สวัสดีครับบบ ทุกท่านน
วันนี้ผมถือโอกาสดีๆ หลังจากกระทู้ CR Review Darkside Nokia Lumia 920 ของผมปีที่แล้วอย่าง http://2g.ppantip.com/cafe/mbk/topic/T13044387/T13044387.html
บ่นไปเยอะทีเดียวเลย ผ่านมาราวๆ เกือบ 1 ปีได้ มาดูกันครับว่าพัฒนาการของ Microsoft ร่วมกับ Nokia เกิดเป็นมือถือตัวล่าสุด
ที่ฟังก์ชันพร้อมที่สุด ดีที่สุด (ก่อนงาน Nokia World 22 ตุลานี้) จะเป็นยังไงบ้างครับ



จุดแรกเริ่มของตัวเครื่อง ผมได้เครื่องสีเหลืองมาแหล่ะ จอตัวนี้เป็น Amoled Clear-Black
(ส่วนตัวผมชอบจอประเภทนี้ครับเพราะเก็บสีดำได้มิดสนิทดี) ผมลองเทียบกับเจ้า Note 2 สีมันไม่สดเท่านะครับ
แต่ในหน้า Setting ก็มีการปรับจอไม่ให้สดอยู่ดีล่ะ ยิ่งดีเลย เพราะบางคนไม่ชอบสีสดก็สามารถปรับลดค่าสีได้
โดยที่จอยังคงเก็บความดำได้มืดสนิทอยู่


รูปร่างดูพัฒนาขึ้นกว่า 920 และ PureView 808 อย่างแรงครับ
คือน้ำหนักเบา และบางกว่ารุ่นก่อนๆ มากกก วัสดุถึงเป็นพลาสติกแต่ถือแล้วรู้สึกดี
ถ้าเทียบกับค่ายตัวท้อปอื่นๆ ที่ยังใช้วัสดุเป็นพลาสติกอยู่
อีกทั้งลองสังเกตช่องว่างระหว่างขอบดำกับเหลือง ถ้าของ 920 จะมีร่องเล็กๆ (ผมเรียกมันว่าร่องดักจับฝุ่น)
แต่ 1020 ไม่มีนะครับ รอยต่อแทบจะกลืนกันเลย หมดปัญหาเรื่องฝุ่นตกลงไปตรงขอบจอ
ถ้าให้คะแนน วัสดุและการหยิบจับให้เต็มแบบไม่มีกั๊กครับ 555 ได้เวลาเปิดเครื่องแล้วว


อุปกรณ์ในกล่องมีเพียงคู่มือ ที่ชาร์จบวกกับสายชาร์จ ที่จิ้มซิม พร้อมหูฟังสีเหลืองแปร๊นนน!


ปุ่มด้านข้างขวาเครื่อง เพิ่ม-ลด เสียง, ล็อคหน้าจอ, และปุ่มกล้องถ่ายรูป
ส่วนด้านซ้ายไร้ปุ่มใดๆ ให้รำคาญใจ


ด้านล่าง มีที่เสียบ Micro-USB ที่ร้อยสายห้อยและลำโพง
คุณภาพเสียง เปิดเทียบกับ Galaxy Note 2 ความดังอยู่ในระดับเท่ากัน
ผมว่าลำโพงดังดีมาก ไม่มีปัญหาเวลาคุยผ่าน Speaker Phone แน่นอน
ส่วนด้านบนมีที่เสียบแจ็ค 3.5 mm และที่ใส่ไม่โครซิมเป็นถาดกระเด้งออกมา



มาดูกันที่กริปประกอบเครื่อง ผมได้มาเป็นสีขาว
ใส่แล้วถ่ายรูปถนัดแน่นอนครับ แต่โดนรวมก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ถ้าถ่ายในที่แสงธรรมดา
แต่ถ้าถ่ายภาพตอนกลางคืน แบบเน้นๆ พวก Speed Shutter จริงๆ ยอมรับว่าต้องใช้คู่กับขาตั้งครับ



เข้าสู่ หัวใจหลักของมือถือเครื่องนี้ ตอนนี้ส่วนตัวผมมองว่าสามารถให้นิยามว่ากล้องติดมือถือได้เลย เพราะหลายๆ ปัจจัยดังนี้ครับ

