พอดีได้อัพลงเฟสตัวเองแล้วปรากฎว่ามีเพื่อนคุณแม่ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก Ibมามากมายอยากทราบรายละเอียด
ตัวแม่เองก็ไม่ได้รู้เรื่องมากมายนะคะ แต่อาศัยที่เป็นคนช่างสังเกตุลูก เลยมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
แชร์ประสบการณ์..เรื่องเท้านู๋ต้นหอมนะคะ...
**เริ่มตั้งแต่นู๋ต้นหอมเธอเดินได้ราว1ขวบแม่สังเกตุว่า เท้าน้องด้านซ้ายตรงบริเวณอุ้งเท้าด้านข้างด้านในมันจะเบี้ยวๆ บอกใครทุคนไม่มีใครดูออก นอกจากมานั่งเพ่งแบบติดๆ แต่ด้วยความที่ตัวแม่เองเป็นคนช่างสังเกตุมากเลยดูว่ามันไม่ปกติ และเวลาเจอเด็กอื่นๆก็เที่ยวแอบดูเค้า บางคนก็ตรงดีและมีบางคนที่เป็นเหมือนนู๋ต้นหอม..เมื่อเห็นดังนั้นจึงคิดว่าลูกเราไม่ปกติ
...แต่บอกก่อนนะคะว่า เวลาเดิน วิ่ง หรือทำอะไรจะไม่มีอะไรผิดปกติเลย นู๋ต้นหอมก็วิ่งเล่นได้เหมือนเด็กทั่วไปและไม่เคยมีใครมาทักด้วย แต่ด้วยความเป็นแม่เรื่องเยอะ คิดว่าเท้ามันดูเบี้ยวๆอ่ะ..เลยพาไปหาหมอเด็กที่ชุมพร คุณหมอบอกปกติไม่มีอะไรนี่นา..แต่ในใจแม่ยังเถียง มันจะไม่มีได้ไง ก็เห็นอยู่มันเบี้ยวๆไงไม่รุ้..เลยหอบหิ้วกันไปหาหมอกระดูกที่สุราษฎร์..หลังจากหมอให้เดิน และเพ่งอยู่พักใหญ่ คำตอบคือ หมอบอกว่านู๋ต้นหอมไม่มีอุ้งเท้า ไม่ผิดปกติครับไม่มีอันตรายอะไรเลย แม่ถามย้ำๆว่า หมอแน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลตอนโต..คุณหมอบอกว่า..คือบางคนก็หายไปเองบางคนก็ยังเป็นอยุ่ อาจเดินดูเบี้ยวๆคล้ายเป็ด อาจเดินไม่สวยหรือใส่ส้นสูงไม่ได้ จะเมื่อยง่าย แต่ไม่มีอันตรายอะไรครับหมอรับรอง..แม่อึ้งไปนานค่ะ หมอคะ ไอ้..ไม่สวยเนี่ย มันน่ากลัวกว่าอันตรายอีกค่ะ คือคุณแม่รับไม่ได้จริงๆค่ะ ถ้าเด็กที่รูปร่างหน้าตาผิวพรรณจัดว่าสวยติดอันดับนัมเบอร์วัน(อิอิ ลูกชั้นสวยสุด) ใครเห็นต้องทัก ใครผ่านต้องเหลียวหลัง..แต่อนิจจานางเดินเหมือนเป็ด หมอว่าไม่เป็นไรเหรอคะ แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว สงสารลูก..หมองงกะความเยอะของหญิงแม่เลยแนะนำว่าต้องไป กทม. ให้ชื่อคุณหมอมาเสร็จสรรพและการันตีว่าอาจารย์หมอคนนี้หละ นัมเบอร์วันของประเทศในการรักษาเรื่องแบบนี้เลย
..ดิชั้นไม่รอช้า รีบหาข้อมูลทั้งจากอากู๋ จากพี่เพื่อนๆญาติโกโหติกาว่าหมอที้ไหนเด็ดสุด...สรุปมติเป็นเอกฉันท์ตามที่คุณหมอแนะนำ..คือท่านศาสตราจารย์นายแพทย์คลินิกเกรียติคุณ นายแพทย์ดิเรก อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งปัจจุบันท่านอายุราว80กว่าปี อยู่ที่ รพ.วิชัยยุทธ
