คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คุณครูที่สอน จขกท โหดจังค่ะ
เราเองก็เรียนศิลปะ ดนตรีไทย รำไทย ตามหลักสูตรจนจบ ม.6 ไม่เห็นรู้สึกกดดันขนาดนั้นเลย ทั้งที่ไม่มีความสามารถ/ทักษะด้านนี้เลย ทุกวันนี้ลูกยังบอกเลยว่า หนูวาดรูปสวยกว่าแม่ จำได้ว่า ม.6 ต้องรำศรีนวลสอบ ทุกเย็นต้องมาตั้งแถวซ้อมรำ คุณครูซึ่งมีอยู่คนเดียว สอนนักเรียนทั้ง รร มายืนกำกับ ฝึกเด็กทุกวัน ยังจำที่คุณครูพูดได้เลย "เคี่ยวเข็ญขนาดนี้ คงคิดว่า ชีวิตนี้จำได้ไม่มีลืมหล่ะสิ แต่ไม่นานพวกเธอก็ลืมหมด มีรุ่นพี่เธอจะไปรำออกงาน กลับมาบอกให้ช่วยสอนใหม่" ตอนนั้นยังแอบเถียงในใจ "ชาตินี้ไม่มีทางลืมแหง" แต่ในความเป็นจริง ลืมหมดเลยค่ะ จริงอย่างที่คุณครูพูดเลย ดนตรีไทย ก็เรียนมันทั้ง จะเข้ ระนาด ฆ้องวง (ไม่เคยได้เรียนขิม แย่งเขาไม่ทัน) เลิกเรียนก็ไปแย่งกันซ้อมเพราะเครื่องดนตรีมีน้อยกว่าเด็ก ปัจจุบันก็ลืมหมดเหมือนกัน
แต่เราไม่เคยคิดว่า เสียเวลาที่เรียน ไม่มีประโยชน์อะไรนะ ถึงเราจะไม่เก่ง เรียนแล้วไม่ได้ใช้ แต่ก็ชอบค่ะ ตอนนี้มีลูก ก็ให้ลูกเรียนดนตรีไทยค่ะ แม่อยากให้เรียน พอลูกอยากเรียนด้วย ดีใจมาก เราคิดว่า ทุกวิชามีข้อดีอยู่ในตัวเอง ไม่มีวิชาไหนที่ไม่มีคุณค่า แต่ปัญหาอยู่ที่หลักสูตรและวิธีถ่ายทอดมากกว่า
ขอนอกเรื่อง วิชาที่เราเซ็งกับหลักสูตรมากๆ กลับเป็น พระพุทธศาสนา กับ ประวัติศาสตร์ ช่วยเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียนรู้เพื่อเข้าใจได้มั้ย ไม่ใช่ตะบี้ตะบันท่องจำ เราชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์นะ แต่ไม่ชอบตำราประวัติศาสตร์ในหลักสูตรการศึกษาไทยเลย
เราเองก็เรียนศิลปะ ดนตรีไทย รำไทย ตามหลักสูตรจนจบ ม.6 ไม่เห็นรู้สึกกดดันขนาดนั้นเลย ทั้งที่ไม่มีความสามารถ/ทักษะด้านนี้เลย ทุกวันนี้ลูกยังบอกเลยว่า หนูวาดรูปสวยกว่าแม่ จำได้ว่า ม.6 ต้องรำศรีนวลสอบ ทุกเย็นต้องมาตั้งแถวซ้อมรำ คุณครูซึ่งมีอยู่คนเดียว สอนนักเรียนทั้ง รร มายืนกำกับ ฝึกเด็กทุกวัน ยังจำที่คุณครูพูดได้เลย "เคี่ยวเข็ญขนาดนี้ คงคิดว่า ชีวิตนี้จำได้ไม่มีลืมหล่ะสิ แต่ไม่นานพวกเธอก็ลืมหมด มีรุ่นพี่เธอจะไปรำออกงาน กลับมาบอกให้ช่วยสอนใหม่" ตอนนั้นยังแอบเถียงในใจ "ชาตินี้ไม่มีทางลืมแหง" แต่ในความเป็นจริง ลืมหมดเลยค่ะ จริงอย่างที่คุณครูพูดเลย ดนตรีไทย ก็เรียนมันทั้ง จะเข้ ระนาด ฆ้องวง (ไม่เคยได้เรียนขิม แย่งเขาไม่ทัน) เลิกเรียนก็ไปแย่งกันซ้อมเพราะเครื่องดนตรีมีน้อยกว่าเด็ก ปัจจุบันก็ลืมหมดเหมือนกัน
แต่เราไม่เคยคิดว่า เสียเวลาที่เรียน ไม่มีประโยชน์อะไรนะ ถึงเราจะไม่เก่ง เรียนแล้วไม่ได้ใช้ แต่ก็ชอบค่ะ ตอนนี้มีลูก ก็ให้ลูกเรียนดนตรีไทยค่ะ แม่อยากให้เรียน พอลูกอยากเรียนด้วย ดีใจมาก เราคิดว่า ทุกวิชามีข้อดีอยู่ในตัวเอง ไม่มีวิชาไหนที่ไม่มีคุณค่า แต่ปัญหาอยู่ที่หลักสูตรและวิธีถ่ายทอดมากกว่า
