(1) วิกิพีเดี่ย : หลี่ เค่อเฉียง (จีน: 李克强; พินอิน: Lǐ Kèqiáng)
เป็น นายกฯ แห่งสาธารณรัฐ ปชช.จีน คนปัจจุบัน รายชื่อของเขา ยังอยู่ในลำดับที่2 ของคณะ กก.ประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน & ระหว่างปี พ.ศ. 2551 - 56 เขาดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ ลำดับที่1ง ในรัฐบาล ของ นายเวิน เจียเป่า
ประวัติ : หลี่ เค่อเฉียง เกิดเมื่อวันที่ 1 กค. พศ. 2498 ที่เขตติ้งหยวน ในมณฑลอานฮุย
บิดาของเขา เป็นข้าราชการท้องถิ่นในอานฮุย , หลี่ จบการศึกษาในระดับ ม.ปลาย เมื่อ ปี 2517 ระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรม เขาถูกส่งตัวไปเป็นแรงงาน ที่ชนบทในเขตเฟิ้งหยาง มณฑลอานฮุย , ณ. ที่นั่น เขาเข้าร่วมเป็น สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศจีน & เริ่มต้นเส้นทาง ของเขาสู่ การเป็นหน.ฝ่ายการผลิตประจำท้องถิ่น ของพรรคฯ เขายังได้รับรางวัล บุคคลผู้โดดเด่น ในด้านการเรียนคิดแบบ
เหมา เจ๋อตง
เขาปฏิเสธข้อเสนอของบิดา ที่จะให้เขาเป็นผู้นำพรรคฯ_ประจำท้องถิ่น & เข้าศึกษาต่อ ในด้านกฎหมาย ที่ ม.ปักกิ่ง & เมื่อเขาได้รับวุฒินิติศาสตรบัณฑิต เขาได้ดำรงตำแหน่ง ปธ.สภานักศึกษา ของมหาวิทยาลัย , เขายังได้รับป.เอก ทางด้านเศรษฐศาสตร์
ต่อมา ใน ปี 2523 เขาเป็นเลขาธิการคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ (CYL) ที่ ม.ปักกิ่ง , 2ปี_ต่อมา กลายเป็น ผู้นำระดับสูงของคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ ในตำแหน่งสมาชิกสำนักเลขาธิการฯ & ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกั บหู จิ่นเทา ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคฯ ในขณะนั้น
และในที่สุด เขาก็กลายเป็น เลขาธิการใหญ่ของคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ จนถึง ปี 2541 ก่อนจะมาเป็นรองนายกฯ & นายกฯ ในที่สุด *
(2) Thai Rath (โดย ลม เปลี่ยนทิศ) : มิตรภาพ จาก.. " ผู้นำจีน "
ก็ต้องถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เมื่อ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยผลการหารือกับ หลี่ เค่อเฉียง นายกฯ_จีน ที่เชียงใหม่ ก่อนที่นายกฯ_จีน จะเดินทางไปเยือน... Vietnam เป็นประเทศต่อไปว่า นายกฯ_จีน ได้ปรับการซื้อข้าวจากไทย เพิ่มเป็นปีละ 1,000,000ตัน ในลักษณะ รัฐต่อรัฐ (จีทูจี) & ซื้อยางพาราจากไทย ปีละ 200,000ตัน โดยเป็น
โครงการต่อเนื่อง ไม่มี กำหนดระยะเวลา & จะเริ่มในทันที หลังจากที่มีการเซ็น MOU ซื้อข้าวไทย 1ล้านตัน ภายในระยะเวลา 5ปี_ไปแล้ว
การซื้อ ข้าว&ยาง Lot_นี้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แถลงว่า...
