ล่อนจ้อนที่ออนเซ็น (18+)

ล่อนจ้อนที่ออนเซ็น (18+)
#นายอุ๊ย!!

เมื่อหลายปีที่แล้วผมกับครอบครัวได้มีโอกาสเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกัน

มีอยู่คืนหนึ่งเราไปพักที่ resort ในเมืองทาคายาม่า ที่พักที่นี่ถือว่าหรูหราที่สุดตั้งแต่เหยียบประเทศญี่ปุ่นมา เนื่องจากวันแรก ๆ พวกเรานอนโรงแรมในเมือง ห้องก็จะเล็ก ๆ แคบ ๆ แค่พอให้นอนแล้วพลิกตะแคงตัวได้ ห้องน้ำก็จะเล็ก ๆ เวลาสระผมมือไม้ก็จะไปกระแทกนั่นกระแทกนี่ แต่ละห้องมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างน้อยตามสไตล์โรงแรมในเมืองใหญ่

แต่พอพวกเราได้มาเจอที่พักในเมืองทาคายาม่าแห่งนี้ พวกเราก็ถึงกับอุทานเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า สุกี้ เอ้ย สุโก้ย

บรรยากาศที่พักที่นี่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีดอกซากุระบานสะพรั่ง มองลงไปเห็นหมู่บ้านที่แสนเงียบสงบ มีชุดยูคาตะให้ใส่ ห้องพักก็กว้างขวาง ม้วนหน้าได้สองรอบครึ่ง ที่นอนก็ต้องปูนอนกับพื้นแบบชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่น ๆ จริง ๆ

ช่วงเย็นพวกเรารับประทานเนื้อย่าง ปลาดิบและสาเกญี่ปุ่น กันอย่างอิ่มหนำ กินกันแบบไม่ยั้ง กินกันแบบไม่อายฟ้าอายดิน หลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรมไคลแมกซ์ของวัน นั่นคือ

การแช่น้ำร้อนที่ “ออนเซ็น”

ออนเซ็นนี่ไม่ได้เป็นชื่อนายกรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านนะครับ แต่มันเป็นชื่อเรียกการแช่น้ำร้อนของประเทศญี่ปุ่น โดยความพิเศษของมันอยู่ที่ทุกคนต้องอาบน้ำร่วมกันในสภาพเปลือยเปล่า แบบห้ามมีเครื่องแต่งกายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นถุงน่องหรือเนคไท ก็ห้ามใส่เด็ดขาด

ครั้งแรกที่ผมได้ยินคำว่า “ห้องอาบน้ำรวม” ผมตื่นเต้นดีใจมาก ภาพผมกำลังแช่น้ำร้อนกับสาวญี่ปุ่นขาว ๆ หมวย ๆ ผุดขึ้นมาในหัว จิบสาเกกันไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันไป นึกแล้วก็อยากจะพุ่งหลาวชายลงไปในบ่อน้ำร้อนนั้นแทบจะในทันที

แต่ที่ไหนได้ ถึงจะได้ชื่อว่าห้องอาบน้ำรวม แต่มันก็แบ่งแยกชายหญิง คือผู้ชายก็อาบน้ำรวมกับผู้ชาย ผู้หญิงก็อาบน้ำรวมกับผู้หญิง ไม่ได้มาอาบน้ำรวมกันแบบที่ผมทะลึ่งคิดแต่อย่างใด

แหม เสียดายจัง อดพุ่งหลาวชายเลย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย แค่ผู้หญิงมองหน้ายังไม่กล้าสบตาเลย นับประสาอะไรจะให้ไปแก้ผ้าล่อนจ้อนอย่างนั้น

ตั้งแต่เล็กจนใหญ่ (ตัว) ก็ยังไม่เคยเปลือยเปล่าให้ใครได้เห็นของรักของหวงมาก่อน จะให้มาเดินโทงเทงท่ามกลางชายแปลกหน้าก็รู้สึกทะยิ้ม ๆ เหมือนกัน

แต่ก็เอาวะ อุตส่าห์บินมาถึงนี่แล้ว หลับหูหลับตาออนเซ็นซะหน่อยก็แล้วกัน


ห้องอาบน้ำรวมที่นี่มีอยู่สองห้องสองสไตล์

ห้องแรกอยู่บนตัวตึก เน้นการตกแต่งแบบทันสมัย ผนังทำจากกระจกใส สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ ส่วนอีกห้องอยู่ด้านล่าง เป็นบ่อน้ำร้อนที่ทำจากหิน ตั้งอยู่กลางสวนหย่อม บรรยากาศแบบ open air สามารถชมซากุระและทัศนียภาพรอบ ๆ ได้อย่างเพลิดเพลินใจ