1. กล้องมีไฟล์ภาพที่ขนาดใหญ่มาก 34-38 MP ทำให้การ Process ภาพต่อจากนี้
เป็นไปด้วยความง่ายมากๆ เพราะปลายทางภาพนั้นเราอาจจะใช้แค่ 8-13 MP ด้วยซ้ำ

2. Sensor ของกล้องมีขนาดอยู่ที่ 1/1.5" ใหญ่กว่ากล้องคอมแพ็คที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดซะอีก ส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่ราวๆ 1/2.5"
หรือพวก Canon Power Shot ตระกูล G ยังมีขนาด Sensor อยู่ที่ 1/1.7" ซึ่งก็เล็กกว่าเจ้า Lumia 1020 นี้นิดหน่อย
แต่อย่าไปเทียบกับพวก APS-C หรือกล้องลูกผสมคอมแพคกับ DSLR อย่าง G1X นะครับ อันนั้นจะใหญ่กว่าอย่างแน่นอน


Cr. theverge-lumia-1020-sensor-size-comparison

3. สเปกกล้อง 41 Mpx (1/1.5") sensor w/ Carl Zeiss optics, f/2.2, autofocus,
Optical image stabilization; Xenon flash, LED video light; 1080p video capture @ 30fps
โดยรวมก็ดูดีสุดในหมู่มวลกล้องมือถือด้วยกันละ ขาดแต่เพียงถ่ายวิดีโอแบบ 4K น่าจะมีบ้างนะ 555

4. ตรงนี้หลายคนอาจจะไปเทียบกับ PureView 808 ตัวนั้นเจ๋งจริง Sensor ก็ใหญ่กว่าที่ 1/1.2" แต่แพ้ราบคาบ
ด้วย App ที่ปู่ซิมเบี้ยนไม่มีครับ อีกทั้งผมว่าถ้าเซ็นเซอร์ใหญ่ระดับ 808 จะทำให้ความหน้าของมือถือหนาเข้าไปอีก 1/1.5" น่าจะเพียงพอแล้ว

5. อุปกรณ์เสริมใช้งานได้จริง มีแบตเตอรี่สำรอง รวมทั้ง Application ถ่ายภาพนั้นรองรับสากกระเบือยันเรือรบ
แต่งรูปง่ายๆ จนไปถึง Advance ระดับโปรอย่าง Nokia Pro Cam, Effect สนุกๆ ที่ Nokia Smart Cam จุดนี้ คนทำกล้องจริงๆ อย่าง
Nikon CoolPix หรือ Canon Powershot, IXUS ยังมีหนาวนะครับ
เพราะ OS ที่อยู่ในกล้องของทั้งสองยี่ห้อหลักๆ ยังตามเทคโนโลยีพวกนี้ไม่ทันเท่าไหร่
(มองในแง่ของ Campact Camera นะ)

6. Noise มีบ้างประปรายสำหรับการถ่ายภาพที่มีแสงค่อนข้างน้อย สามารถดูได้จากภาพประกอบด้านล่างครับ
โดยรวมถ้าแสงกลางวันน่าประทับใจมากๆ ใช้งานเป็นกล้องหลักได้เลย แต่ถ้าไปถ่ายในที่แสงดรอปลง
หรือร้านอาหารที่มีแสงจากหลอดไฟฟูลออเรสเซ้นต์ รวมถึงแสงแฟลร์ต่างๆ สมดุลแสงขาวของภาพจะเริ่มเพี้ยนครับ

7.กล้องไม่เหมาะเลยที่จะถ่ายมาโครระยะใกล้กว่า 14 เซน เพราะมันโฟกัสไม่ติด
อีกทั้งวัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างเร็ว จับโฟกัสยาก และใช้เวลาเก็บภาพ 2-3 วิ บางช็อตที่เราต้องการอาจจะไปเรียบร้อย
บางแสงต้องอาศัยการถือกล้องที่นิ่งมากๆๆๆ พอสมควรครับ

มาดูภาพถ่ายกันครับ
ภาพแรกถ่ายในห้องกับบรรพบุรุษกันหน่อย แสงสว่างพอประมาณ ภาพชัดสวย ไม่มีปัญหา