ไม่รวมยอดซื้อ จากภาคเอกชน ที่ได้มีการดำเนินการขายตามปกติ , ถ้าตีความตามที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แถลง ก็หมายความว่า การพูดคุยต่อเนื่องที่เชียงใหม่ นายกฯ_จีน ได้รับปากกับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ว่า จะซื้อข้าวไทยปีละ 1ล้านตัน & ยาง ปีละ 200,000ตัน เพิ่มจากที่เซ็น MOU ไปแล้ว ก็ต้องถือว่า น้ำใจไมตรี ที่ นายกฯ_หลี่ เค่อเฉียง ของจีน มอบให้กับไทยในครั้งนี้ เป็น “น้ำใจ ของ มหามิตร” เลยทีเดียว เพราะรู้ดีว่า ไทยกำลังเดือดร้อนกับ ข้าว&ยาง ที่ค้าง ในStock มากมาย
จีน เริ่มซื้อเมื่อไร? ก็ถือเป็น ผลงานชิ้นโบแดง ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เมื่อนั้น
การแสดงน้ำใจไมตรี ของ นายกฯ_จีน ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องถือเป็น ความสำเร็จ ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ขยันเดินทางไปสร้างสัมพันธ์กับต่างประเทศ รวมทั้ง จีน ด้วย เรื่องนี้ ภาคธุรกิจเอกชน ที่ร่วมเดินทางไปกับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เคยพูดให้ผมฟังหลายครั้ง ,
การคบเป็นเพื่อนซี้ กับ จีน ซึ่งวันนี้เป็น มหาอำนาจอันดับ2 ของโลก & ในอนาคต จีน
อาจจะก้าวขึ้นไปเป็นมหาอำนาจ อันดับ1 ของโลก แทนที่... " สหรัฐฯ " , ผมจึงเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก สมัยที่
คุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ผมก็เขียนเรียกร้องให้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับ จีน แต่
ไม่ค่อยได้ผล
วันนี้! ไทย หันไปคบกับจีน มากขึ้น >> จีน ก็แสดงความเป็นมิตรที่ดีกับไทย มากขึ้น , การมีเพื่อนเป็นประเทศมหาอำนาจ ไม่เห็นว่า จะเสียตรงไหน มีแต่..
ได้กับได้
เมื่อย้อนกลับไป ดูปาฐกถาของ นายกฯ_หลี่ เค่อเฉียง ใน รัฐสภาไทย วันที่เยือนไทยวันแรก ก็ยิ่งเห็นว่า...
จีน เป็น มิตรที่อยู่ใกล้ & มีความจริงใจ มากกว่า... " สหรัฐฯ " , ซึ่งเป็น มิตรที่อยู่ไกล & ไม่สนใจทุกข์สุขของคนไทย & เมืองไทย เท่ากับจีน , นายกฯจีน กล่าวว่า ทั้ง 2ประเทศ มีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความแน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด 30ปี_ที่ผ่านมา ความ สัมพันธ์ไทย-จีน ยังมีความแตกต่างจากความสัมพันธ์ของประเทศอื่น จนอาจกล่าวได้ว่า ไทย&จีน เป็นพี่น้องกัน ซึ่งน่าจะดีต่อ กลุ่มประเทศAsean อื่นๆ
นายกฯ_จีน ยังเสนอการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ในอนาคตว่า จะต้องเริ่มจาก มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน + ความจริงใจต่อกัน การไปมาหาสู่กัน ของผู้นำประเทศระดับสูง & ยกระดับความสัมพันธ์ ในเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว , ด้านเศรษฐกิจ ก็ต้องทำให้เกิดความร่วมมือ ที่เป็นรูปธรรม มากขึ้น เพื่อให้มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 100,000ล้านเหรียญ$_สหรัฐฯ หรือ 3.2ล้านล้านบ. ภายใน 5ปีนี้
จีน จะสร้างธนาคาร ที่ใช้สกุลเงิน ของไทยเรา ในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ *
ส่วน รถไฟความเร็วสูง จีน ก็มีองค์ความรู้ที่จะถ่ายทอดให้กับประเทศไทย , สรุปแล้ว การเดินทางเยือนไทยของผู้นำจีนครั้งนี้ ไทย มีแต่ ได้กับได้
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ในสปีชของ นายกฯ_จีน ก็คือ...
การจัดตั้งธนาคารที่ใช้สกุลเงินของเรา คือ “เงินหยวน” VS. “เงินบาท” ในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หากเป็นจริงเมื่อไร? ไทย จะเป็นศก.การแลกเปลี่ยนเงินหยวน แข่งกับ สิงคโปร์ ทันที! & ะจะมีบทบาทอย่างยิ่ง ต่อการค้าของจีน ในแหลม.. อินโดจีน
โลกวันนี้! การสร้าง มิตร&ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็น เรื่อง.. สำคัญที่สุด!
