เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พลตำรวจตรีนิพนธ์ เจริญผล
นครบาลเอาจริง ตั้งคณะทำงานจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจังไม่มีละเว้น โดยให้เริ่มปฏิบัติวันที่ 21 ตุลาคม 2556 นี้เป็นต้นไป กวาดล้างรถตู้ แท็กซี่ ไร้วินัย ชอบจอดกีดขวางการจราจรจนรถติดหนัก เล็งออกกฎให้รถเมล์วิ่งในบัสเลนเท่านั้น
วันนี้ (12 ตุลาคม 56) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักด์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านจราจร กล่าวว่า เตรียมประกาศนโยบายการบังคับใช้กฎหมายจราจรเร่งด่วนกับผู้ขับขี่รถสาธารณะไร้วินัย โดยเฉพาะรถตู้ รถแท็กซี่ ที่ชอบจอดกีดขวางการจราจร บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าหรือหน้าตลาดการค้า เช่น หน้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์, บิ๊กซี, โลตัส, ตลาดนัดจตุจักร และเอเชียทีค เป็นต้น
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุด และ พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เป็นรองหัวหน้า โดยมีรอง ผบก.น.1-9 งานจราจร และผู้กำกับทุก สน.เป็นคณะทำงานออกกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจังไม่มีละเว้น โดยให้เริ่มปฏิบัติวันที่ 21 ตุลาคม 2556 นี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกับการเดินหน้ากฎเหล็กมาตรการยกรถผู้ขับขี่ไร้วินัยจอดรถในที่ห้ามจอดบน 10 ถนนสาย และให้มีการประเมินผลการปฏิบัติทุกเดือน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการออกตรวจพื้นที่ พบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัด เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ที่จอดเกะกะกีดขวางการจราจรกินพื้นที่ออกมาบนผิวจราจรในช่องทางที่ 2 และ 3 จนรถคันอื่นไม่สามารถผ่านไปได้
ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินการจับปรับตามกฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ขับขี่ไร้วินัยเช่นนี้ให้เข็ดหลาบ นอกจากนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่งมวลชนและกรมการขนส่ง ให้วางแผนจัดที่จอดรถเมล์ แยกจากรถตู้สาธารณะและแท็กซี่แยกออกจากกัน เป็นการแยกจำนวนรถออกไป รวมทั้งการพิจารณาจัดบัสเลน โดยให้รถเมล์ วิ่งในเลนซ้ายห้ามรถอื่นเข้าไปวิ่ง และห้ามรถเมล์ออกมาวิ่งในเลนกลางโดยเด็ดขาดเพื่อเพิ่มความเร็วของรถเมล์ ให้สามารถแทนระบบขนส่งมวลชนระบบราง และเร่งรัดจัดรถตู้สาธารณะให้เข้าระบบโดยเร็ว รวมทั้งจัดระบบแท็กซี่และรถตู้ให้หยุดหรือจอดให้เป็นระเบียบ และห้ามจอดในที่ห้ามจอดโดยเด็ดขาดจากการตรวจสอบ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ระบุว่า สถิติการออกใบสั่งและการจับกุม ในปี 2556 ช่วงเดือนมกราคม- กันยายน 2556 พบว่า มีการจับกุมข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดมากเป็นอันดับ 1 ถึง 217,967 ราย และฝ่าฝืนสัญญาณไฟ 43,939 รายแสดงว่า ปัญหาของการจราจรในกรุงเทพคือการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ ผู้ขับขี่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้นจึงได้กำหนดนโยบายปี 2557 นี้ ให้เป็นปีแห่งการบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2556 เพื่อกำชับการทำงาน ของ บก.จร.และ สน.พื้นที่ 88 สน. ให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม
http://hilight.kapook.com/view/92216
แต่ผมว่าถ้าสภานิติบัญญิติ ไปแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจราจร ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถนำหลักฐาน เช่น คลิป ที่ถ่ายทะเบียนผู้กระทำผิด จากกล้องที่ติดอยู่หน้ารถ หรือ มวกกันน๊อค ไปแสดงกับตำรวจ หรือ หน่วยงานขนส่ง หรือ หน่วยงานใดๆ ที่จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ และให้ประชาชนดังกล่าวนั้นมีสิทธิ์ได้ส่วนแบ่งสินบนนำจับนี้ด้วย น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ลดปัญหาการจราจรลงได้
แต่สำหรับภาคประชาชน การที่จะไปเข้าชื่อแก้ไขกฎหมายใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินนั้น ค่อยข้างจะยาก เพราะต้องให้นายกรับรองร่างให้ก่อน จึงจะให้สภาพิจารณาว่าจะรับร่างต่อไปได้
แต่หากจะขอแก้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินก็พอจะเป็นไปได้บ้าง (เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย) ดังนั้น วันอาทิตย์ี้ี้นี้ 18.00 น. ที่ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ : กรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ ขอเชิญ ร่วมประชุม เกี่ยวกับการเข้าชื่อ แก้ไข พรบ.จราจรทางบก 2522 โดยภาคประชาชน ครับ
http://ppantip.com/topic/31098697/comment7
