เคยทำงานอยู่ บริษัทแห่งหนึ่งค่ะ เกี่ยวกับที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งบริษัทมีพนักงานอยู่ 2 คน
คือตัวเจ้าของ และตัวของหนูเอง และตัวเจ้าของได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบอยู่แล้วให้ข้าราชการ
หนูเดือดร้อน พี่เค้าเลยปล่อยให้หนู การกู้ครั้งที่ 1 จบไป โดยไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากทำงานกับเค้า
หลังจากเค้าโอนเงินเดือนให้ หนูก้อจะกดจากบัญชีให้เค้าทันที พอถึงการกู้ครั้งที่ 2 ในจำนวนเงิน 50,000 บาท
2 เดือนแรกหนูก้อผ่อนชำระปกติ เดือนละ 5,000 บาท หลังจากนั้นมีปัญหากันเนื่องจากเค้าไม่จ่ายโบนัสรายปี
ตามที่ตกลงกันไว้ และได้มีการเลื่อนมาถึง 2 ครั้งแล้ว หนูจึงตัดสินใจลาออกทันที และหยุดการทำงานตอนสิ้นเดือน
เค้าจึงจ่ายเงินเดือนให้หนูเพียง 2000 บาท หักไป 10,000 บาท รวมๆแล้วหนูจ่ายไป 20,000 บาท
แต่หลังจากนั้น หนูไม่ได้ชำระต่อ จึงยอมรับว่าผิดจริง และเค้าไม่เคยโทมาทวงถามเลย แม้แต่ครั้งเดียว
ประสบกับหนูยังหางานทำไม่ได้ จากนั้นมีหมายศาลมาปิดที่บ้าน ตจว. ซึ่งไม่มีคนอยู่ คนแถวบ้านจึงหาทางติดต่อมาบอก
และหมายศาลอีกฉบับที่บ้านเพื่อนที่ค้ำประกันค่ะ ในจำนวน 50,000 ไม่รวมดอกเบี้ย เค้าลงในสัญญาว่าคิดดอกเบี้ย 15 ต่อปี
แต่ในความเป็นจริงคือ 3 ต่อเดือนค่ะ หนูไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินให้เค้า ตอนยืมก้อไม่ทันได้คิดค่ะ เนื่องจากอายุ 20 ปี
ปัจจุบัน 21 ปี ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าหอพักและค่าลงทะเบียนเรียน ไม่รู้ว่าจะทำกันขนาดนี้
1.หนูอยากทราบว่าหนูจะทำยังไงให้ศาลรู้ว่าจำนวนที่เค้าฟ้องมันเกินจริงได้ค่ะ หนูไม่มีหลักฐานเลย นอกจากสมุดบัญชี
2.หนูสามารถย้ายเรื่องจากศาล ตจว. มาใน กทม.ได้มั้ยค่ะ เนื่องจากทุกวันนี้ทำงานและไม่มีเงินมากพอที่จะไป
3.ถ้าหนูไม่ไปได้มั้ยค่ะ
4.หนูต้องหาทนายถูกมั้ยค่ะ แล้วค่าทนายจะแพงมั้ย
5.หนูไม่มีทรัพย์สินอะไรให้เค้ายึดเลย มีแต่ผู้ค้ำประกัน มีรถไม่ปลอดภาระ ยังส่งอยู่
หนูเงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาท ผู้ค้ำประกันเป็นข้าราชการ เค้าจะสามารถยึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน
ของหนูหรือของผู้ค้ำประกันได้มั้ยค่ะ (ถ้าได้คงแย่) ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ เดือดร้อนจริง
นัดขึ้นศาลจังหวัดเลย 6 พ.ย. นี้ค่ะ แต่ยังไม่รู้จะทำยังไงเลย
ถ้าถูกฟ้องในฐานะลูกหนี้ แต่เจ้าหนี้ฟ้องยอดเกินจำนวนจริงที่เหลือ จะทำยังไงดี?
คือตัวเจ้าของ และตัวของหนูเอง และตัวเจ้าของได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบอยู่แล้วให้ข้าราชการ
หนูเดือดร้อน พี่เค้าเลยปล่อยให้หนู การกู้ครั้งที่ 1 จบไป โดยไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากทำงานกับเค้า
หลังจากเค้าโอนเงินเดือนให้ หนูก้อจะกดจากบัญชีให้เค้าทันที พอถึงการกู้ครั้งที่ 2 ในจำนวนเงิน 50,000 บาท
2 เดือนแรกหนูก้อผ่อนชำระปกติ เดือนละ 5,000 บาท หลังจากนั้นมีปัญหากันเนื่องจากเค้าไม่จ่ายโบนัสรายปี
ตามที่ตกลงกันไว้ และได้มีการเลื่อนมาถึง 2 ครั้งแล้ว หนูจึงตัดสินใจลาออกทันที และหยุดการทำงานตอนสิ้นเดือน
เค้าจึงจ่ายเงินเดือนให้หนูเพียง 2000 บาท หักไป 10,000 บาท รวมๆแล้วหนูจ่ายไป 20,000 บาท
แต่หลังจากนั้น หนูไม่ได้ชำระต่อ จึงยอมรับว่าผิดจริง และเค้าไม่เคยโทมาทวงถามเลย แม้แต่ครั้งเดียว
ประสบกับหนูยังหางานทำไม่ได้ จากนั้นมีหมายศาลมาปิดที่บ้าน ตจว. ซึ่งไม่มีคนอยู่ คนแถวบ้านจึงหาทางติดต่อมาบอก
และหมายศาลอีกฉบับที่บ้านเพื่อนที่ค้ำประกันค่ะ ในจำนวน 50,000 ไม่รวมดอกเบี้ย เค้าลงในสัญญาว่าคิดดอกเบี้ย 15 ต่อปี
แต่ในความเป็นจริงคือ 3 ต่อเดือนค่ะ หนูไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินให้เค้า ตอนยืมก้อไม่ทันได้คิดค่ะ เนื่องจากอายุ 20 ปี
ปัจจุบัน 21 ปี ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าหอพักและค่าลงทะเบียนเรียน ไม่รู้ว่าจะทำกันขนาดนี้
1.หนูอยากทราบว่าหนูจะทำยังไงให้ศาลรู้ว่าจำนวนที่เค้าฟ้องมันเกินจริงได้ค่ะ หนูไม่มีหลักฐานเลย นอกจากสมุดบัญชี
2.หนูสามารถย้ายเรื่องจากศาล ตจว. มาใน กทม.ได้มั้ยค่ะ เนื่องจากทุกวันนี้ทำงานและไม่มีเงินมากพอที่จะไป
3.ถ้าหนูไม่ไปได้มั้ยค่ะ
4.หนูต้องหาทนายถูกมั้ยค่ะ แล้วค่าทนายจะแพงมั้ย
5.หนูไม่มีทรัพย์สินอะไรให้เค้ายึดเลย มีแต่ผู้ค้ำประกัน มีรถไม่ปลอดภาระ ยังส่งอยู่
หนูเงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาท ผู้ค้ำประกันเป็นข้าราชการ เค้าจะสามารถยึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน
ของหนูหรือของผู้ค้ำประกันได้มั้ยค่ะ (ถ้าได้คงแย่) ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ เดือดร้อนจริง
นัดขึ้นศาลจังหวัดเลย 6 พ.ย. นี้ค่ะ แต่ยังไม่รู้จะทำยังไงเลย