สิ่งสำคัญคือกำลังใจจากครอบครัว แล้วถ้าครอบครัวบั่นทอนกำลังใจละ

ในขณะที่เราตอนเรียน อยากได้อะไร ทำงาน สอนพิเศษ ทำงาน parttime เอาเงินมาใช้ กลัวพ่อแม่ลำบาก
อยากได้อะไรก็ไม่กล้าขอ ขนาดรถชน เข้าเฝือกก็ไม่ได้บอก กลัวกังวล เราเอาเงินเก็บเรามาจ่ายค่าหมอ
จนตอนนั้นจำได้ขึ้นใจ เกรดส่งไปที่บ้านได้ F มาตัวนึง โดนด่าสะบ้านแทบแตก บอกว่าเรียนต้องห้ามเกรดต่ำกว่า C
ยิ่งพอรู้ว่าเรารับสอนพิเศษ ทำงานนอก ยิ่งว่าใหญ่โต หาว่าไม่สนใจเรียน ตอนนั้นเสียใจมาก เพราะคิดแค่ว่าอยากหาเงิน
มาจ่ายค่าใช้จ่ายนอกเหนือรายการ ที่เคยเบิกปกติ

โอเคจบไป จนเราทำงาน ก็ไม่มีอะไร เราไม่ได้ส่งให้ที่บ้าน แต่เน้นให้นานๆทีเป็นเงินก้อน เพราะกลัวให้รายเดือนเงินมันจะหาย
ก็เก็บเงินเป็นก้อนไว้ให้ และซื้อพวกของใช้เข้าบ้าน เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เงินโบนัสกลางปีออก ก็ให้พ่อแม่ไปก้อนนึง เพราะจะไปเที่ยว
ญี่ปุ่นกัน เราก็ให้เงินก้อนไปเที่ยว ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มาเซอร์ไพร์ตอนกลับมาแล้วว่า น้องชายเราไปด้วย แต่ไม่ได้บอกเรา
สรุปไปเที่ยวกัน 3 คน ตอนรู้ น้ำตาร่วงกลางออฟฟิต ว่าทำไมเป็นแบบนี้ โดยให้เหตุผลว่า เราทำงานคงไม่ว่างไป
คงหยุดงานหลายวันไม่ได้เลยไม่ได้ชวน เราได้แต่อึ้ง ทำอะไรไม่ถูก

หลังจากที่เราเงินเดือนขึ้น ก็รีบบอกพ่อแม่ให้เค้าดีใจ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ อยากจะขยับหอพักที่เรียนให้น้องให้ห้องใหญ่และดีกว่านี้
พ่วงมาด้วยค่าไอโฟนของน้องที่ทำหายเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะยังผ่อนไม่เสร็จ แต่พอหายแล้วจะทำไงได้นอกจาก "ซื้อใหม่"


จนเมื่อวานเรากลับบ้าน และได้คุยกับพ่อแม่ และได้ทะเลาะกันนิดหน่อยเรื่องของน้อง ว่าจะเลี้ยงกันแบบนี้ไม่ได้ โตไปพ่อแม่พี่ไม่อยู่
จะดูแลตัวเองยังไง บ้านเราไม่ได้เกิดมาร่ำรวย สิ่งที่ตอบกลับมาคือ น้องเรียนหนัก เราเป็นพี่ก็ต้องดูแลน้อง
เราได้แต่พูดอะไรไม่ออก และบอกว่าน้องเรา ผู้ชายนะ 20 แล้วมันต้องดูแลตัวเองได้แล้ว จะต้องให้บอกอีกหรอว่า
อย่ากินเหล้านะ อย่ากลับบ้านดึก(ยอมรับว่าน้องเราเรียนเก่ง แต่ก็เที่ยวหนักมากกินหลักร้อย shopping หลักพัน)
ใช้เงินประหยัดๆ ดูแลตัวเองดีๆ คือเรื่องพวกนี้มันไม่ต้องสอนแล้ว มันต้องคิดเองได้แล้ว สุดท้ายก็เลยโดนด่ากลับมาว่า

"อิจฉาน้องละสิ เรียนไม่ได้แบบน้องละสิ เด๋วน้องเรียนจบมาก็ต้องเงินเดือนหลายหมื่น"

นี่คือคำตอบที่เราได้ คือสิ่งที่เรารู้สึกว่าบั่นทอนกำลังใจ เหมือนเราหวังดีนะกลัวน้องจะเสียคน ถ้าวันนึงไปทำผู้หญิงท้องทำไง
แต่เหมือนกลายเป็นว่า ไม่ต้องดูแลแล้ว น้องอะเด๋วพ่อแม่ดูเอง ในเมื่อฝากเราไม่ได้ ฝากเราเด๋วก็ทะเลาะกันอีก
เราเลยไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง ปล่อยไปตามยถากรรมดี หรือยังไงดี บอกตรงๆตอนนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ได้แต่ทำงานเก็บเงิน
ตั้งใจมีเงินก้อนไว้ให้ เผื่อวันไหน ที่เค้าฉุกเฉิน แต่คงไม่ให้รายเดือน เพราะให้พ่อแม่ เงินก็ไหลออกกลายเป็นของน้อง

แต่ในใจลึกๆ เราอยากให้น้องเราโตสักที อยากให้มีความคิด เราเชื่อว่าคนเรามีหลายบทบาท เป็นนักเรียน เป็นคนทำงาน
เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นพี่น้อง มันควรจะต้องทำทุกหน้าที่ให้ดีสิ ไม่ใช่แค่ดีแค่หน้าที่ใดหน้าที่หนึ่ง แล้วที่เหลือก็ทิ้งมันไป
แล้วยิ่งพ่อแม่เราเชื่อเรื่องดวง ว่าเราดวงมีเพื่อนไม่ดี เรามีเพื่อนทีก็จะด่าตลอด ว่าห้ามคบเพื่อน แล้วยิ่งหมอดูดูว่า
มีลูกชายจะดีกว่าลูกสาว เพราะแบบนี้หรือเปล่า ที่ทำให้โอ๋กันขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมว่าดูดวงมาแล้วแฟนเราจะดีต้องเป็นคนเกิดปีนี้ วันนี้
ใครดีก็จะมาแนะนำ เราเลยบอก ไม่เอาแล้ว ไม่แต่งมันละชาตินี้ ทำงานคนเดียว อยู่คนเดียว กินคนเดียวแบบนี้แหละดีแล้ว

เราคงมาบ่นปนๆปรึกษา ว่าเราควรวางตัวยังไงดี ควรทำตัวยังไง อยากเอาเงินให้พ่อแม่ ให้สบาย แต่ก็ไม่อยากให้เอาไปให้น้องใช้จ่าย
แบบไม่รู้คุณค่าของเงิน หรือควรจะเฉยๆดี จะยังไงดี เราอยากกลับบ้าน แล้วแฮปปี้มีความสุข
พอเป็นแบบนี้บอกตรงๆไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่อยากทะเลาะ อยากทำแต่งาน
ตกเยนกลับคอนโดนอน ใช้ชีวิตไปแบบนี้ หรือมันควรจะเป็นยังไงดีคะ

ขอบคุณค่ะ ที่ฟังจนจบ เรื่องมันเท้าความยาวมากเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่