เพื่อไม่ให้ลำเอียง ทางโรงแรมจะกำหนดเวลาว่าเพศไหนจะใช้ห้องน้ำได้ช่วงไหน เช่น ผู้หญิงใช้ห้องด้านล่างได้ถึงสองทุ่มหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปห้องข้างบน ส่วนผู้ชายก็สลับกันพอสองทุ่มก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ห้องข้างล่างแทน เพื่อให้ทุกคนได้โอกาสดื่มด่ำกับบรรยากาศออนเซ็นทั้งสองสไตล์อย่างเท่าเทียมกัน

เนื่องจากตอนที่พนักงานโรงแรมอธิบายตารางการใช้ห้องน้ำ ผมไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไร มัวแต่จินตนาการถึงห้องอาบน้ำรวม ดังนั้น ก็เลยไม่รู้ว่าผู้ชายใช้ห้องน้ำไหนเวลาไหน

ผมเดินขึ้นไปยังห้องออนเซ็นชั้นบนเพื่อเปิดประสบการณ์ออนเซ็นครั้งแรกของผม โดยที่ผมหารู้ไม่ว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาออนเซ็นสำหรับผู้หญิง

ผมค่อย ๆ ถอดเสื้อและโยนมันเข้าไปในตู้ล็อกเกอร์  เผยให้เห็นกล้ามอกที่ขาวผ่อง ขณะที่กำลังจะถอดกางเกง เผยให้เห็นถึง

พอ!! นี่เมิงจะเผยมากไปแล้วนะ!!

ขณะที่ผมกำลังจะถอดกางเกง ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวดังมาจากในห้องน้ำ

เซี่ย เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ รูดซิบติดกระดุมกันแทบไม่ทันเลย

ลองคิดดูว่าถ้าสาว ๆ เหล่านั้นเกิดออนเซ็นกันอย่างเคร่งเครียด ไม่ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมา เหตุการณ์วันนั้นจะดำเนินต่อไปอย่างไร

ทั้งอุ๊ยน้อย อุ๊ยใหญ่

สาวยุ่นคงจะร้องว่า “สุโก้ย” กันเกรียวกราวน่าดู


หลังจากที่เกือบจะประกาศศักดาชายไทยให้สาวญี่ปุ่นได้รับรู้ ผมก็รีบใส่เสื้อผ้า แล้วลงมายังห้องออนเซ็นด้านล่าง ก่อนเข้าห้องผมก็ไม่ลืมที่จะเงี่ยหูฟังว่าข้างในมีเสียงหัวเราะคิกคักดังออกมารึเปล่า

เมื่อมั่นใจแล้วก็เดินเข้าไป โซนแรกของห้องนี้เป็นโซนของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มีตู้ล็อกเกอร์ให้เก็บของ แล้วก็มีผ้าขนหนูเล็ก ๆ ขนาดประมาณผ้าเช็ดหน้าคอยให้บริการ

พอถึงเวลาที่จะต้องถอดเสื้อผ้าเปลือยเปล่าจริง ๆ มันก็รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก คือไอ้เราก็ไม่เคยนุ่งลมห่มฟ้า เดินโทงเทง ๆ ให้ใครเห็นมาก่อน อุตส่าห์ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม วันนี้จะต้องเปิดเผยมันออกสู่สายตาสาธารณชนแล้วหรือนี่

ผมยืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ที่หน้าตู้ล็อกเกอร์อยู่ซักพัก เหลือบมองผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ในมือ

เฮ้อ จะหวังพึ่งพาผ้าผืนน้อยนี้มาปิดบังอะไรก็คงไม่ได้

โบราณว่าช้างทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดไม่มิด แล้วนับประสาอะไรกะอิแค่ผ้าผืนเล็ก ๆ ผืนเดียว มันจะไปปิดบังสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินตัวมันขนาดนั้นได้อย่างไร

ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกไม่มั่นใจเลย แอบกลัวเหมือนกันว่าชาวต่างชาติเขาจะดูแคลนว่าเราคนไทยกระจิริดรึเปล่า

ไม่ได้นะ เราจะเป็นคนไทยที่ทำให้ประเทศชาติต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้นะ

ตอนนั้นผมเลยแอบไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่ประตู เห็นผู้ชายญี่ปุ่นสองสามคนกำลังอาบน้ำกันอยู่ พอเห็นเท่านั้นแหละครับ ความมั่นใจกลับมาเป็นเท่าทวีคูณ

พูดได้คำเดียวว่า “ชายไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” จริง ๆ

ผมถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่างกายอย่างฮึกเหิม ยัดเข้าไปในตู้ล็อกเกอร์ หยิบผ้าขนหนูผืนนั้นมาวางไว้บนหัว

อุ๊ยยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยแล้วเดินเข้าไปในห้องออนเซ็น พร้อมที่ประกาศศักดาความเป็นไทยอย่างเต็มภาคภูมิ

ตอนนั้นกรุอยากจะเปิดเพลง “บางระจัน” ไปด้วย เอาให้มันกึกก้องไปทั่วเมืองทาคายาม่าเลย

