กรณีหญิง 56 ปีถูกปฏิเสธทำคลอดยังไม่จบ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์ถามอีก ทำไมหมอถึงกลับคำ ไปรับแม่ท้องแก่กลับมารักษาที่ รพ.ต้นสังกัด?
(15 ต.ค.) จากกรณีหญิงวัย 56 ปี เจ็บท้องคลอดลูก เมื่อไปใช้สิทธิประสังคมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ได้รับแจ้งว่าสิทธิไม่ครอบคลุมและต้องใช้ค่าใช้จ่าย 18,000 บาท สำหรับการทำคลอด หญิงคนดังกล่าวจึงได้ตัดสินใจกลับบ้าน ก่อนจะคลอดลูกเองที่บ้านและลูกน้อยเสียชีวิต จนกลายเป็นกรณีวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ล่าสุด "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ดาราจิตใจอาสาได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้ง หลังถูกสังคมวิจารณ์ หญิงท้องแก่ระบุว่าไม่เคยพบ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาก่อน ขณะที่ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นแพทย์ทำคลอดก็ได้อธิบายให้สังคมเข้าใจอย่างชัดเจน
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์ข้อความและทิ้งคำถามเอาไว้ว่า "สวัสดีครับเพื่อนๆ...ผมขอชี้แจงกับสิ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวผู้สูญเสียในความเป็นจริงที่สุด ผมเป็นคนจริงและมีความเป็นคนครับ สิ่งที่ผมนำเสนอข้อมูลผมมีความรับผิดชอบอยู่แล้วครับ
ตอนนี้ผมอยู่กับญาติของผู้เสียหายและมีคนหนึ่งซี่งอยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น เขายังงงว่าวันนั้นในเมื่อรู้ว่าคนป่วยใกล้คลอดแล้วทำไมไล่เขาไป รพ. อื่น แล้วยังบอกว่าให้รีบไป อย่าแวะที่ไหนเพราะเด็กจะใกล้คลอดแล้ว รถแท๊กซี่ก็ยังงงว่าทำไมไม่ทำคลอดที่นี่ คนไข้บอกต้องใช้เงิน 18,000 บาท พยาบาลท่านนั้นรีบให้คนไข้ขึ้นรถแท๊กซี่โดยไม่ให้เอกสารอะไรเลยบอกแต่เพียงไป รพ. รัฐค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าหมื่นเศษๆ จนคนไข้ขอกลับบ้านเพราะไม่มีเงิน
คุณบุญสืบที่พาคนไข้ไปคลอดก็เลยไปส่งคนไข้ที่บ้าน เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงคุณบุญสืบได้กลับไปหาคนไข้ ปรากฎว่าคนไข้ได้คลอดลูกแล้ว คนไข้บอกว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว คุณบุญสืบก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าเพื่อมารับคนไข้เพราะตอนนั้นคนไข้อาการไม่ดีเสียเลือดมาก ทางเจ้าหน้าที่ก็นำส่ง รพ. หลายแหล่งแต่ปฏิเสธในการรับคนไข้ เพราะเป็นคดีความ เลยแนะนำไปส่งที่ รพ.รามาฯ ซึ่งก็ได้รับตัวคนไข้เอาไว้ และได้ซักประวัติจึงรู้ว่ามีประกันสังคมอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่ง จึงบอกกับญาติให้รักษาตัวที่ต้นสังกัดดีกว่าเพราะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทางคนไข้ไม่อยากไปที่นั้น เพราะได้รับการปฏิเสธมาตั้งแต่แรก
ทาง รพ.รามาฯ จึงโทรแจ้ง รพ.ต้นสังกัดมารับตัวคนไข้ไปรักษาตัวต่อที่ รพ. แต่ครั้งแรกปฏิเสธ คนไข้ยังบอกอีกว่าเมื่อเช้ากับตอนเย็นพูดคนละอย่างเลย (หลังจากที่มีข่าวได้ออกไป) บอกจะจ่ายให้ทุกอย่างและนำข้อมูลในการให้คำของคนไข้ออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง..มาถึงตรงนี้แล้วผมถามหน่อยนะครับว่า ทำไมรู้ว่าคนไข้จะคลอดแล้วจะให้เขาไปที่อื่นทำไม? แล้วตอนนี้ไปรับตัวคนไข้มารักษาที่ รพ.ต้นสังกัด ในเมื่อตอนแรกปฏิเสธในการทำคลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน?
อย่าบังคับให้เขาพูดแล้วพวกคุณจะพ้นความผิดหรือ การที่เอาคนไข้มารักษาตัวที่ รพ.ต้นสังกัดแค่นี้ญาติก็งงหมดแล้วครับ ผมไม่โกรธนะครับใครจะว่าอะไรผม เชิญตามสบาย ความจริงก็คือความจริง ผมก็ยังจะนำเสนอสิ่งที่อยากให้สังคมรับรู้จะได้ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ผมไม่มีอคติกับใคร แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมนำเสนอน่าจะเป็นอุทาหรณ์รายต่อไปครับ ถ้าสนใจหรือสอบถามกับญาติคนไข้เลยครับ คุณบุญสืบ พูดจริงทุกประเด็น ไม่มีแอบแฝง"
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากภาพและข้อความที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางไปหาญาติคนไข้ หญิงวัย 56 ปี ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ต่างมีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งให้กำลังใจดาราจิตใจอาสาและครอบครัวหญิงวัย 56 ปี เป็นจำนวนมาก
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ถามกลับ? ทำไมหมอทำคลอดกลับคำ
กรณีหญิง 56 ปีถูกปฏิเสธทำคลอดยังไม่จบ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์ถามอีก ทำไมหมอถึงกลับคำ ไปรับแม่ท้องแก่กลับมารักษาที่ รพ.ต้นสังกัด?