จึงเห็นว่าการที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์
ขยัน เดืนทาง ไปเยือน ตปท. มา
ถูกท่า_
ถูกทาง แล้ว , แทนการเสียเวลา เล่น การเมือง_น้ำเน่า ตอบโต้กันไปมาอย่างไร้ค่า เป็นนโยบาย ที่ถูกต้องแล้ว --- # # #
*** น้ำใจ ของ มหามิตร >> หลี่ เค่อเฉียง ( 李克强 )
เป็น นายกฯ แห่งสาธารณรัฐ ปชช.จีน คนปัจจุบัน รายชื่อของเขา ยังอยู่ในลำดับที่2 ของคณะ กก.ประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน & ระหว่างปี พ.ศ. 2551 - 56 เขาดำรงตำแหน่ง รองนายกฯ ลำดับที่1ง ในรัฐบาล ของ นายเวิน เจียเป่า
ประวัติ : หลี่ เค่อเฉียง เกิดเมื่อวันที่ 1 กค. พศ. 2498 ที่เขตติ้งหยวน ในมณฑลอานฮุย
บิดาของเขา เป็นข้าราชการท้องถิ่นในอานฮุย , หลี่ จบการศึกษาในระดับ ม.ปลาย เมื่อ ปี 2517 ระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรม เขาถูกส่งตัวไปเป็นแรงงาน ที่ชนบทในเขตเฟิ้งหยาง มณฑลอานฮุย , ณ. ที่นั่น เขาเข้าร่วมเป็น สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศจีน & เริ่มต้นเส้นทาง ของเขาสู่ การเป็นหน.ฝ่ายการผลิตประจำท้องถิ่น ของพรรคฯ เขายังได้รับรางวัล บุคคลผู้โดดเด่น ในด้านการเรียนคิดแบบ เหมา เจ๋อตง
เขาปฏิเสธข้อเสนอของบิดา ที่จะให้เขาเป็นผู้นำพรรคฯ_ประจำท้องถิ่น & เข้าศึกษาต่อ ในด้านกฎหมาย ที่ ม.ปักกิ่ง & เมื่อเขาได้รับวุฒินิติศาสตรบัณฑิต เขาได้ดำรงตำแหน่ง ปธ.สภานักศึกษา ของมหาวิทยาลัย , เขายังได้รับป.เอก ทางด้านเศรษฐศาสตร์
ต่อมา ใน ปี 2523 เขาเป็นเลขาธิการคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ (CYL) ที่ ม.ปักกิ่ง , 2ปี_ต่อมา กลายเป็น ผู้นำระดับสูงของคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ ในตำแหน่งสมาชิกสำนักเลขาธิการฯ & ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกั บหู จิ่นเทา ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคฯ ในขณะนั้น
และในที่สุด เขาก็กลายเป็น เลขาธิการใหญ่ของคณะยุวชนคอมมิวนิสต์ จนถึง ปี 2541 ก่อนจะมาเป็นรองนายกฯ & นายกฯ ในที่สุด *
(2) Thai Rath (โดย ลม เปลี่ยนทิศ) : มิตรภาพ จาก.. " ผู้นำจีน "
ก็ต้องถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เมื่อ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยผลการหารือกับ หลี่ เค่อเฉียง นายกฯ_จีน ที่เชียงใหม่ ก่อนที่นายกฯ_จีน จะเดินทางไปเยือน... Vietnam เป็นประเทศต่อไปว่า นายกฯ_จีน ได้ปรับการซื้อข้าวจากไทย เพิ่มเป็นปีละ 1,000,000ตัน ในลักษณะ รัฐต่อรัฐ (จีทูจี) & ซื้อยางพาราจากไทย ปีละ 200,000ตัน โดยเป็น โครงการต่อเนื่อง ไม่มี กำหนดระยะเวลา & จะเริ่มในทันที หลังจากที่มีการเซ็น MOU ซื้อข้าวไทย 1ล้านตัน ภายในระยะเวลา 5ปี_ไปแล้ว
การซื้อ ข้าว&ยาง Lot_นี้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แถลงว่า...