นครบาลฮึด กวาดล้างรถตู้-แท็กซี่ จอดซ้อนป้ายรถเมล์ เริ่ม 21 ต.ค.นี้
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พลตำรวจตรีนิพนธ์ เจริญผล
นครบาลเอาจริง ตั้งคณะทำงานจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจังไม่มีละเว้น โดยให้เริ่มปฏิบัติวันที่ 21 ตุลาคม 2556 นี้เป็นต้นไป กวาดล้างรถตู้ แท็กซี่ ไร้วินัย ชอบจอดกีดขวางการจราจรจนรถติดหนัก เล็งออกกฎให้รถเมล์วิ่งในบัสเลนเท่านั้น
วันนี้ (12 ตุลาคม 56) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักด์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านจราจร กล่าวว่า เตรียมประกาศนโยบายการบังคับใช้กฎหมายจราจรเร่งด่วนกับผู้ขับขี่รถสาธารณะไร้วินัย โดยเฉพาะรถตู้ รถแท็กซี่ ที่ชอบจอดกีดขวางการจราจร บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าหรือหน้าตลาดการค้า เช่น หน้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์, บิ๊กซี, โลตัส, ตลาดนัดจตุจักร และเอเชียทีค เป็นต้น
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุด และ พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เป็นรองหัวหน้า โดยมีรอง ผบก.น.1-9 งานจราจร และผู้กำกับทุก สน.เป็นคณะทำงานออกกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจังไม่มีละเว้น โดยให้เริ่มปฏิบัติวันที่ 21 ตุลาคม 2556 นี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกับการเดินหน้ากฎเหล็กมาตรการยกรถผู้ขับขี่ไร้วินัยจอดรถในที่ห้ามจอดบน 10 ถนนสาย และให้มีการประเมินผลการปฏิบัติทุกเดือน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการออกตรวจพื้นที่ พบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัด เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ที่จอดเกะกะกีดขวางการจราจรกินพื้นที่ออกมาบนผิวจราจรในช่องทางที่ 2 และ 3 จนรถคันอื่นไม่สามารถผ่านไปได้
ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินการจับปรับตามกฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ขับขี่ไร้วินัยเช่นนี้ให้เข็ดหลาบ นอกจากนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่งมวลชนและกรมการขนส่ง ให้วางแผนจัดที่จอดรถเมล์ แยกจากรถตู้สาธารณะและแท็กซี่แยกออกจากกัน เป็นการแยกจำนวนรถออกไป รวมทั้งการพิจารณาจัดบัสเลน โดยให้รถเมล์ วิ่งในเลนซ้ายห้ามรถอื่นเข้าไปวิ่ง และห้ามรถเมล์ออกมาวิ่งในเลนกลางโดยเด็ดขาดเพื่อเพิ่มความเร็วของรถเมล์ ให้สามารถแทนระบบขนส่งมวลชนระบบราง และเร่งรัดจัดรถตู้สาธารณะให้เข้าระบบโดยเร็ว รวมทั้งจัดระบบแท็กซี่และรถตู้ให้หยุดหรือจอดให้เป็นระเบียบ และห้ามจอดในที่ห้ามจอดโดยเด็ดขาดจากการตรวจสอบ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ระบุว่า สถิติการออกใบสั่งและการจับกุม ในปี 2556 ช่วงเดือนมกราคม- กันยายน 2556 พบว่า มีการจับกุมข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดมากเป็นอันดับ 1 ถึง 217,967 ราย และฝ่าฝืนสัญญาณไฟ 43,939 รายแสดงว่า ปัญหาของการจราจรในกรุงเทพคือการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ ผู้ขับขี่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้นจึงได้กำหนดนโยบายปี 2557 นี้ ให้เป็นปีแห่งการบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2556 เพื่อกำชับการทำงาน ของ บก.จร.และ สน.พื้นที่ 88 สน. ให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม
http://hilight.kapook.com/view/92216
แต่ผมว่าถ้าสภานิติบัญญิติ ไปแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจราจร ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถนำหลักฐาน เช่น คลิป ที่ถ่ายทะเบียนผู้กระทำผิด จากกล้องที่ติดอยู่หน้ารถ หรือ มวกกันน๊อค ไปแสดงกับตำรวจ หรือ หน่วยงานขนส่ง หรือ หน่วยงานใดๆ ที่จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ และให้ประชาชนดังกล่าวนั้นมีสิทธิ์ได้ส่วนแบ่งสินบนนำจับนี้ด้วย น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ลดปัญหาการจราจรลงได้
แต่สำหรับภาคประชาชน การที่จะไปเข้าชื่อแก้ไขกฎหมายใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินนั้น ค่อยข้างจะยาก เพราะต้องให้นายกรับรองร่างให้ก่อน จึงจะให้สภาพิจารณาว่าจะรับร่างต่อไปได้
แต่หากจะขอแก้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินก็พอจะเป็นไปได้บ้าง (เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย) ดังนั้น วันอาทิตย์ี้ี้นี้ 18.00 น. ที่ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ : กรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ ขอเชิญ ร่วมประชุม เกี่ยวกับการเข้าชื่อ แก้ไข พรบ.จราจรทางบก 2522 โดยภาคประชาชน ครับ http://ppantip.com/topic/31098697/comment7