(15 ต.ค.) จากกรณีหญิงวัย 56 ปี เจ็บท้องคลอดลูก เมื่อไปใช้สิทธิประสังคมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ได้รับแจ้งว่าสิทธิไม่ครอบคลุมและต้องใช้ค่าใช้จ่าย 18,000 บาท สำหรับการทำคลอด หญิงคนดังกล่าวจึงได้ตัดสินใจกลับบ้าน ก่อนจะคลอดลูกเองที่บ้านและลูกน้อยเสียชีวิต จนกลายเป็นกรณีวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ล่าสุด "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ดาราจิตใจอาสาได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้ง หลังถูกสังคมวิจารณ์ หญิงท้องแก่ระบุว่าไม่เคยพบ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาก่อน ขณะที่ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นแพทย์ทำคลอดก็ได้อธิบายให้สังคมเข้าใจอย่างชัดเจน
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์ข้อความและทิ้งคำถามเอาไว้ว่า "สวัสดีครับเพื่อนๆ...ผมขอชี้แจงกับสิ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวผู้สูญเสียในความเป็นจริงที่สุด ผมเป็นคนจริงและมีความเป็นคนครับ สิ่งที่ผมนำเสนอข้อมูลผมมีความรับผิดชอบอยู่แล้วครับ
ตอนนี้ผมอยู่กับญาติของผู้เสียหายและมีคนหนึ่งซี่งอยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น เขายังงงว่าวันนั้นในเมื่อรู้ว่าคนป่วยใกล้คลอดแล้วทำไมไล่เขาไป รพ. อื่น แล้วยังบอกว่าให้รีบไป อย่าแวะที่ไหนเพราะเด็กจะใกล้คลอดแล้ว รถแท๊กซี่ก็ยังงงว่าทำไมไม่ทำคลอดที่นี่ คนไข้บอกต้องใช้เงิน 18,000 บาท พยาบาลท่านนั้นรีบให้คนไข้ขึ้นรถแท๊กซี่โดยไม่ให้เอกสารอะไรเลยบอกแต่เพียงไป รพ. รัฐค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าหมื่นเศษๆ จนคนไข้ขอกลับบ้านเพราะไม่มีเงิน
คุณบุญสืบที่พาคนไข้ไปคลอดก็เลยไปส่งคนไข้ที่บ้าน เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงคุณบุญสืบได้กลับไปหาคนไข้ ปรากฎว่าคนไข้ได้คลอดลูกแล้ว คนไข้บอกว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว คุณบุญสืบก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าเพื่อมารับคนไข้เพราะตอนนั้นคนไข้อาการไม่ดีเสียเลือดมาก ทางเจ้าหน้าที่ก็นำส่ง รพ. หลายแหล่งแต่ปฏิเสธในการรับคนไข้ เพราะเป็นคดีความ เลยแนะนำไปส่งที่ รพ.รามาฯ ซึ่งก็ได้รับตัวคนไข้เอาไว้ และได้ซักประวัติจึงรู้ว่ามีประกันสังคมอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่ง จึงบอกกับญาติให้รักษาตัวที่ต้นสังกัดดีกว่าเพราะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทางคนไข้ไม่อยากไปที่นั้น เพราะได้รับการปฏิเสธมาตั้งแต่แรก
ทาง รพ.รามาฯ จึงโทรแจ้ง รพ.ต้นสังกัดมารับตัวคนไข้ไปรักษาตัวต่อที่ รพ. แต่ครั้งแรกปฏิเสธ คนไข้ยังบอกอีกว่าเมื่อเช้ากับตอนเย็นพูดคนละอย่างเลย (หลังจากที่มีข่าวได้ออกไป) บอกจะจ่ายให้ทุกอย่างและนำข้อมูลในการให้คำของคนไข้ออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง..มาถึงตรงนี้แล้วผมถามหน่อยนะครับว่า ทำไมรู้ว่าคนไข้จะคลอดแล้วจะให้เขาไปที่อื่นทำไม? แล้วตอนนี้ไปรับตัวคนไข้มารักษาที่ รพ.ต้นสังกัด ในเมื่อตอนแรกปฏิเสธในการทำคลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน?
อย่าบังคับให้เขาพูดแล้วพวกคุณจะพ้นความผิดหรือ การที่เอาคนไข้มารักษาตัวที่ รพ.ต้นสังกัดแค่นี้ญาติก็งงหมดแล้วครับ ผมไม่โกรธนะครับใครจะว่าอะไรผม เชิญตามสบาย ความจริงก็คือความจริง ผมก็ยังจะนำเสนอสิ่งที่อยากให้สังคมรับรู้จะได้ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ผมไม่มีอคติกับใคร แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมนำเสนอน่าจะเป็นอุทาหรณ์รายต่อไปครับ ถ้าสนใจหรือสอบถามกับญาติคนไข้เลยครับ คุณบุญสืบ พูดจริงทุกประเด็น ไม่มีแอบแฝง"
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากภาพและข้อความที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางไปหาญาติคนไข้ หญิงวัย 56 ปี ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ต่างมีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งให้กำลังใจดาราจิตใจอาสาและครอบครัวหญิงวัย 56 ปี เป็นจำนวนมาก
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook