ยุโรป มียูโรพาส ญี่ปุ่น มีเจอาร์พาส เมืองไทยกำลังจะมีเอ็กซ์เพรส แต่สำหรับบางประเทศ เขาไม่สามารถทำได้ การขนส่งยังเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่มันก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ ความดั้งเดิม จะกี่ร้อยวันพันปีผ่านไป มรดกประเพณียังสืบทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลานท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของยุคโลกาภิวัฒน์
ประเทศลาว หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านเราที่กำลังจะเข้าสู่ประชาคม AEC ที่ขึ้นชื่อว่าค่าครองชีพแพงแต่ค่าแรงถูก ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเพียงแห่งเดียวใน AEC แต่ก็ถูกทดแทนด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เป็นประกายในตาของเหล่าบรรดานายทุนที่จ้องเข้าไปหาผลประโยชน์
จะอย่างไรก็ช่าง สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศลาวก็สวยงามสดใสไม่แพ้ใคร เย้ายวนใจให้คนทั่วโลกต่างพากันมาสัมผัสในมนต์เสน่ห์ของลาวเหนือ "หลวงพระบาง วังเวียง และเวียงจันทน์" เมือง 3 พี่น้องที่ถูกบรรจุลงแพ็คเก็จทัวร์ลาวเหนือแบบชะโงกดูวิวหรือการแบ็คแพคมาเอง
พยากรณ์อากาศทำนายว่าพายุฝนจะเข้ากรุงเทพฯติดต่อกันเป็นเวลานาน 2-3 วัน ทุกคนคงอยากจะนอนเก็บตัวอยู่ในผ้าห่มหอมๆฝันหวานๆอยู่กับคนรักในห้องนอน ซึ่งในความจริงแล้วก็ต้องออกไปเผชิญกับบรรยากาศรถติดจนเหยียบเบรกซะนานกว่าแตะคันเร่ง บางแห่งก็น้ำท่วมขัง ผู้คนมากมายเดินกางร่มชนกันไปมาพร้อมด้วยอารมณ์บูดบึ้งจากการโทษชะตาชีวิตตัวเองและการเกิดมาใช้ชีวิตของคนอื่นๆที่เบียดมาข้างๆ
หนีดีกว่า... อย่างน้อยก็น่าจะมีบางที่ที่ฝนตกหนักนานขนาดไหนแต่ก็ไม่เครียดอึมครึมเหมือนเมืองกรุงเทพแห่งนี้!
ทริปนี้ผมมีเวลาเต็มๆว่างๆแค่ 4 วันเท่านั้นไม่ขาดเกิน กับ 3 เมือง หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ จากแผนที่คาดการณ์ไว้ ถ้าฝนตกหนักก็อาจจะทำเครียดเที่ยวไม่ทั่วเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ผมวางไว้นั้นเป็นการเที่ยวที่เกือบจะเรียกได้ว่า "ชะโงกทัวร์"
แต่พอเอาเข้าจริง ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน เท่านั้นไม่พอ เรายังเจอฝนน้อยมากจนแทบไม่เจอ แถมยังได้สัมผัสอากาศหนาวที่เรียกว่า "ลมหนาว" จริงๆด้วย
แผนคร่าวๆของผม การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช้เครื่องบินทั้งสิ้นเนื่องจากเป็นการเดินทางเร่งด่วน
คืนแรกออกจากกรุงเทพถึงเวียงจันทน์ในตอนเช้า
วันที่ 1 ผมจะใช้เวลาทั้งวันจากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบางยามเย็น
วันที่ 2 ตักบาตรเช้า เดินเล่นในตัวเมืองหลวงพระบาง ตักบาตรข้าวเหนียว เที่ยวทุกวัดในหลวงพระบาง ไปถ้ำติ่ง หมู่บ้านต้มเหล้า น้ำตกตาดกวงสี ดูพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสีและเดินเล่นตลาดค่ำ
วันที่ 3 ออกเดินทางสู่วังเวียง เที่ยวถ้ำจัง บลูลากูน เล่นห่วงยางล่องน้ำซอง
วันที่ 4 นั่งชิวริมน้ำซอง และกลับสู่เวียงจันทน์ เที่ยวทั่วเมืองเวียงจันทน์ด้วยการแบ็คแพ็คก่อนกลับรถทัวร์ตอนกลางคืน
จากการเดินทางด้วยรถอย่างเดียวมาหลวงพระบาง ทำให้รู้ซึ้งเลยว่า "แนะนำเครื่องบินนะครับ" ถ้าคุณไม่อยากเผชิญการต่อราคาของบรรดาขาฟัน อาการเหน็ดเหนื่อยจากการขึ้นเขากว่า 3,000 โค้ง ใช้ชีวิตกับการนั่งรถพอๆกับการท่องเที่ยวซะอีก แต่อย่างไรก็ช่าง เรื่องเล่าจากกว่า 3,000 โค้งและวิถีชีวิตของชาวบ้านรายทาง ย่อมมีอะไรมากกว่าเรื่องเล่าจากฟากฟ้าที่ในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงใช่มั้ยครับ
รีวิวฉบับนี้เหมาะกับคนที่อยากมาเที่ยวหลวงพระบางในงบจำกัด ระยะเวลาจำกัดแค่ 4 วันและต้องการเก็บที่เที่ยวให้หมด ถ้าคุณยังไม่มีแผนเที่ยวฤดูหนาวที่ใดในปีนี้ ผมขอแนะนำ "หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ ที่ผมกำลังจะรีวิวให้ท่านดูในฉบับนี้
[CR] ในวันที่พายุฝนถล่มกรุงเทพ แต่รีวิว.....หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์.....ฉบับนี้ กลับไม่มีอะไรเลย นอกจาก.....