ภาพที่ 2 เลือกความชัดได้ อันนี้ผมโฟกัสที่ต้นไม้ด้านหน้า ด้านหลังก็จะเบลอ ให้คะแนน 10/10 เหมือนกันครับ ไฟล์เนียนเด้งยังกะตูดเด็ก


ภาพที่ 3 แสงกลางวัน สวยงาม เก็บรายละเอียดแม่นยำ WB ไม่เพี้ยนนน


ภาพที่ 4 สปาเก็ตตี้เจ ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง WB เริ่มเพี้ยนแล้วครับ อันนี้โหมด Auto นะ ถ้ามีเวลาปรับน่าจะได้ไฟล์ดีกว่านี้


ภาพที่ 5-6 เริ่มพิสูจน์ความเทพของกล้องด้วยการถ่ายแสงประมาณ 6 โมงย่านอโศกวันฟ้าร้องครับ
จับโฟกัสได้เร็วดี น้อยซ์เริ่มมา แต่ยังคุมได้งามๆ



ภาพที่ 7 เดินมารอ BTS อันนี้รอจังหวะ BTS ออกพร้อมกับถ่าย Terminal 21 มุมสูงเก็บรายละเอียดได้ครบอยู่
อันนี้เหมือนวัดแสงพลาดจุดไปนิด ท้องฟ้าด้านบนเลยวูบขาวเลย = ='


ภาพที่ 8 มีเกรนด์เล็กๆ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ครับ ใช้งานได้สบายๆ


ภาพที่ 9 น้อยซ์เริ่มมากันหนักหน่วง แต่ทว่าก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจใน Sensor ขนาดประมาณนี้นะครับ


ภาพที่ 10 Flare ที่เกิดเองจากเลนส์กล้อง ผมไม่ได้ใส่เอฟเฟ็กต์เพิ่มเลยนะ ออกมาเป็นดอกไม้สะงั้น 555


ภาพที่ 11 อยากให้สังเกตไดนามิก เรนจ์ของภาพครับ ภาพนี้ย้อนแสงโบ้มๆ แต่ระดับของ Object
ยังสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี บางกล้องมือถือรายละเอียดน่าจะหายไปเลย


ภาพสุดท้าย นกที่บ้านผมเอง เป็นนายแบบประจำ มาโครใกล้มากสุดไม่ได้ครับ คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเลนส์
ได้คร่าวๆ มากสุด ไฟล์ชัดสุดก็น่าจะประมาณนี้ แสงธรรมดาครับ


นอกจากนั้นยังมีภาพสปีดชัตเตอร์สูงและช้า ตรงนี้ถ้าใครมีขาตั้งหนักๆ
ถ่ายได้แบบสบายๆ แต่ผมลองถ่ายแล้วมันค่อนข้างสั่นระรัว ขนาดตั้งเพียง 1 วิ ก็ยังสั่นครับ
ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขนาดนั้นด้วย


มาต่อกันอีกนิดสำหรับ App บนเครื่องหลังจากมีตัว Update ที่ชื่อว่า Amber Update
มีอะไรแปลกๆ มาเยอะเหมือนกันทั้ง การเคาะเรียกหน้าจอสองทีแบบ G2
(อันนี้โนเกียทำมานานตั้งแต่สมัย Nokia 6600 Slide ถ้าใครยังจำได้)
การปรับค่าจอไม่ให้สดเกินไป หรืออยากสดกว่านี้ก็ได้ รวมทั้งวิทยุ และนาฬิกาที่อยู่บนจอ lockscreen
รวมทั้ง Block เบอร์และ SMS ที่ไม่ต้องการรับได้แล้วด้วยครับ

Nokia Exclusive App ยังเทพทุกจุดทั้งกล้องและแผนที่
เมื่อวานผมต้องไปในสถานที่ๆ นึงที่ไม่เคยไปมาก่อน GPS ระบุพิกัดภายใน 5-7 วินาที แม่นมากกกก
ต่างกับ Note 2 ใช้เวลาหาค่อนข้างนาน แถมใช้ Offline Drive แบบเจ้า 1020 ไม่ได้ด้วยย

