วันศุกร์ที่ 11 และ เสาร์ที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา พาพันได้มีโอกาสกระทบไหล่พี่ ๆ นักเขียนจากพันทิปหลายท่าน ซึ่งงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม "อ่านเอาเรื่อง" นั่นเองครับ ใครที่พลาดไม่ได้ไป ไม่ต้องเสียใจนะครับ วันนี้พาพันมีภาพบรรยากาศมาฝากด้วยครับ
วันศุกร์ที่ 11 ต.ค. เป็นคิวของอาจารย์หมอวัชรพล (ดร. น.พ.วัชรพล อเล็กซองดร์ กำเนิดศิริ) เจ้าของล็อกอิน
Psychiatrist นั่นเองครับ ส่วนผู้ดำเนินรายการของเราคือพี่บอย อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Product Development Manager จาก ppantip.com ครับ
พี่ ๆ ส่วนใหญ่น่าจะรู้จักคุณหมอจากกระทู้ "โศกนาฏกรรมรัก (ของ ๒ นักเรียนไทย) ณ กรุงปารีส ... ในฤดูใบไม้ผลิ" ซึ่งฮอตฮิตติด Top10 ของกระทู้พันทิปที่มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากที่สุด เรียกว่าแต่ละคนไม่หลับไม่นอน เฝ้ากด f5 รัว ๆ เพื่อรีเฟรชกระทู้กันเลยทีเดียว
อาจารย์หมอเล่าว่าเป็นสมาชิกพันทิปตั้งแต่ยุคแรก ๆ เลยครับ และพอมีโอกาสจึงได้นำประสบการณ์ชีวิตมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้อ่านกัน พาพันอ่านเรื่องราวชีวิตของคนอื่นจากกระทู้อาจารย์หมอแล้ว รู้สึกได้เห็นเรื่องราวหลากหลายแง่มุม ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้นทีเดียวครับ (เห็นแบบนี้ พาพันเป็นคนจริงจังกับชีวิตนะคร้าบบบ .... อะไรนะ ไม่เชื่อหรอ ฮ่าๆ)
สุดท้าย อาจารย์หมอก็ฝากเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้มีคนแสดงความคิดเห็นในกระทู้เยอะ ๆ คือการทิ้งช่วงของเรื่องราวที่จะเขียน ให้คนได้รอติดตาม และอัพลงในกระทู้เดียวต่อลงมาเรื่อย ๆ เวลาคนมาอ่านเค้ารู้สึกอิน อยากอ่านต่อ พออาจารย์หมอไม่อัพกระทู้ตอนต่อไปก็จะเกิดการโพสแสดงความเห็นกันในประเด็นต่าง ๆ และเกิดการคุยกันในกระทู้เพื่อคั่นเวลารอตอนต่อไปนั่นเอง
ภาพอาจารย์หมอและทีมผู้ช่วยของท่านครับ
ส่วนวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ก็เป็นคิวของนักเขียนพันทิปถึง 5 ท่านด้วยกันครับ เป็นใครกันบ้างมาดูกันเลย
(จากซ้าย) พี่ต้าร์ พี่จุ๊บ พี่ฟ้า พี่นาน่า และพี่วิน ครับ คนขวาสุดคือพี่บอย จาก Pantip รับหน้าที่พิธีกรเช่นเคยครับ (ตรงกลางคือพาพันเอง ตัวใหญ่กว่าเพื่อนเลย อิอิ) เห็นหน้าค่าตากันแล้วอาจจะไม่คุ้นว่าแต่ละคนเป็นใครกันบ้าง เดี๋ยวพาพันเล่าให้ฟังนะครับ
เริ่มจากพี่วิน นักเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ที่เราคุ้นเคยกันดี ล็อคอิน
Mr. Coffee นั่นเองครับ พี่วินเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ไทยในห้องเฉลิมไทย จนผลงานเข้าตา "เนชั่นสุดสัปดาห์" ติดต่อให้เขียนคอลัมน์วิจารณ์ภาพยนตร์ ในชื่อคอลัมน์ "ม็อคค่าปลาท่องโก๋" ครับ (ฟังแล้วหิวขึ้นมาเลย)
