าถึง ขุนรองปลัดชู ขุนนางระดับล่างของวิเศษไชยชาญได้รวบรวมอาสาสมัครซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ จำนวน 400 คน ยกลงไปสู้รบกับพม่าที่หาดหว้าขาว ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวมะนาว ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้งหมดได้ตายหมดสิ้น

เมื่อออกฉายแล้ว ได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดออกมาในแบบขาวดำ ในภาพบางช่วงตัดสลับเป็นภาพสี ดำเนินเรื่องคล้ายกับสารคดีให้ความรู้สึกเหมือนจริง โดยมีเสียงบรรยายความโดยตัวขุนรองฯเอง เล่าความตั้งแต่ต้น ด้วยบทสนทนามีการสอดแทรกประเด็นทางสังคมที่ร่วมสมัย แม้เป็นคำพูดภาษาโบราณ แต่ทว่าสะท้อนถึงปัญหาของบ้านเมืองในยุคนี้ได้อย่างถึงแก่น ขณะที่ตัวนักแสดงนำ คือ สุทธิพงษ์ ถือว่ารับบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ชมเชื่อได้ว่า คือขุนรองฯเองจริง ๆ ถึงขนาดเมื่อฉายจบในโรงภาพยนตร์สกาล่า ผู้ชมได้ปรบมือและบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา และบ้างก็นำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง 300 ที่มีเนื้อหาวีรกรรมคล้ายคลึงกัน

ที่มา wikipedia.org
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่