สอบถามถึงความเห็นของคนที่กินเจในกรุงเทพ เราจะได้เก็บเอาไว้ใช้ในการปรับตัวสำหรับการกินเจในปีถัดๆไปค่ะ

ที่ตั้งกระทู้นี้ เพื่อสอบถามถึงความเห็นของคนที่กินเจในกรุงเทพ เราจะได้เก็บเอาไว้ใช้ในการปรับตัวสำหรับการกินเจในปีถัดๆไปค่ะ

เดิมเเล้วเราเป็นคนภูเก็ต ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นที่ที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเทศกาลกินเจ ตอนนี้เราเข้ามาทำงานในกรุงเทพ และทานเจที่กรุงเทพเป็นปีแรก แต่เท่าที่เราสัมผัสการกินเจของที่นี่ มันทำให้เราเกิด Culture Shock ค่ะ เม่าตกใจ

ก่อนอื่นขอกล่าวถึงเทศกาลกินเจแบบคร่าวๆ ที่เราเคยปฏิบัติมาตลอดยี่สิบกว่าปี ก่อนมาอยู่กรุงเทพ
     ที่ภูเก็ตจะใส่เสื้อผ้าสีขาว ร้านอาหารที่ขายประมาณ 98% จะเป็นร้านอาหารเจ (ดูจากในตัวเมืองภูเก็ต) ร้านที่ขายเจก็เจไปเลย ร้านที่ขายอาหารปกติก็ขายปกติไปเลย แม่ค้าพ่อค้าที่ขายเจจะทานเจด้วย รวมถึงงดการทานนม และเมนูที่ทำจากนม เว้นแต่เมนูที่ทำจาก นมถั่วเหลือง สำหรับที่บ้านเรา(บ้านอื่นเราไม่ทราบ) อากง อาม่า อนุญาตให้เด็กๆสามารถทานนมได้ตามปกติ สำหรับบ้านเราถือว่าเป็นการกินเจที่ไม่เคร่งครัดเลยค่ะ เพราะบ้านที่กินเจแบบเคร่งครัด จะเคร่งถึงขนาดมีชุด จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ ฯลฯ แยกไว้สำหรับการกินเจโดยเฉพาะค่ะ นี่ก็เป็นการกินเจแบบคร่าวๆที่เราเคยปฏิบัติมาทุกปีค่ะ

เรื่องที่ทำให้เราเกิด Culture Shock ก็คือ เท่าที่เราทานเจมาจนเหลืออีกสองวันสุดท้าย เราพบว่า...

ส่วนใหญ่ร้านอาหารที่ปักธงเหลืองขายเจ มักจะขายรวมกันกับอาหารปกติ (มีเมนูเจในร้าน) เราเห็นทั้งแบบข้างถนนและในห้าง มีน้อยร้านนักที่จะขายแต่อาหารเจเพียงอย่างเดียว
    >>> มีวันนึงเราไปทานเที่ยงกับเพื่อนซึ่งเพื่อนเราไม่ทานเจ แต่เพื่อนเราบอกว่าไม่เป็นไรอยากลองทานดูว่าจะอร่อยรึป่าว เราก็โอเค เลยเดินหาร้านเจกัน แต่เราก็พบแต่ร้านที่ขายอาหารเจ อยู่ในร้านเดียวกันกับอาหารปกติ ร้านที่เราไปเป็นข้าวแกงเจอยู่ด้านซ้ายของร้าน ด้านขวาของร้านเป็นข้าวขาหมู ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า กินไปเห๊อะ ก็คนละร้านกันนี่หน่า แต่พอไปนั่ง เพื่อนเราขอทานข้าวขาหมู เราก็โอเค บอกไม่เป็นไรเพราะเราไม่ได้ทานหนิ ส่วนเราก็สั่งข้าวแกงเจ พอข้าวมาถึง ไม่มีช้อนให้เรา นั่นคือเราต้องใช้ช้อนที่อยู่ในกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งใช้รวมกับลูกค้าที่กินข้าวขาหมู พอกินเสร็จ เรายังนั่งดื่มน้ำคุยกับเพื่อนต่ออีกนิดหน่อย ก็มีคนมาเก็บจาน เอาจานข้าวเจและจานข้าวขาหมูซ้อนกัน และเอาไปวางในกะละมังเดียวกันเพื่อเตรียมล้าง (ในใจคิด โอ้วว งั้นจานก็คาวซินะ เราเริ่มเข้าใจถึงคนที่มี ถ้วย จาน ชาม ช้อน แยกไว้สำหรับกินเจแล้วล่ะ)