พี่วินเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่มีคนชื่นชอบงานเขียนของพี่วิน น่าจะเกิดจากการเขียนวิจารณ์ที่เป็นกลาง หากเรื่องไหนดูแล้วไม่ถูกใจ ก็จะเขียนวิจารณ์อย่างมีเหตุผล ทั้งข้อดี ข้อเสีย พี่วินบอกว่าการเขียนด่าภาพยนตร์เรื่องที่ไม่ถูกใจ เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ทั้งต่อคนอ่านและคนเขียน ดังนั้นการหยิบเอาข้อดีและข้อเสียมาวิจารณ์อย่างมีเหตุผล จึงเป็นแนวทางที่พี่วินยึดถือมาตลอดครับ
ต่อมาคือ พี่ต้าร์ และ พี่จุ๊บ เจ้าของผลงานที่ทุก ๆ คนต้องรู้จัก นั่นคือ "การ์ตูนเม่า" ที่เป็น Pantip Toy นี่เอง น่าร๊ากกก
นี่คือพี่จุ๊บครับ เป็นผู้วาดการ์ตูน ให้พี่เม่าน่ารักโลดเล่นอยู่บนพันทิปครับ พี่จุ๊บเป็นเจ้าของล็อกอิน
ไม้ไต่คู้ ที่นำการ์ตูนเม่ามาลงที่ห้องสินธรเป็นประจำครับ
ส่วนนี่คือพี่ต้าร์ ซึ่งดูแลเรื่องเนื้อหาของการ์ตูนเม่าครับ
ทั้งสองท่านเล่าให้ฟังว่า การใช้การ์ตูนสื่อสาร สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ ให้คนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย โดยการ์ตูนเม่าของพี่ ๆ ทั้งสองคน เป็นความรู้เกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนครับ นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมงานเขียนของพี่ ๆ ทั้งคู่ถึงได้รับความนิยมมาก จนพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือกันเลยทีเดียว พาพันลองอ่านดูแล้ว ชอบมาก ๆ เลยครับ ทำให้พาพันพอจะเข้าใจเรื่องหุ้น ที่ตอนแรกฟังดูเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ หรือนักธุรกิจ ถ้าหนังสือเรียนทำออกมาเป็นการ์ตูนแบบนี้ พาพันว่าคงจะมีความสุขกับการเรียนมากเลยเนอะ อิอิ
ใครวาดการ์ตูนเก่ง ๆ ลองใช้เทคนิคการวาด เพิ่มเข้าไปในงานเขียนแบบพี่จุ๊บและพี่ต้าร์ดูนะครับ
ต่อมาคือพี่ฟ้า เจ้าของกระทู้รีวิวการนั่งรถไฟญี่ปุ่นเหนือจรดใต้ ในห้องบลูแพลนเน็ต พี่ฟ้าใช้ล็อคอิน
doxdoxchan_farh ครับ (ตอนนี้กระทู้ของพี่ฟ้าขึ้นแนะนำอยู่ที่ห้องบลูแพลนเน็ตด้วย ลองตามไปดูกันนะครับ)
พี่บอยถามพี่ฟ้าว่า กระทู้ท่องเที่ยวในห้องบลูแพลนเน็ตมีจำนวนเยอะมาก ทำยังไงให้กระทู้ของเราโดดเด่น พี่ฟ้าบอกขำ ๆ ว่าอาจจะเป็นเพราะพี่ฟ้าลงรูปแบบไม่รีทัช (ฮากันทั้งเวทีครับ) จึงเกิดความแตกต่าง เป็นบรรยากาศสด ๆ และหน้าสดๆ อ่านสำนวนแล้วเหมือนตัวเราได้ออกไปเที่ยวเองเลย นอกจากนี้ข้อมูลในการท่องเที่ยวของพี่ฟ้าค่อนข้างละเอียดครับ พาพันคิดว่าถ้าใครอยากจะไปเที่ยวแบบพี่ฟ้า อ่านกระทู้แล้วสามารถตามรอยได้ไม่ยากเลยครับ (พาพันก็มีเขียนกระทู้บันทึกเที่ยวลอนดอนนะครับ ฝากพี่ ๆ อ่านแล้วติชมกันได้ครับ อิอิ
คลิกที่นี่เพื่ออ่านตอนที่หนึ่งครับ และคลิกที่นี่เพื่ออ่านตอนที่สองครับ )
สุดท้าย คือพี่นาน่า เจ้าของสำนักพิมพ์ต้นมะนาว ครับ พี่นาน่าเป็นสมาชิกพันทิปที่ซุ่มอ่านและคัดเลือกงานเขียนดี ๆ ไปตีพิมพ์เป็นหนังสือครับ เช่น การ์ตูนของล็อกอิน
hong14 ที่อธิบายความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิงได้ตรงเป๊ะเลยครับ หรือกระทู้สุดโรแมนติกของล็อกอิน Stauffenberg เจ้าของกระทู้
เที่ยวสิงคโปร์ราคาถูก ด้วยวิธีขึ้นรถบัสไปแบบละเอียด ... ประหยัด ของจริง วิธีจริง ไปแบบแบ็คแพค ครบรส (เป็นกระทู้ที่ตอนแรก ๆ เป็นรีวิวท่องเที่ยว ตอนหลังกลายเป็นกระทู้สีชมพู อ่านไป จิกหมอนไป ลุ้นตามพี่เค้าไปด้วยครับ)
พี่นาน่าบอกว่า ทางสำนักพิมพ์จะคัดเลือกเรื่องราว จากนักเขียนที่เป็นธรรมชาติ เขียนด้วยความตั้งใจอยากแชร์ อยากแบ่งปันเรื่องราว ซึ่งถ้านักเขียนคนไหนมีคาแรคเตอร์ที่ "คลิก" กับทางสำนักพิมพ์ พี่นาน่าก็จะติดต่อเข้าไปครับ ปัจจุบันมีนักเขียนจากพันทิปหลายท่านเสนองานเขียนเข้าไปที่สำนักพิมพ์ และอาจจะมีที่ถูกปฏิเสธบ้าง แต่พี่นาน่าบอกว่าไม่ใช่เพราะงานเขียนไม่ดี แต่อาจจะเป็นเพราะเนื้อหายังไม่ตรงกับที่สำนักพิมพ์ต้องการครับ และพี่นาน่าก็ยังฝากไว้ว่า หากใครอยากจะเป็นนักเขียน เวลาตั้งกระทู้ ให้ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ด้วย เผื่อมีสำนักพิมพ์ต่าง ๆ สนใจ จะได้มีช่องการการติดต่อกันได้ครับ
นี่ก็เป็นทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนักเขียนสมาชิกพันทิป ที่พาพันนำมาเล่าสู่กันฟังครับ พาพันดีใจมากเลยครับที่มีโอกาสได้เจอพี่ ๆ ทั้ง 6 ท่าน ทำให้พาพันได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย และพาพันเชื่อว่าในเว็บไซต์แห่งนี้ ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านที่มีความรู้ พร้อมที่จะมาแชร์กันแบบนี้ครับ ถ้ามีนักเขียนท่านใดอ่านอยู่ รบกวนหลังไมค์มากระซิบบอกพาพันบ้างนะครับ โอกาสต่อไปจะได้เรียนเชิญมาพบปะพูดคุยกันเหมือนงานนี้อีกคร้าบบบ
สำหรับวันนี้ พาพันขอตัวก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่งานหน้าครับผม
เก็บตกบรรยากาศการพูดคุยกับนักเขียนพันทิป หัวข้อ "จากกระทู้ สู่หนังสือ @Pantip"
วันศุกร์ที่ 11 ต.ค. เป็นคิวของอาจารย์หมอวัชรพล (ดร. น.พ.วัชรพล อเล็กซองดร์ กำเนิดศิริ) เจ้าของล็อกอิน Psychiatrist นั่นเองครับ ส่วนผู้ดำเนินรายการของเราคือพี่บอย อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Product Development Manager จาก ppantip.com ครับ
พี่ ๆ ส่วนใหญ่น่าจะรู้จักคุณหมอจากกระทู้ "โศกนาฏกรรมรัก (ของ ๒ นักเรียนไทย) ณ กรุงปารีส ... ในฤดูใบไม้ผลิ" ซึ่งฮอตฮิตติด Top10 ของกระทู้พันทิปที่มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากที่สุด เรียกว่าแต่ละคนไม่หลับไม่นอน เฝ้ากด f5 รัว ๆ เพื่อรีเฟรชกระทู้กันเลยทีเดียว
อาจารย์หมอเล่าว่าเป็นสมาชิกพันทิปตั้งแต่ยุคแรก ๆ เลยครับ และพอมีโอกาสจึงได้นำประสบการณ์ชีวิตมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้อ่านกัน พาพันอ่านเรื่องราวชีวิตของคนอื่นจากกระทู้อาจารย์หมอแล้ว รู้สึกได้เห็นเรื่องราวหลากหลายแง่มุม ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้นทีเดียวครับ (เห็นแบบนี้ พาพันเป็นคนจริงจังกับชีวิตนะคร้าบบบ .... อะไรนะ ไม่เชื่อหรอ ฮ่าๆ)