..เมื่อได้ข้อมูลดังนั้นแม่รีบติดต่อที่ รพ เพื่อไปพบหมอ...แต่เชื่อมั้ยคะ โรงพยาบาลเอกชน น่าจะง่าย ไม่เลยค่ะ ต้องรอคิวคุณหมอนานมาก เพราะวันนึงท่านรับคนไข้ไม่เยอะและคนที่ต้องการพบท่านมีเยอะจริงๆค่ะ..คุยๆกะแผนกนัดแล้วรอหลายเดือนมาก แต่ด้วยความที่เป็นคนใจร้อนและคิดว่า เรื่องความงามของลูกแม่รอไม่ได้..เลยขอแผนกนัดให้ช่วยต่อสายไปที่พยาบาลหน้าห้องคุณหมอ เมื่อได้คุยกะคุณพยาบาลดิชั้นยกแม่น้ำทั้ง5มากล่าวอ้าง สุดท้ายเราได้คิวในอีก1สัปดาห์ถัดมา...และเราก็หอบหิ้วกันไป กทม. อีกครั้งค่ะ
...เมื่อมาถึงโรงพยาบาล นั่งรออย่างสบายเพราะทุกอย่างช่างต่างกับ รพ.ที่บ้านเราราวฟ้ากับเหวลึก เราก็ได้พบคุณหมอ...ท่านก็ถามว่าเป็นอย่างไร..คุณแม่ซึ่งอัดอั้นมานานรีบแถลงค่ะ คุณหมอคะ เท้าน้องด้านซ้ายอ่ะคะ แม่รุ้สึกว่าเบี้ยวๆ แต่ไม่มีใครสังเกตุเห็นเลยค่ะ มีแม่คนเดียว..ไม่เสียแรงที่เราดั้นด้นไปพบท่าน เพียงแว๊บแรกที่คุณหมอเหลือบมองเท้านู๋ต้นหอม ท่านก็บอกว่า อืมใช่ และทดสอบด้วยการจับนิ้วโป้งมาชนแขน ให้เท้าแขนบนโต๊ะและมันจะมีวิธีให้คะแนนในการทดสอบค่ะ(ขั้นตอนตรงนี้ใครสนใจถามได้ค่ะ) หลังจากนั้นก็มาทดสอบที่คุณแม่..สรุปผลที่ได้คือ นู๋ต้นหอมเป็นข้อหย่อนเอ็นข้อหลวม ซึ่งเป็นกรรมพันธ์จากฝ่ายแม่ค่ะ มาจากยีนส์ซึ่งคุณหมอบอกเป็นยีนส์เด่น คนที่เป็นแบบนี้จะมีพรสวรรค์นั่นคือพวกนักยิมนาสติก หรือคนที่ตัวอ่อน แบบเอาเท้ามาพาดคอได้ประมาณนั้น..ถามว่ามีอันตรายมั้ย ไม่มีแต่เมื่ออายุมากขึ้นอาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก..หรือบางคนอาจเดินไม่งามแต่บางคนก็หายไปเอง..แม่รีบนึกๆในตระกูลชั้นไม่มีใครเดินไม่งาม คือสวยทุกคนเพราะฉะนั้นเมื่อโตขึ้นนู๋ต้นหอมก็จะปกติ..แต่ถ้าไม่ปกติล่ะ ...เลยบอกคุณหมอว่า ให้คุณหมอจัดวิธีรักษาด้วยค่ะ..
..คณหมอสั่งตัดรองเท้าค่ะ ซึ่งมีช่างมาพร้อมอยู่ถัดจากห้องตรวจของคุณหมอ ช่างจะวัดขนาดเท้าและตัดรองเท้าตามออร์เดอร์ที่คุณหมอสั่ง..แม่สบายใจค่ะ กลับมาบ้านรอรองเท้าประมาณ1เดือน เมื่อได้รับรองเท้าเราก็ต้องหิ้วรองเท้ามาให้คุณหมอเป็นผู้สวมให้ที่รพ อีกครั้ง..เรียบร้อย สรุปนู๋ต้นหอมเธอมีรองเท้าประจำตำแหน่ง คุณหมอให้ใส่อย่างต่ำวันละ8ชั่วโมงค่ะ ราว4-5เดือนเปลี่ยนคู่ใหม่....