ผมเดินไปที่โซนฝักบัวเพื่ออาบน้ำก่อนลงแช่น้ำร้อน ชายชาวญี่ปุ่นสองสามคนนั้นเหลือบมามองที่ผม ดูพวกเขาจะทึ่งและตื่นตะลึงเล็กน้อยจนต้องอุทานเป็นภาษาญี่ปุ่นเบา ๆ ในลำคอ

เดาว่าน่าจะเป็นคำว่า สุโก้ย นะ


ก่อนที่จะลงแช่ในบ่อน้ำร้อน เราจะต้องมาอาบน้ำที่โซนนี้ก่อน ซึ่งก็จะมีฝักบัว ยาสระผม และครีมอาบน้ำต่าง ๆ ให้พร้อมสรรพ

แต่ตอนนั้นอากาศหนาวเย็น ผมก็ไม่ค่อยมีกะใจจะอาบน้ำสระผมซักเท่าไร อยากจะแช่น้ำร้อนให้สบายตัวมากกว่า ก็เลยอาบน้ำฝักบัวแบบขอไปที เอาให้แค่คนอื่นไม่รังเกียจว่าเมิงไม่ยอมอาบน้ำก็พอ

หลังจากเสแสร้งอาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินไปที่บ่อน้ำร้อน

เอาล่ะ ผมกำลังจะออนเซ็นแล้วนะ

ผมค่อย ๆ เอาปลายตีนจุ่มน้ำร้อนเพื่อสัมผัสการออนเซ็นครั้งแรกในชีวิต

เซี่ย!!

แน่ง ร้อนมากกก ชักเท้าขึ้นมาแทบไม่ทัน

คือน้ำร้อนของเขาเนี่ยมันร้อนจริง ๆ นะครับ ไม่ใช่เหมือนเวลาอาบน้ำอุ่นในห้องน้ำบ้านเรา มันร้อนจนไม่สามารถแช่อยู่ในนั้นนาน ๆ ได้ เพราะอาจจะทำให้หน้ามืดได้เหมือนกัน

ผมค่อย ๆ หย่อนอวัยวะแต่ละส่วนของผมลงไปอย่างทุลักทุเล พยายามหย่อนทีละนิดทีละหน่อยเพื่อให้ร่างกายได้คุ้นชินกับอุณหภูมิที่สูงขนาดนั้น
ในที่สุดผมก็หย่อนเท้าของผมลงไปได้สำเร็จ

เหลือบไปดูอีกฝั่งของบ่อน้ำร้อน น้องชายคนเล็กของผมกระโดดน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน ทำเหมือนเล่นน้ำอยู่ริมคลองแสนแสบ

นี่เมิงไม่ร้อนเลยเรอะ!!

ผมใช้เวลาอยู่นานหลายนาทีกว่าจะจุ่มทั้งร่างกายของผมลงไปในน้ำได้สำเร็จ

นี่คนญี่ปุ่นมีความสุขกับกิจกรรมนี้จริง ๆ เหรอเนี่ย

มันทำงานกันหนักเกินไปปะวะ

ผมไม่รู้ว่าคนอื่นมีความสุขกับออนเซ็นรึเปล่านะ แต่สำหรับผมคือไม่แม้แต่นิดเดียว น้ำมันร้อนมาก ทำไมคนเราต้องเอาตัวไปแช่ในน้ำที่ร้อนขนาดนั้นด้วยเนี่ย

ผมเหลือบไปมองเพื่อนร่วมบ่อ ดูพวกเขาจะแช่น้ำกันอย่างผ่อนคลาย สีหน้าดูมีความสุขกันอย่างล้นเหลือ ยิ่งคุณลุงหัวล้านคนนั้น หน้านี่ฟินาเล่เชียว ผิดกับผมที่นั่งตัวแข็งเกร็งประหนึ่งลุ้นหวยสิ้นเดือน

ไม่ไหวครับ น้ำมันร้อนเกินไปสำหรับผมจริง ๆ  

นั่งอดทนอยู่ซักพัก ก็ขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนนั่น

โอ นี่หรือความสุขของมนุษย์

แต่จะว่าไปพอขึ้นจากน้ำร้อนจัด มาเจออากาศเย็น ๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ดีเหมือนกันนะ ดูทุกอย่างจะผ่อนคลายไปหมด สบายตัวดี ผมเช็ดเนื้อเช็ดตัว สวมเสื้อผ้า แล้วเดินออกจากห้องออนเซ็นด้วยความสบายใจ

ประสบการณ์ “ล่อนจ้อนที่ออนเซ็น” ครั้งนั้น ผมจะไม่มีวันลืมเลย

Credit: นายอุ๊ย!!

*** ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ได้ที่เพจ นายอุ๊ย!! นะครับ --> https://www.facebook.com/lovenaioui ***

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่