ขอนอกเรื่อง วิชาที่เราเซ็งกับหลักสูตรมากๆ กลับเป็น พระพุทธศาสนา กับ ประวัติศาสตร์ ช่วยเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียนรู้เพื่อเข้าใจได้มั้ย ไม่ใช่ตะบี้ตะบันท่องจำ เราชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์นะ แต่ไม่ชอบตำราประวัติศาสตร์ในหลักสูตรการศึกษาไทยเลย
แสดงความคิดเห็น
วิชานาฎศิลป์กำลังจะถูกถอดออก เป็นวิชาเลือกเสรี ดิฉันเก็บกดค่ะ
ค่ะ สัปดาห์คาบ แต่ซ้อมล่ะค่ะ ใช้เวลาเท่าไหร่ ไม่ซ้อมได้มั้ย ได้สิ พอทำไม่ได้ก็โดนตี
2.วิชานี้เป็นรากเหง้าของความเป็นไทย
ใช่ค่ะ อาจารย์ที่สอนเลย สอนแบบรากเหง้า เฆี่ยนเด็ก หยิกเด็ก เหมือนวัวเหมือนควายที่ใช้ไถนา
3.ถ้าไม่มีวิชานี้เราจะสูญสิ้นความเป็นไทย ไม่เหลืออะไรไว้ให้ชาติอาเชี่ยนชื่นชม (เสรีอาเชี่ยนจะมาแล้วนะ)
ชาติอื่นเค้าก็ไม่เห็นบังคับวัฒนธรรมพื้นบ้านต้องมาลงเรียน กวนอิมพันมือ กังฟูเส้าหลิน ระบำของชาติต่างๆ เค้าก็เรียน ฝึกซ้อมเป็นจริงเป็นจริง เผยแพร่ให้คนดูได้ แถมทำรายได้อีก
4. คุณไม่โดนบังคับเรียนนาฎศิลป์คุณไม่ใช่คนไทย
ถามสักคำไหม ว่าอยากเรียนป่าว พ่อแม่อยากส่งเสริมลูกเค้ามั้ย เป็นคนนะคะไม่ใช่ควาย อยากเรียนอ่ะไรขอคิดเองเลือกเอง ไม่ใช่ต้องมาบังคับ ใครอยากเรียนก็ลงเรียน ใครไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องโดนบังคับ ทำไม่ได้ก็โดนตี
เด็กไทยสมัยนี้มี self esteem ต่ำ สาเหตุนึงก็มาจากการศึกษาที่บังคับให้ปฎิบัติในทักษะที่ไม่ชอบ เมื่อจบมาทำงาน ก็อยู่สภาพที่ทนๆ ไป ไม่กล้าปริปากบ่น หรือมีแนวคิดเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลง
เรียกร้องให้การศึกษามีการปรับปรุง พอทำแล้วก็ร้องด่า ถามจริงเถอะ ต้องการอะไรกันแน่
ดิฉันเรียน นาฎศิลป์ตั้งแต่ ประถม ชั้นปี 1 เพราะหัวหน้าหลักสูตร เอกดนตรีไทย เลยบังคับให้นักเรียนปี 1 ต้องเรียนเพื่อให้สืบสานวัฒนธรรม
ดิฉันผู้อ่อนทักษะด้านนี้เหมือนตกอยู่ในนรก ทรมาน เรียนมาเป็นสิบปี ตอนนี้ให้กลับมาจีบ ยังทำไม่ได้ รู้แต่ฟ้อนเป็นของภาคเหนือ มีกระติ๊บเป็นรำทางอีสาน
สิ่งที่ติดตัวมาจนโตกับการปลูกฝัง การทุบตี ด่าทอที่ทำให้ดิฉันเป็นทุกวันนี้คือ งานที่ต้องใช้ทักษะ สมองด้านลงมือปฎิบัติทำไม่ได้ เช่น ขับรถ ผูกเงื่อน เต้นตามจังหวะ
เมื่อก่อนเอาแต่โทษตัวเองๆๆ ที่ไม่ได้เรื่อง แต่โตมาก็พบเพื่อนแบบเดียวกันหลายคน พอลองได้แลกเปลี่ยนความคิดก็พบว่า ตอนเด็กๆ จะไม่เก่งวิชา นาฎศิลป์ ดนตรี และ ศิลปะ ตอนนี้ดิฉันเองเอาวิชาพวกนี้มาหากิน หรือเผยแพร่ไม่ได้เลย
พอกันที วิชาแบบนี้ อาจารย์แบบนี้ ใครอยากเรียนก็เรียน เลือกเรียนไป อย่ามาบังคับคนอื่น ถ้าลูกดิฉันชอบ อยากเรียน ดิฉันจะส่งเสริมให้ไปเรียนตามสถาบัน หรือ เรียนมหาลัยด้านนั้นๆ แต่ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่อยากให้ลูกถูกบังคับเลย
ไปลงชื่อเห็นด้วยกับการถอดวิชานี้เป็นเลือกเสรี ที่ไหนดีคะ?