***งานนี้สิ่งที่ได้คือสบายแม่ไปต่อไปชั้นไม่ต้องshopรองเท้าให้ลูก ที่มี่อยู่40กว่าคู่รื้อออกขาย ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ อิอิ สบายไป
**แนะนำคุณแม่ๆสังเกตุเท้า การเดิน การวิ่งของคุณลูกให้ดีนะคะ ถ้ามีสิ่งผิดปกติเพียงนิดอย่าปล่อยไว้ค่ะ เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าโตขึ้นเค้าจะหายมั้ย ขนาดนู๋ต้นหอมไม่ได้มีอะไรมากแม่ยังวุ่นวายขนาดนี้ เพราะแม่คิดว่า มันคือสิ่งสำคัญในชีวิตลูกผู้หญิงนะคะ จะงามมั้ยคะแบบหน้าสวยแต่เดินไม่สวย แล้วจะขึ้นเวทีนางงามได้อย่างไร อิอิ แต่คุณพ่อเค้าจะบอกเสมอ ช่างเหอะ จะเป็นยังไงให้เค้าเป็นคนดีก็พอ ไม่ต้องสวยหรอก..แต่คุณแม่เถียงขาดใจเสมอ ...เหรอ ถ้างั้นไม่ไปจีบคนไม่มีตีนมาเป็นแฟนล่ะถ้าไม่ติดว่าต้องดูดี(อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะคะ) มาจีบคนสวยๆแบบชั้นทำไม5555 ชั้นไม่เชื่อเด็ดขาดยิ่งยุคปัจจุบันคนบ้าสวยกันขนาดนี้..ด้วยเหตุฉะนี้ล่ะค่ะ นู๋ต้นหอมถึงต้องใส่รองเท้าตลอดเวลาและไม่มีการใส่รองเท้าอื่นๆถ้าไม่จำเป็นค่ะ..คุณหมอคอนเฟริ์มว่า ไม่เกิน2ปี รับรองเท้าน้องจะสวยเริ่ด...
ใครสนใจข้อมูลติดต่อ ถามได้นะคะ
^^
แชร์ประสบการณ์ เรื่องเท้าของลูกค่ะ
ตัวแม่เองก็ไม่ได้รู้เรื่องมากมายนะคะ แต่อาศัยที่เป็นคนช่างสังเกตุลูก เลยมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
แชร์ประสบการณ์..เรื่องเท้านู๋ต้นหอมนะคะ...
**เริ่มตั้งแต่นู๋ต้นหอมเธอเดินได้ราว1ขวบแม่สังเกตุว่า เท้าน้องด้านซ้ายตรงบริเวณอุ้งเท้าด้านข้างด้านในมันจะเบี้ยวๆ บอกใครทุคนไม่มีใครดูออก นอกจากมานั่งเพ่งแบบติดๆ แต่ด้วยความที่ตัวแม่เองเป็นคนช่างสังเกตุมากเลยดูว่ามันไม่ปกติ และเวลาเจอเด็กอื่นๆก็เที่ยวแอบดูเค้า บางคนก็ตรงดีและมีบางคนที่เป็นเหมือนนู๋ต้นหอม..เมื่อเห็นดังนั้นจึงคิดว่าลูกเราไม่ปกติ
...แต่บอกก่อนนะคะว่า เวลาเดิน วิ่ง หรือทำอะไรจะไม่มีอะไรผิดปกติเลย นู๋ต้นหอมก็วิ่งเล่นได้เหมือนเด็กทั่วไปและไม่เคยมีใครมาทักด้วย แต่ด้วยความเป็นแม่เรื่องเยอะ คิดว่าเท้ามันดูเบี้ยวๆอ่ะ..เลยพาไปหาหมอเด็กที่ชุมพร คุณหมอบอกปกติไม่มีอะไรนี่นา..แต่ในใจแม่ยังเถียง มันจะไม่มีได้ไง ก็เห็นอยู่มันเบี้ยวๆไงไม่รุ้..