ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556
มีใครสักกี่คนบนโลกนี้ที่ปิ๊งไอเดียว่า แมลงสาบที่เห็นเมื่อใดก็รู้สึกรังเกียจอย่างเดียว จะทำเงินทำทองได้ แต่หวัง ฝูงหมิง หนุ่มใหญ่ชาวจีนวัย 43 ที่เรียนจบเพียงมัธยมปลาย รู้ความลับข้อนี้ และกำลังจะกลายเป็นนักเพาะเลี้ยงแมลงสาบรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยขณะนี้มีฟาร์ม 6 แห่งกับสัตว์เลี้ยงหกขาในความดูแลประมาณ 10 ล้านตัว
ในแง่ความรู้สึก ยากจะทำใจให้ชอบพอได้ แต่ความจริงของแมลงสาบคือ นอกจากเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกแล้ว ปีกของมันยังอุดมไปด้วยสารอย่างเซลลูโลส เป็นที่ต้องการของผู้ผลิตยาแผนโบราณ และเป็น "สูตรลับ" ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิด
มีบริษัทยาอย่างน้อย 5 แห่งที่ใช้แมลงสาบทำยาจีน และปัจจุบันกำลังมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องทั้งในจีนและเกาหลีใต้เกี่ยวกับใช้แมลงสาบบดเป็นผลสำหรับรักษาโรคศีรษะล้าน เอดส์ และมะเร็ง ตลอดจนเป็นวิตามินเสริม
ปัจจุบันจีนมีฟาร์มแมลงสาบกว่า 100 แห่ง และอีกมากกำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ธุรกิจนี้เริ่มต้นง่าย ต้นทุนไม่สูง ผลกำไรน่าดึงดูด เลี้ยงง่าย ต้นทุนการดูแลรักษาต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับสัตว์อีกหลายชนิดที่ไม่ชวนยี้เหมือนแมลงสาบ
หวัง ฝูหมิง กล่าวว่า "ผมเคยคิดจะเลี้ยงสุกร แต่พอมานึกๆ ดู กำไรน้อยมาก แต่ถ้าเป็นแมลงสาบ คุณลงทุนแค่ 20 หยวน ก็ได้คืน 150 หยวน"
นับจากหวังเริ่มจับธุรกิจนี้ในปี 2553 ราคาแมลงสาบแห้งพุ่งขึ้นถึง 10 เท่า จากปอนด์ (2.2 กิโลกรัม) ละ 2 ดอลลาร์ เป็น 20 ดอลลาร์แล้วในปัจจุบัน เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตยาแผนโบราณมีความต้องการผงแมลงสาบสูงมาก
สำหรับพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงส่งขายคือ แมลงสาบอเมริกัน (เพริพลาเนตา อเมริกานา แมลงสาบพันธุ์ใหญ่สีน้ำตาลอมแดง) ที่โตเต็มที่จะมีความยาว 1.6 นิ้ว
เพราะรู้ดีว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไรกับการมีแมลงสาบมากมายอยู่ในครอบครอง จึงพยายามปิดธุรกิจไว้เป็นความลับ อย่างกรณีฟาร์มของนายหวัง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรแห่งหนึ่ง ติดป้ายหน้าประตูง่ายๆ ว่า "จื้อหนาน ฮัวหลู ฟีด" คล้ายกับเป็นธุรกิจอาหารสัตว์ชนิดหนึ่ง ทำให้ในประเทศจีนเองก็ไม่ค่อยทราบว่ามีอุตสาหกรรมเลี้ยงแมลงสาบอยู่
กระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคม เกิดเหตุแมลงสาบหลายล้านตัวหลุดรอดออกจากฟาร์มแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซู จึงกลายเป็นข่าวพาดหัวครึกโครมทั่วแดนมังกรและทั่วโลก และกลายเป็นจุดสนใจนับจากนั้นมา
นายหลิง หยูเชิง ประธานสมาคมอุตสาหกรรมแมลงชานตง กล่าวว่า เราพยายามทำอะไรแบบเงียบๆ ตลอดมา รัฐบาลอนุญาตให้พวกเราทำธุรกิจนี้แบบกลายๆ แต่หากเป็นจุดสนใจมากเกินไป หรือหากฟาร์มแมลงสาบเข้าไปใกล้พื้นที่ชุมชนเมื่อไหร่ นั่นอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้"
จุดนี้เป็นที่เข้าใจได้ เพราะเมื่อฟาร์มแมลงสาบอยู่ในย่านไหน มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ย่อมจะตกลงอย่างแน่นอน
(สามารถอ่านกรณีแมลงสาบหลุดรอดออกจากฟาร์ม และสรรพคุณทางยา ได้ในกระทู้ http://ppantip.com/topic/30927397)
