สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 53
โวะ มีคนไม่ยอมรับความจริงด้วย
หลักการนี้เป็นหลักการพีชคณิตเบื้องต้น พัฒนามาหลายยุคตั้งแต่ก่อนสมัยกรีกและเปอร์เซียโน่น
และผมก็แน่ใจมากๆว่านักคณิตศาสตร์ทั่วโลกเข้าใจตรงกันมาไม่ต่ำกว่า 500 ปีแล้ว
คนที่ยังดึงดัน คุณคงจำมาผิด คนสอนคุณมาคงเข้าใจผิด ตำราที่คุณอ่านเล่มนั้นคงผิด หรือไม่ก็... คุณเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับความจริง
----
สำหรับคนสงสัย ก๊อบคำตอบมาจากที่เคยตอบไว้ในนี้แหละ(+เพิ่มเติมให้)
อธิบายสั้นๆว่าทำไมคูณ-หาร จึงสำคัญกว่าบวก-ลบ
ลองดูนี่
3+2+2+2+2 = 11 ไม่น่ามีข้อโต้แย้ง
แต่ 2+2+2+2 = 2x4 =4x2 ดังนั้น
3+2x4 ควรเท่ากับ 11 ด้วย
ในทำนองเดียวกัน 3+4x2 ก็ควรเป็น 11 เหมือนกัน และการบวกมีสมบัติการสลับที่ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น
3+2x4 ---(1)
3+4x2 ---(2)
2x4+3 ---(3)
4x2+3 ---(4)
ทั้งหมดควรมีค่าเท่ากัน
แต่หากเราคิดเรียงตัวโดยไม่สนกฎใดๆ
(1) จะได้คำตอบเป็น 20
(2) จะได้คำตอบเป็น 14
(3) จะได้คำตอบเป็น 11
(4) จะได้คำตอบเป็น 11
คำตอบของ (1) และ (2) เกิดความขัดแย้งกับคำตอบของ 3+2+2+2+2 ที่เราทราบดีแต่แรก
แต่ (3) และ (4) นั้นถูกต้อง ทำไม? ก็เพราะเราเริ่มคิดการคูณก่อนนั่นเอง
ดังนั้นเพื่อให้ลำดับการคำนวณคณิตศาสตร์ถูกต้องเสมอ มีวิธีเดียวเท่านั้น คือการคูณและหาร (ซึ่งเป็นรูปย่อของการบวก-ลบซ้ำๆ) ต้องมาก่อนเสมอ
ถ้าจะให้พิสูจน์ order of operation จริงๆขอบาย ยาวมากๆ
หวังว่าจะเข้าใจเพิ่มขึ้นบ้างนะครับ
หลักการนี้เป็นหลักการพีชคณิตเบื้องต้น พัฒนามาหลายยุคตั้งแต่ก่อนสมัยกรีกและเปอร์เซียโน่น
และผมก็แน่ใจมากๆว่านักคณิตศาสตร์ทั่วโลกเข้าใจตรงกันมาไม่ต่ำกว่า 500 ปีแล้ว
คนที่ยังดึงดัน คุณคงจำมาผิด คนสอนคุณมาคงเข้าใจผิด ตำราที่คุณอ่านเล่มนั้นคงผิด หรือไม่ก็... คุณเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับความจริง
----
สำหรับคนสงสัย ก๊อบคำตอบมาจากที่เคยตอบไว้ในนี้แหละ(+เพิ่มเติมให้)
อธิบายสั้นๆว่าทำไมคูณ-หาร จึงสำคัญกว่าบวก-ลบ
ลองดูนี่
3+2+2+2+2 = 11 ไม่น่ามีข้อโต้แย้ง
แต่ 2+2+2+2 = 2x4 =4x2 ดังนั้น
3+2x4 ควรเท่ากับ 11 ด้วย
ในทำนองเดียวกัน 3+4x2 ก็ควรเป็น 11 เหมือนกัน และการบวกมีสมบัติการสลับที่ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น
3+2x4 ---(1)
3+4x2 ---(2)
2x4+3 ---(3)
4x2+3 ---(4)
ทั้งหมดควรมีค่าเท่ากัน
แต่หากเราคิดเรียงตัวโดยไม่สนกฎใดๆ
(1) จะได้คำตอบเป็น 20
(2) จะได้คำตอบเป็น 14
(3) จะได้คำตอบเป็น 11
(4) จะได้คำตอบเป็น 11
คำตอบของ (1) และ (2) เกิดความขัดแย้งกับคำตอบของ 3+2+2+2+2 ที่เราทราบดีแต่แรก
แต่ (3) และ (4) นั้นถูกต้อง ทำไม? ก็เพราะเราเริ่มคิดการคูณก่อนนั่นเอง
ดังนั้นเพื่อให้ลำดับการคำนวณคณิตศาสตร์ถูกต้องเสมอ มีวิธีเดียวเท่านั้น คือการคูณและหาร (ซึ่งเป็นรูปย่อของการบวก-ลบซ้ำๆ) ต้องมาก่อนเสมอ
ถ้าจะให้พิสูจน์ order of operation จริงๆขอบาย ยาวมากๆ
หวังว่าจะเข้าใจเพิ่มขึ้นบ้างนะครับ
แสดงความคิดเห็น
น้าฮะ ช่วยทำข้อนี้ให้ผมหน่อยฮะ 3+3x3-3+3 = ?