เกมส์เหมือนเมื่อ 11 เดือนที่แล้ว คือมีแต่เสียเงิน ความหลากหลายก็น้อย
เกมส์ฮิตๆ อย่าง Candy Crush ,Despicable Me: Minion Rush ก็ไม่มี และก็คงไม่มีต่อไปอีกนานครับ = ='




Social Network : ส่วนตัวล้วนๆ
- Twitter หลังจาก Update เป็น Version 3.0 ล่าสุด ทุกอย่างดีขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ พื้นหลังปรับเป็นขาวหรือดำได้ การ Feed อะไรต่างๆ เร็ว ฟังก์ชั่นการทวีตต่างๆ มีครบหมด
- Facebook by Microsoft Corperation เข้าขั้นห่วย โดยเฉพาะการโหลด Feed อะไรมาไม่รู้ ลองเปิดเทียบกะ Android พบว่า Feed ต่างกัน  ซึ่งบน Android คือสิ่งที่เราอยากอ่านมากกว่าครับ
- LINE มีใช้ก็โอละครับ เกมส์ติดเครื่องที่มาพร้อมไลน์นั้นไม่มีแน่นอน แต่ที่น่าสังเกตคือ ทำไมมัน Push ได้งงโลกมาก
ข้อความ Delay น่าหงุดหงิดครับ มาช้าจนบางทีอ่านข้อความบน Desktop แล้วก็เพิ่งมา
- 6tag สำหรับ Instagram ยอดเยี่ยม ยิ่งทำยิ่งน่าใช้ การใช้งานเทียบเท่า Instagram ดีๆ นี่เอง



สรุป ข้อดี
1.กล้องเทพมาก เซ็นเซอร์ใหญ่ ใช้งานต่อได้หลากหลาย
2.จอชัดเป็น Amoled Clear-Black สีไม่สดจนเกินไป ปรับระดับได้
3.Nokia App ใช้งานได้จริง แผนที่ใช้งานได้จริง พิกัดข้อมูลถูกต้องแม่นยำ GPS จับเร็วมาก
4.ถ่ายวิดีโอคมชัด ในระดับ 1080p 30 เฟรม/วินาที
5.บางและเบากว่ารุ่นพี่ๆ อย่าง 920 และ 808 วัสดุดีมาก จับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ การประกอบดีมากเช่นกัน
6.ลำโพงสนทนาดัง หูฟังชัดเจน ระบบเสียงเวลาฟังเพลงใช้งานได้จริง
7.Data Sense ใช้งานง่ายมาก สำหรับคุมปริมาณการใช้เน็ทได้

ข้อสังเกต ส่วนใหญ่ปัญหาเดิมๆ
1.ระบบ Windows Phone ยังตามหลัง Android และ iOS หลายปี
2.อัพเดท App มาเป็นระลอก
3.Keyboard กด Shift แล้วค้างไม่ย้อนกลับ (ตามRep.9)
4.บาง App+เกมส์ดังๆ ยังไม่มา และก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่
5.ลองเทียบกับ Note 2 CPU 4-Core แล้วพบว่า 1020 ทำงานช้ากว่านิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด
6.ระบบเตือนตอนนี้ยังไม่มี บางทีมีเสียงเตือนแล้วไม่รู้ว่าเตือนอะไร
7.เปลี่ยน Mail ต้อง Hard Reset เฟืองมรณะยังมีอยู่
8.Smart Search ยังไม่มี ต้องใช้ App ช่วย
9.ระบบแจ้งเตือน, ควบคุมการหมุนจอ ตอนนี้ต้องรอตัว Update อย่างเดียว
10.ราคายังสูงอยู่มาก 24,990.- ณ ตอนนี้

โดยรวม WP8 น่าใช้ขึ้นมากตามลำดับ ผมคิดว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
และ 1020 คงเป็น Lumia กล้อง 41 MP ตัวสุดท้ายแน่ๆ ที่แปะตราโนเกีย...
ยังคิดอยู่เล่นๆ ว่า ถ้าโนเกียไม่ทำมือถือแล้ว ไปทำกล้องแทนน่าจะรุ่งกว่ากันเยอะนะครับ 555

ขอบคุณครับ