ฟาร์มแมลงสาบ ธุรกิจชวนยี้ แต่ทำแล้วรวย
มีใครสักกี่คนบนโลกนี้ที่ปิ๊งไอเดียว่า แมลงสาบที่เห็นเมื่อใดก็รู้สึกรังเกียจอย่างเดียว จะทำเงินทำทองได้ แต่หวัง ฝูงหมิง หนุ่มใหญ่ชาวจีนวัย 43 ที่เรียนจบเพียงมัธยมปลาย รู้ความลับข้อนี้ และกำลังจะกลายเป็นนักเพาะเลี้ยงแมลงสาบรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยขณะนี้มีฟาร์ม 6 แห่งกับสัตว์เลี้ยงหกขาในความดูแลประมาณ 10 ล้านตัว
ในแง่ความรู้สึก ยากจะทำใจให้ชอบพอได้ แต่ความจริงของแมลงสาบคือ นอกจากเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกแล้ว ปีกของมันยังอุดมไปด้วยสารอย่างเซลลูโลส เป็นที่ต้องการของผู้ผลิตยาแผนโบราณ และเป็น "สูตรลับ" ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิด
มีบริษัทยาอย่างน้อย 5 แห่งที่ใช้แมลงสาบทำยาจีน และปัจจุบันกำลังมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องทั้งในจีนและเกาหลีใต้เกี่ยวกับใช้แมลงสาบบดเป็นผลสำหรับรักษาโรคศีรษะล้าน เอดส์ และมะเร็ง ตลอดจนเป็นวิตามินเสริม
ปัจจุบันจีนมีฟาร์มแมลงสาบกว่า 100 แห่ง และอีกมากกำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ธุรกิจนี้เริ่มต้นง่าย ต้นทุนไม่สูง ผลกำไรน่าดึงดูด เลี้ยงง่าย ต้นทุนการดูแลรักษาต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับสัตว์อีกหลายชนิดที่ไม่ชวนยี้เหมือนแมลงสาบ
หวัง ฝูหมิง กล่าวว่า "ผมเคยคิดจะเลี้ยงสุกร แต่พอมานึกๆ ดู กำไรน้อยมาก แต่ถ้าเป็นแมลงสาบ คุณลงทุนแค่ 20 หยวน ก็ได้คืน 150 หยวน"
นับจากหวังเริ่มจับธุรกิจนี้ในปี 2553 ราคาแมลงสาบแห้งพุ่งขึ้นถึง 10 เท่า จากปอนด์ (2.2 กิโลกรัม) ละ 2 ดอลลาร์ เป็น 20 ดอลลาร์แล้วในปัจจุบัน เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตยาแผนโบราณมีความต้องการผงแมลงสาบสูงมาก
สำหรับพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงส่งขายคือ แมลงสาบอเมริกัน (เพริพลาเนตา อเมริกานา แมลงสาบพันธุ์ใหญ่สีน้ำตาลอมแดง) ที่โตเต็มที่จะมีความยาว 1.6 นิ้ว
เพราะรู้ดีว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไรกับการมีแมลงสาบมากมายอยู่ในครอบครอง จึงพยายามปิดธุรกิจไว้เป็นความลับ อย่างกรณีฟาร์มของนายหวัง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรแห่งหนึ่ง ติดป้ายหน้าประตูง่ายๆ ว่า "จื้อหนาน ฮัวหลู ฟีด" คล้ายกับเป็นธุรกิจอาหารสัตว์ชนิดหนึ่ง ทำให้ในประเทศจีนเองก็ไม่ค่อยทราบว่ามีอุตสาหกรรมเลี้ยงแมลงสาบอยู่
กระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคม เกิดเหตุแมลงสาบหลายล้านตัวหลุดรอดออกจากฟาร์มแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซู จึงกลายเป็นข่าวพาดหัวครึกโครมทั่วแดนมังกรและทั่วโลก และกลายเป็นจุดสนใจนับจากนั้นมา
นายหลิง หยูเชิง ประธานสมาคมอุตสาหกรรมแมลงชานตง กล่าวว่า เราพยายามทำอะไรแบบเงียบๆ ตลอดมา รัฐบาลอนุญาตให้พวกเราทำธุรกิจนี้แบบกลายๆ แต่หากเป็นจุดสนใจมากเกินไป หรือหากฟาร์มแมลงสาบเข้าไปใกล้พื้นที่ชุมชนเมื่อไหร่ นั่นอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้"
จุดนี้เป็นที่เข้าใจได้ เพราะเมื่อฟาร์มแมลงสาบอยู่ในย่านไหน มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ย่อมจะตกลงอย่างแน่นอน
(สามารถอ่านกรณีแมลงสาบหลุดรอดออกจากฟาร์ม และสรรพคุณทางยา ได้ในกระทู้ http://ppantip.com/topic/30927397)