    >>> อีกมือนึงเราไปทานข้าวเจในห้าง เป็นร้านอาหารจีนซึ่งมีเมนูเจ เราก็โอเค(เราต้องปรับตัว) เราสั่งข้าวผัดเจ เมื่ออาหารมา เราหิวมาก เราทานเข้าไปคำแรก เอ๊ะ!! กลิ่นคุ้นๆเหมือนน้ำปลาตราปลาหมึก เราบอกเพื่อนว่าช่วยชิมหน่อย ให้เพื่อนยื่นช้อนมา แล้วเราก็ตักข้าวใส่ช้อนเพื่อนให้เพื่อนชิม เพื่อนก็บอกว่าใช่เลย คนปรุงต้องใส่น้ำปลาตราปลาหมึกแน่ๆ แต่ตอนนั้นเราก็กินจนหมดนั่นล่ะ มันอร่อยนี่หน่า 555 แต่ก็จำไว้ว่า คราวหลังอย่าพลาดน๊าา

เราแอบเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารเจบางท่าน ไม่ได้ทานเจ
    >>> มีวันนึง(อีกแล้ว 55)เราไปซื้ออาหารเจ แบบร้านข้าวแกงทั่วไป ร้านนี้ขายเจทั้งร้าน แต่ที่ทำเราต๊กกะใจ!! คือ ตอนเราไปสั่งแม่ค้าว่าเราเอาแกงส้ม ผัดผัก และข้าวเปล่าอย่างละถุง แม่ค้ากำลังทานข้าวอยู่เราก็ไม่เห็นหรอกว่าทานอะไร แต่แม่ค้าก็เดินถือจานมาที่ตู้ที่วางแกงขาย เมื่อแม่ค้าวางจานลงเราแอบเห็นว่ามันคือ กระเพราหมูชิ้นราดข้าว เราเห็นชัดมาก ตาไม่ฝาดชัวร์ มองไปในร้านก็เห็นลูกสาวของแม่ค้ากำลังกินน่องไก่ทอดอวบๆอย่างเอร็ดอร่อย เอิ่มมมมม เราได้แต่ทำใจ คิดแค่ว่า "เรากินเจด้วยความตั้งใจของเราแล้วกัน ไม่ใช่บ้านเรา วัฒนธรรมคงจะต่างกัน เราต้องปรับตัว"

หลังจากนั้น เราเลยพยายามเลือกร้านที่ขายแต่อาหารเจอย่างเดียว เลือกใส่กล่องทาน ใช้ช้อนพลาสติก (แอบซื้อมาสำรองในกระเป๋าด้วย 55) และพกข้าวกล่องไปที่ทำงานเพื่อไม่ให้เพื่อนลำบาก แลดูแล้วยากลำบาก แต่เรารู้สึกสบายใจกว่าเดิมเยอะ

ขอบคุณมากนะคะที่อ่าน เรื่องราวบ่นๆ ของเราจนจบ และขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เพราะส่วนใหญ่เราไปทานอาหารเป็นกลุ่ม หรือคู่กันซะมากกว่าครับ ซึ่งแน่นอนอาจจะเป็น กินเจคนนึง กินเนื้อคนนึง

ทำให้ร้านอาหารที่เป็นเจอย่างเดียว จะเกิดภาวะรับ demand ลูกค้าไม่ได้ ประกอบกับคนกินเจหลายๆคนก็ไม่ได้เคร่งครัดถึงขนาด ต้องแยกร้าน แยกจาน แยกช้อนส้อม ทำให้ร้านในกรุงเทพฯปรับมาเป็นแบบนี้ เพื่อให้มีลูกค้าเข้าร้าน

ร้านอาหารที่มี mix ทั้ง 2 แบบ จึงกลายเป็นขายดีที่สุด ณ ช่วงนั้นไป

แต่ตามวัฒนธรรม หรือสำหรับคนที่เคร่งครัดจริงๆ ร้าน mix เค้าก็ไม่เข้าครับ ฟู๊ดคอร์ทที่ใช้ช้อนส้อมรวมก็ไม่ไป สมัยก่อนบางคนถึงกับลางาน ไปอยู่โรงเจทั้ง 10 วันเลยทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่