เลยหอบหิ้วกันไปหาหมอกระดูกที่สุราษฎร์..หลังจากหมอให้เดิน และเพ่งอยู่พักใหญ่ คำตอบคือ หมอบอกว่านู๋ต้นหอมไม่มีอุ้งเท้า ไม่ผิดปกติครับไม่มีอันตรายอะไรเลย แม่ถามย้ำๆว่า หมอแน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลตอนโต..คุณหมอบอกว่า..คือบางคนก็หายไปเองบางคนก็ยังเป็นอยุ่ อาจเดินดูเบี้ยวๆคล้ายเป็ด อาจเดินไม่สวยหรือใส่ส้นสูงไม่ได้ จะเมื่อยง่าย แต่ไม่มีอันตรายอะไรครับหมอรับรอง..แม่อึ้งไปนานค่ะ หมอคะ ไอ้..ไม่สวยเนี่ย มันน่ากลัวกว่าอันตรายอีกค่ะ คือคุณแม่รับไม่ได้จริงๆค่ะ ถ้าเด็กที่รูปร่างหน้าตาผิวพรรณจัดว่าสวยติดอันดับนัมเบอร์วัน(อิอิ ลูกชั้นสวยสุด) ใครเห็นต้องทัก ใครผ่านต้องเหลียวหลัง..แต่อนิจจานางเดินเหมือนเป็ด หมอว่าไม่เป็นไรเหรอคะ แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว สงสารลูก..หมองงกะความเยอะของหญิงแม่เลยแนะนำว่าต้องไป กทม. ให้ชื่อคุณหมอมาเสร็จสรรพและการันตีว่าอาจารย์หมอคนนี้หละ นัมเบอร์วันของประเทศในการรักษาเรื่องแบบนี้เลย
..ดิชั้นไม่รอช้า รีบหาข้อมูลทั้งจากอากู๋ จากพี่เพื่อนๆญาติโกโหติกาว่าหมอที้ไหนเด็ดสุด...สรุปมติเป็นเอกฉันท์ตามที่คุณหมอแนะนำ..คือท่านศาสตราจารย์นายแพทย์คลินิกเกรียติคุณ นายแพทย์ดิเรก อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งปัจจุบันท่านอายุราว80กว่าปี อยู่ที่ รพ.วิชัยยุทธ
..เมื่อได้ข้อมูลดังนั้นแม่รีบติดต่อที่ รพ เพื่อไปพบหมอ...แต่เชื่อมั้ยคะ โรงพยาบาลเอกชน น่าจะง่าย ไม่เลยค่ะ ต้องรอคิวคุณหมอนานมาก เพราะวันนึงท่านรับคนไข้ไม่เยอะและคนที่ต้องการพบท่านมีเยอะจริงๆค่ะ..คุยๆกะแผนกนัดแล้วรอหลายเดือนมาก แต่ด้วยความที่เป็นคนใจร้อนและคิดว่า เรื่องความงามของลูกแม่รอไม่ได้..เลยขอแผนกนัดให้ช่วยต่อสายไปที่พยาบาลหน้าห้องคุณหมอ เมื่อได้คุยกะคุณพยาบาลดิชั้นยกแม่น้ำทั้ง5มากล่าวอ้าง สุดท้ายเราได้คิวในอีก1สัปดาห์ถัดมา...และเราก็หอบหิ้วกันไป กทม. อีกครั้งค่ะ