ยุโรป มียูโรพาส ญี่ปุ่น มีเจอาร์พาส เมืองไทยกำลังจะมีเอ็กซ์เพรส แต่สำหรับบางประเทศ เขาไม่สามารถทำได้ การขนส่งยังเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่มันก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ ความดั้งเดิม จะกี่ร้อยวันพันปีผ่านไป มรดกประเพณียังสืบทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลานท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของยุคโลกาภิวัฒน์
ประเทศลาว หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านเราที่กำลังจะเข้าสู่ประชาคม AEC ที่ขึ้นชื่อว่าค่าครองชีพแพงแต่ค่าแรงถูก ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเพียงแห่งเดียวใน AEC แต่ก็ถูกทดแทนด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เป็นประกายในตาของเหล่าบรรดานายทุนที่จ้องเข้าไปหาผลประโยชน์
จะอย่างไรก็ช่าง สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศลาวก็สวยงามสดใสไม่แพ้ใคร เย้ายวนใจให้คนทั่วโลกต่างพากันมาสัมผัสในมนต์เสน่ห์ของลาวเหนือ "หลวงพระบาง วังเวียง และเวียงจันทน์" เมือง 3 พี่น้องที่ถูกบรรจุลงแพ็คเก็จทัวร์ลาวเหนือแบบชะโงกดูวิวหรือการแบ็คแพคมาเอง
พยากรณ์อากาศทำนายว่าพายุฝนจะเข้ากรุงเทพฯติดต่อกันเป็นเวลานาน 2-3 วัน ทุกคนคงอยากจะนอนเก็บตัวอยู่ในผ้าห่มหอมๆฝันหวานๆอยู่กับคนรักในห้องนอน ซึ่งในความจริงแล้วก็ต้องออกไปเผชิญกับบรรยากาศรถติดจนเหยียบเบรกซะนานกว่าแตะคันเร่ง บางแห่งก็น้ำท่วมขัง ผู้คนมากมายเดินกางร่มชนกันไปมาพร้อมด้วยอารมณ์บูดบึ้งจากการโทษชะตาชีวิตตัวเองและการเกิดมาใช้ชีวิตของคนอื่นๆที่เบียดมาข้างๆ
หนีดีกว่า... อย่างน้อยก็น่าจะมีบางที่ที่ฝนตกหนักนานขนาดไหนแต่ก็ไม่เครียดอึมครึมเหมือนเมืองกรุงเทพแห่งนี้!
ทริปนี้ผมมีเวลาเต็มๆว่างๆแค่ 4 วันเท่านั้นไม่ขาดเกิน กับ 3 เมือง หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ จากแผนที่คาดการณ์ไว้ ถ้าฝนตกหนักก็อาจจะทำเครียดเที่ยวไม่ทั่วเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ผมวางไว้นั้นเป็นการเที่ยวที่เกือบจะเรียกได้ว่า "ชะโงกทัวร์"
แต่พอเอาเข้าจริง ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน เท่านั้นไม่พอ เรายังเจอฝนน้อยมากจนแทบไม่เจอ แถมยังได้สัมผัสอากาศหนาวที่เรียกว่า "ลมหนาว" จริงๆด้วย
แผนคร่าวๆของผม การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช้เครื่องบินทั้งสิ้นเนื่องจากเป็นการเดินทางเร่งด่วน
คืนแรกออกจากกรุงเทพถึงเวียงจันทน์ในตอนเช้า
วันที่ 1 ผมจะใช้เวลาทั้งวันจากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบางยามเย็น
วันที่ 2 ตักบาตรเช้า เดินเล่นในตัวเมืองหลวงพระบาง ตักบาตรข้าวเหนียว เที่ยวทุกวัดในหลวงพระบาง ไปถ้ำติ่ง หมู่บ้านต้มเหล้า น้ำตกตาดกวงสี ดูพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสีและเดินเล่นตลาดค่ำ
วันที่ 3 ออกเดินทางสู่วังเวียง เที่ยวถ้ำจัง บลูลากูน เล่นห่วงยางล่องน้ำซอง
วันที่ 4 นั่งชิวริมน้ำซอง และกลับสู่เวียงจันทน์ เที่ยวทั่วเมืองเวียงจันทน์ด้วยการแบ็คแพ็คก่อนกลับรถทัวร์ตอนกลางคืน
จากการเดินทางด้วยรถอย่างเดียวมาหลวงพระบาง ทำให้รู้ซึ้งเลยว่า "แนะนำเครื่องบินนะครับ" ถ้าคุณไม่อยากเผชิญการต่อราคาของบรรดาขาฟัน อาการเหน็ดเหนื่อยจากการขึ้นเขากว่า 3,000 โค้ง ใช้ชีวิตกับการนั่งรถพอๆกับการท่องเที่ยวซะอีก แต่อย่างไรก็ช่าง เรื่องเล่าจากกว่า 3,000 โค้งและวิถีชีวิตของชาวบ้านรายทาง ย่อมมีอะไรมากกว่าเรื่องเล่าจากฟากฟ้าที่ในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงใช่มั้ยครับ
รีวิวฉบับนี้เหมาะกับคนที่อยากมาเที่ยวหลวงพระบางในงบจำกัด ระยะเวลาจำกัดแค่ 4 วันและต้องการเก็บที่เที่ยวให้หมด ถ้าคุณยังไม่มีแผนเที่ยวฤดูหนาวที่ใดในปีนี้ ผมขอแนะนำ "หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ ที่ผมกำลังจะรีวิวให้ท่านดูในฉบับนี้