ไม่รวมยอดซื้อ จากภาคเอกชน ที่ได้มีการดำเนินการขายตามปกติ , ถ้าตีความตามที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แถลง ก็หมายความว่า การพูดคุยต่อเนื่องที่เชียงใหม่ นายกฯ_จีน ได้รับปากกับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ว่า จะซื้อข้าวไทยปีละ 1ล้านตัน & ยาง ปีละ 200,000ตัน เพิ่มจากที่เซ็น MOU ไปแล้ว ก็ต้องถือว่า น้ำใจไมตรี ที่ นายกฯ_หลี่ เค่อเฉียง ของจีน มอบให้กับไทยในครั้งนี้ เป็น “น้ำใจ ของ มหามิตร” เลยทีเดียว เพราะรู้ดีว่า ไทยกำลังเดือดร้อนกับ ข้าว&ยาง ที่ค้าง ในStock มากมาย
จีน เริ่มซื้อเมื่อไร? ก็ถือเป็น ผลงานชิ้นโบแดง ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เมื่อนั้น
การแสดงน้ำใจไมตรี ของ นายกฯ_จีน ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องถือเป็น ความสำเร็จ ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ขยันเดินทางไปสร้างสัมพันธ์กับต่างประเทศ รวมทั้ง จีน ด้วย เรื่องนี้ ภาคธุรกิจเอกชน ที่ร่วมเดินทางไปกับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เคยพูดให้ผมฟังหลายครั้ง ,
การคบเป็นเพื่อนซี้ กับ จีน ซึ่งวันนี้เป็น มหาอำนาจอันดับ2 ของโลก & ในอนาคต จีน
อาจจะก้าวขึ้นไปเป็นมหาอำนาจ อันดับ1 ของโลก แทนที่... " สหรัฐฯ " , ผมจึงเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก สมัยที่ คุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ผมก็เขียนเรียกร้องให้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับ จีน แต่ ไม่ค่อยได้ผล
วันนี้! ไทย หันไปคบกับจีน มากขึ้น >> จีน ก็แสดงความเป็นมิตรที่ดีกับไทย มากขึ้น , การมีเพื่อนเป็นประเทศมหาอำนาจ ไม่เห็นว่า จะเสียตรงไหน มีแต่.. ได้กับได้
เมื่อย้อนกลับไป ดูปาฐกถาของ นายกฯ_หลี่ เค่อเฉียง ใน รัฐสภาไทย วันที่เยือนไทยวันแรก ก็ยิ่งเห็นว่า...
จีน เป็น มิตรที่อยู่ใกล้ & มีความจริงใจ มากกว่า... " สหรัฐฯ " , ซึ่งเป็น มิตรที่อยู่ไกล & ไม่สนใจทุกข์สุขของคนไทย & เมืองไทย เท่ากับจีน , นายกฯจีน กล่าวว่า ทั้ง 2ประเทศ มีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความแน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด 30ปี_ที่ผ่านมา ความ สัมพันธ์ไทย-จีน ยังมีความแตกต่างจากความสัมพันธ์ของประเทศอื่น จนอาจกล่าวได้ว่า ไทย&จีน เป็นพี่น้องกัน ซึ่งน่าจะดีต่อ กลุ่มประเทศAsean อื่นๆ
นายกฯ_จีน ยังเสนอการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ในอนาคตว่า จะต้องเริ่มจาก มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน + ความจริงใจต่อกัน การไปมาหาสู่กัน ของผู้นำประเทศระดับสูง & ยกระดับความสัมพันธ์ ในเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว , ด้านเศรษฐกิจ ก็ต้องทำให้เกิดความร่วมมือ ที่เป็นรูปธรรม มากขึ้น เพื่อให้มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 100,000ล้านเหรียญ$_สหรัฐฯ หรือ 3.2ล้านล้านบ. ภายใน 5ปีนี้
จีน จะสร้างธนาคาร ที่ใช้สกุลเงิน ของไทยเรา ในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ *
ส่วน รถไฟความเร็วสูง จีน ก็มีองค์ความรู้ที่จะถ่ายทอดให้กับประเทศไทย , สรุปแล้ว การเดินทางเยือนไทยของผู้นำจีนครั้งนี้ ไทย มีแต่ ได้กับได้
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ในสปีชของ นายกฯ_จีน ก็คือ...
การจัดตั้งธนาคารที่ใช้สกุลเงินของเรา คือ “เงินหยวน” VS. “เงินบาท” ในการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หากเป็นจริงเมื่อไร? ไทย จะเป็นศก.การแลกเปลี่ยนเงินหยวน แข่งกับ สิงคโปร์ ทันที! & ะจะมีบทบาทอย่างยิ่ง ต่อการค้าของจีน ในแหลม.. อินโดจีน
โลกวันนี้! การสร้าง มิตร&ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็น เรื่อง.. สำคัญที่สุด!
จึงเห็นว่าการที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขยัน เดืนทาง ไปเยือน ตปท. มา ถูกท่า_ถูกทาง แล้ว , แทนการเสียเวลา เล่น การเมือง_น้ำเน่า ตอบโต้กันไปมาอย่างไร้ค่า เป็นนโยบาย ที่ถูกต้องแล้ว --- # # #