เพิ่มเติมฉบับเต็มครับ : http://www.kaohoon.com/online/73207/CPALL-%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-MAKRO-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-60-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C-.htm;jsessionid=8E0399B587B150008C9DE8810A30B9FC.prodA


จากข้างต้นผมมีข้อสังเกตดังนี้ครับ
1. ถ้าหาก CPALL จะถือเพียง 60% แล้วทำไมถึงไม่ซื้อเพียง 60% ตั้งแต่แรก?

2. เห็นมีช่วงนึงในตอนแรกๆ ที่ซื้อ Makro มีความมั่นใจมากว่าเป็นธุรกิจที่ดี เป็นโอกาสที่ดี 9ล9
แต่ก็กลับท้ายที่หลังว่าจะขายออก ซึ่งโดยความคิดของผมแล้ว ถ้าเรามีกิจการที่ดี ซื้อกิจการรับทำต่อแล้ว

ต้องแน่ใจว่าดีและจะเก็บกิจการนั้นไปนานๆ เพราะผมคิดแบบ Make Sense นะครับว่า
อะไรที่ดีๆ คนเรามักจะไม่ขาย/ปล่อย ออกไปง่ายๆ ซึ่งอะไรที่ปล่อยออกไปง่ายๆ ก็อาจจะแปลว่ามันไม่ดีหรือเปล่า?

3. ทำไมถึงก่อหนี้ระยะสั้น? ทั้งๆ ที่ก่อหนี้ระยะยาวอาจดูดีกว่าไหม?
จากงบการเงิน : www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=CPALL&language=th&country=TH



กู้มาเป็นหนี้ระยะสั้นประมาณ 140,000 ล้านบาท
แน่นอนว่าไม่สามารถหากำไรจากการดำเนินกิจการมาจ่ายหนี้หมดได้อย่างแน่นอน เพราะกำไรต่อปี เต็มที่ 10,000 ล้านบาท

ซึ่งในส่วนนี้ผมคิดว่าที่ CPALL ก่อหนี้ระยะสั้น ก็เพื่อที่จะจ่ายดอกเบี้ยใน Rate ที่ต่ำๆ เพราะ ถ้าจ่ายหนี้เร็ว ดอกเบี้ยจ่ายยิ่งถูก ^o^
จากนั้นก็ค่อยไประดมทุนจากแหล่งอื่นๆ เล่นแร่แปรธาตุ โดยการไปออกตราสารต่างๆ 3 5 7 9 แล้วแต่ตามสะดวก

เพื่อสับเปลี่ยนหนี้ส่วนหนี้ ไปก่อหนี้ระยาวใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าตราสารหนี้ที่ออกมีการจ่ายดอกเบี้ยที่สูง
ยังไงคนก็ต้องมาซื้อ ไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเลยทีเดียว

4. อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เหตุฉไนถึงแตก Par Makro  จาก 10 บาท เหลือ 0.50 บาท (10/0.5 = 20 เท่า)
ซึ่งแปลว่า หากราคาหุ้นอยู่ที่ 10 บาท ราคาจะเหลือเพียง 0.50 บาท(50 สตางค์?)

ฉะนั้นจากราคา 600 กว่าบาทๆ ถูกแตก Par เหลือ 30 กว่าบาท
เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นว่า...........


แตก Par มาแล้ว ราคาหุ้นตระกูล CP ราคาพอๆ กันเลย
ยกเว้น True อาจต้องไปรวม Par นะอุอิ

ส่วน CPF ก็เคยไป 40 บาท ตอนนี้ลงมาทรงๆ รอเจ้าเข้า.....

ซึ่งผมก็คิดว่า ถ้าจะทำธุรกิจ ดำเนินกิจการ จะแตก Par ไปเพื่ออะไร?
การแตก Par แบบ นี้มันแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารกำลังบริหารธุรกิจ หรือ ทำราคาหุ้นกันแน่?

*** Makro ***
ราคา CPALL ซื้อ 787 หลังแตก Par >>> 787/20 = 39.35 บาท/หุ้น ***

ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า
หากข่าว CPALL จะขายหุ้น Makro ออกไปบางส่วน แน่นอนว่าต้องขายสูงกว่าราคาทุน
ถ้าขายต่ำกว่าแล้วขาดทุน เค้าคงไปซื้อมาหรอก มันโจ๊กกกกกกกกกกก(ตลก)

Summary
ส่วนตัวคิดว่าคงไม่ถือลงทุนกับหุ้นกลุ่มนี้ในระยะยาว (ราคา ณ ปัจจุบัน มิอาจย่างกายเข้าไป)
แต่ก็คิดไว้ว่าอาจจะมีการเข้าไปเก็งกำไรไว้บ้างเล็กน้อยในหุ้นของ Makro ครับ

เนื่องจาก
1. ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 33.50 บาท เมื่อเทียบกับราคาที่ CPALL ซื้อหลังแตก Par อยู่ที่ 39.35 บาท
คิดเป็น Up Side = 17.46%

39.35 - 33.50 * 100 = 17.46%
           33.50

2. โอกาสที่จะมีข่าวดีเสริมในภายกลังย่อมมี (และเชื่อว่าต้องมีแน่นอน เพื่อดันราคาหุ้นให้ CPALL ขายได้ในราคาที่สูงๆ)

อุปสรรค
1. แล้วใครจะมาซื้อละ?
2. ขนาดเรารู้เค้า (รู้ทุน CPALL หรือเจ้าไม้ใหญ่โค่ดๆ) ทุนเจ้า 39.35 บาท
แล้วถ้ามาขายหุ้น Makro ที่ 50 บาท เป็นเราจะซื้อไหม?
3. Deal นี้เพิ่งเกิดไม่นาน คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ซึ่งก็อยู่บนความไม่แน่นอนนั่นเอง