สุดท้าย อาจารย์หมอก็ฝากเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้มีคนแสดงความคิดเห็นในกระทู้เยอะ ๆ คือการทิ้งช่วงของเรื่องราวที่จะเขียน ให้คนได้รอติดตาม และอัพลงในกระทู้เดียวต่อลงมาเรื่อย ๆ เวลาคนมาอ่านเค้ารู้สึกอิน อยากอ่านต่อ พออาจารย์หมอไม่อัพกระทู้ตอนต่อไปก็จะเกิดการโพสแสดงความเห็นกันในประเด็นต่าง ๆ และเกิดการคุยกันในกระทู้เพื่อคั่นเวลารอตอนต่อไปนั่นเอง
ภาพอาจารย์หมอและทีมผู้ช่วยของท่านครับ
ส่วนวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ก็เป็นคิวของนักเขียนพันทิปถึง 5 ท่านด้วยกันครับ เป็นใครกันบ้างมาดูกันเลย
(จากซ้าย) พี่ต้าร์ พี่จุ๊บ พี่ฟ้า พี่นาน่า และพี่วิน ครับ คนขวาสุดคือพี่บอย จาก Pantip รับหน้าที่พิธีกรเช่นเคยครับ (ตรงกลางคือพาพันเอง ตัวใหญ่กว่าเพื่อนเลย อิอิ) เห็นหน้าค่าตากันแล้วอาจจะไม่คุ้นว่าแต่ละคนเป็นใครกันบ้าง เดี๋ยวพาพันเล่าให้ฟังนะครับ
เริ่มจากพี่วิน นักเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ที่เราคุ้นเคยกันดี ล็อคอิน Mr. Coffee นั่นเองครับ พี่วินเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ไทยในห้องเฉลิมไทย จนผลงานเข้าตา "เนชั่นสุดสัปดาห์" ติดต่อให้เขียนคอลัมน์วิจารณ์ภาพยนตร์ ในชื่อคอลัมน์ "ม็อคค่าปลาท่องโก๋" ครับ (ฟังแล้วหิวขึ้นมาเลย)
พี่วินเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่มีคนชื่นชอบงานเขียนของพี่วิน น่าจะเกิดจากการเขียนวิจารณ์ที่เป็นกลาง หากเรื่องไหนดูแล้วไม่ถูกใจ ก็จะเขียนวิจารณ์อย่างมีเหตุผล ทั้งข้อดี ข้อเสีย พี่วินบอกว่าการเขียนด่าภาพยนตร์เรื่องที่ไม่ถูกใจ เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ทั้งต่อคนอ่านและคนเขียน ดังนั้นการหยิบเอาข้อดีและข้อเสียมาวิจารณ์อย่างมีเหตุผล จึงเป็นแนวทางที่พี่วินยึดถือมาตลอดครับ
ต่อมาคือ พี่ต้าร์ และ พี่จุ๊บ เจ้าของผลงานที่ทุก ๆ คนต้องรู้จัก นั่นคือ "การ์ตูนเม่า" ที่เป็น Pantip Toy นี่เอง น่าร๊ากกก
นี่คือพี่จุ๊บครับ เป็นผู้วาดการ์ตูน ให้พี่เม่าน่ารักโลดเล่นอยู่บนพันทิปครับ พี่จุ๊บเป็นเจ้าของล็อกอิน ไม้ไต่คู้ ที่นำการ์ตูนเม่ามาลงที่ห้องสินธรเป็นประจำครับ
ส่วนนี่คือพี่ต้าร์ ซึ่งดูแลเรื่องเนื้อหาของการ์ตูนเม่าครับ
ทั้งสองท่านเล่าให้ฟังว่า การใช้การ์ตูนสื่อสาร สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ ให้คนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย โดยการ์ตูนเม่าของพี่ ๆ ทั้งสองคน เป็นความรู้เกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนครับ นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมงานเขียนของพี่ ๆ ทั้งคู่ถึงได้รับความนิยมมาก จนพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือกันเลยทีเดียว พาพันลองอ่านดูแล้ว ชอบมาก ๆ เลยครับ ทำให้พาพันพอจะเข้าใจเรื่องหุ้น ที่ตอนแรกฟังดูเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ หรือนักธุรกิจ ถ้าหนังสือเรียนทำออกมาเป็นการ์ตูนแบบนี้ พาพันว่าคงจะมีความสุขกับการเรียนมากเลยเนอะ อิอิ
ใครวาดการ์ตูนเก่ง ๆ ลองใช้เทคนิคการวาด เพิ่มเข้าไปในงานเขียนแบบพี่จุ๊บและพี่ต้าร์ดูนะครับ
ต่อมาคือพี่ฟ้า เจ้าของกระทู้รีวิวการนั่งรถไฟญี่ปุ่นเหนือจรดใต้ ในห้องบลูแพลนเน็ต พี่ฟ้าใช้ล็อคอิน doxdoxchan_farh ครับ (ตอนนี้กระทู้ของพี่ฟ้าขึ้นแนะนำอยู่ที่ห้องบลูแพลนเน็ตด้วย ลองตามไปดูกันนะครับ)
พี่บอยถามพี่ฟ้าว่า กระทู้ท่องเที่ยวในห้องบลูแพลนเน็ตมีจำนวนเยอะมาก ทำยังไงให้กระทู้ของเราโดดเด่น พี่ฟ้าบอกขำ ๆ ว่าอาจจะเป็นเพราะพี่ฟ้าลงรูปแบบไม่รีทัช (ฮากันทั้งเวทีครับ) จึงเกิดความแตกต่าง เป็นบรรยากาศสด ๆ และหน้าสดๆ อ่านสำนวนแล้วเหมือนตัวเราได้ออกไปเที่ยวเองเลย นอกจากนี้ข้อมูลในการท่องเที่ยวของพี่ฟ้าค่อนข้างละเอียดครับ พาพันคิดว่าถ้าใครอยากจะไปเที่ยวแบบพี่ฟ้า อ่านกระทู้แล้วสามารถตามรอยได้ไม่ยากเลยครับ (พาพันก็มีเขียนกระทู้บันทึกเที่ยวลอนดอนนะครับ ฝากพี่ ๆ อ่านแล้วติชมกันได้ครับ อิอิ คลิกที่นี่เพื่ออ่านตอนที่หนึ่งครับ และคลิกที่นี่เพื่ออ่านตอนที่สองครับ )
สุดท้าย คือพี่นาน่า เจ้าของสำนักพิมพ์ต้นมะนาว ครับ พี่นาน่าเป็นสมาชิกพันทิปที่ซุ่มอ่านและคัดเลือกงานเขียนดี ๆ ไปตีพิมพ์เป็นหนังสือครับ เช่น การ์ตูนของล็อกอิน hong14 ที่อธิบายความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิงได้ตรงเป๊ะเลยครับ หรือกระทู้สุดโรแมนติกของล็อกอิน Stauffenberg เจ้าของกระทู้ เที่ยวสิงคโปร์ราคาถูก ด้วยวิธีขึ้นรถบัสไปแบบละเอียด ... ประหยัด ของจริง วิธีจริง ไปแบบแบ็คแพค ครบรส (เป็นกระทู้ที่ตอนแรก ๆ เป็นรีวิวท่องเที่ยว ตอนหลังกลายเป็นกระทู้สีชมพู อ่านไป จิกหมอนไป ลุ้นตามพี่เค้าไปด้วยครับ)
พี่นาน่าบอกว่า ทางสำนักพิมพ์จะคัดเลือกเรื่องราว จากนักเขียนที่เป็นธรรมชาติ เขียนด้วยความตั้งใจอยากแชร์ อยากแบ่งปันเรื่องราว ซึ่งถ้านักเขียนคนไหนมีคาแรคเตอร์ที่ "คลิก" กับทางสำนักพิมพ์ พี่นาน่าก็จะติดต่อเข้าไปครับ ปัจจุบันมีนักเขียนจากพันทิปหลายท่านเสนองานเขียนเข้าไปที่สำนักพิมพ์ และอาจจะมีที่ถูกปฏิเสธบ้าง แต่พี่นาน่าบอกว่าไม่ใช่เพราะงานเขียนไม่ดี แต่อาจจะเป็นเพราะเนื้อหายังไม่ตรงกับที่สำนักพิมพ์ต้องการครับ และพี่นาน่าก็ยังฝากไว้ว่า หากใครอยากจะเป็นนักเขียน เวลาตั้งกระทู้ ให้ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ด้วย เผื่อมีสำนักพิมพ์ต่าง ๆ สนใจ จะได้มีช่องการการติดต่อกันได้ครับ
นี่ก็เป็นทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนักเขียนสมาชิกพันทิป ที่พาพันนำมาเล่าสู่กันฟังครับ พาพันดีใจมากเลยครับที่มีโอกาสได้เจอพี่ ๆ ทั้ง 6 ท่าน ทำให้พาพันได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย และพาพันเชื่อว่าในเว็บไซต์แห่งนี้ ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านที่มีความรู้ พร้อมที่จะมาแชร์กันแบบนี้ครับ ถ้ามีนักเขียนท่านใดอ่านอยู่ รบกวนหลังไมค์มากระซิบบอกพาพันบ้างนะครับ โอกาสต่อไปจะได้เรียนเชิญมาพบปะพูดคุยกันเหมือนงานนี้อีกคร้าบบบ
สำหรับวันนี้ พาพันขอตัวก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่งานหน้าครับผม