...เมื่อมาถึงโรงพยาบาล นั่งรออย่างสบายเพราะทุกอย่างช่างต่างกับ รพ.ที่บ้านเราราวฟ้ากับเหวลึก เราก็ได้พบคุณหมอ...ท่านก็ถามว่าเป็นอย่างไร..คุณแม่ซึ่งอัดอั้นมานานรีบแถลงค่ะ คุณหมอคะ เท้าน้องด้านซ้ายอ่ะคะ แม่รุ้สึกว่าเบี้ยวๆ แต่ไม่มีใครสังเกตุเห็นเลยค่ะ มีแม่คนเดียว..ไม่เสียแรงที่เราดั้นด้นไปพบท่าน เพียงแว๊บแรกที่คุณหมอเหลือบมองเท้านู๋ต้นหอม ท่านก็บอกว่า อืมใช่ และทดสอบด้วยการจับนิ้วโป้งมาชนแขน ให้เท้าแขนบนโต๊ะและมันจะมีวิธีให้คะแนนในการทดสอบค่ะ(ขั้นตอนตรงนี้ใครสนใจถามได้ค่ะ) หลังจากนั้นก็มาทดสอบที่คุณแม่..สรุปผลที่ได้คือ นู๋ต้นหอมเป็นข้อหย่อนเอ็นข้อหลวม ซึ่งเป็นกรรมพันธ์จากฝ่ายแม่ค่ะ มาจากยีนส์ซึ่งคุณหมอบอกเป็นยีนส์เด่น คนที่เป็นแบบนี้จะมีพรสวรรค์นั่นคือพวกนักยิมนาสติก หรือคนที่ตัวอ่อน แบบเอาเท้ามาพาดคอได้ประมาณนั้น..ถามว่ามีอันตรายมั้ย ไม่มีแต่เมื่ออายุมากขึ้นอาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก..หรือบางคนอาจเดินไม่งามแต่บางคนก็หายไปเอง..แม่รีบนึกๆในตระกูลชั้นไม่มีใครเดินไม่งาม คือสวยทุกคนเพราะฉะนั้นเมื่อโตขึ้นนู๋ต้นหอมก็จะปกติ..แต่ถ้าไม่ปกติล่ะ ...เลยบอกคุณหมอว่า ให้คุณหมอจัดวิธีรักษาด้วยค่ะ..
..คณหมอสั่งตัดรองเท้าค่ะ ซึ่งมีช่างมาพร้อมอยู่ถัดจากห้องตรวจของคุณหมอ ช่างจะวัดขนาดเท้าและตัดรองเท้าตามออร์เดอร์ที่คุณหมอสั่ง..แม่สบายใจค่ะ กลับมาบ้านรอรองเท้าประมาณ1เดือน เมื่อได้รับรองเท้าเราก็ต้องหิ้วรองเท้ามาให้คุณหมอเป็นผู้สวมให้ที่รพ อีกครั้ง..เรียบร้อย สรุปนู๋ต้นหอมเธอมีรองเท้าประจำตำแหน่ง คุณหมอให้ใส่อย่างต่ำวันละ8ชั่วโมงค่ะ ราว4-5เดือนเปลี่ยนคู่ใหม่....
***งานนี้สิ่งที่ได้คือสบายแม่ไปต่อไปชั้นไม่ต้องshopรองเท้าให้ลูก ที่มี่อยู่40กว่าคู่รื้อออกขาย ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ อิอิ สบายไป
**แนะนำคุณแม่ๆสังเกตุเท้า การเดิน การวิ่งของคุณลูกให้ดีนะคะ ถ้ามีสิ่งผิดปกติเพียงนิดอย่าปล่อยไว้ค่ะ เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าโตขึ้นเค้าจะหายมั้ย ขนาดนู๋ต้นหอมไม่ได้มีอะไรมากแม่ยังวุ่นวายขนาดนี้ เพราะแม่คิดว่า มันคือสิ่งสำคัญในชีวิตลูกผู้หญิงนะคะ จะงามมั้ยคะแบบหน้าสวยแต่เดินไม่สวย แล้วจะขึ้นเวทีนางงามได้อย่างไร อิอิ แต่คุณพ่อเค้าจะบอกเสมอ ช่างเหอะ จะเป็นยังไงให้เค้าเป็นคนดีก็พอ ไม่ต้องสวยหรอก..แต่คุณแม่เถียงขาดใจเสมอ ...เหรอ ถ้างั้นไม่ไปจีบคนไม่มีตีนมาเป็นแฟนล่ะถ้าไม่ติดว่าต้องดูดี(อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะคะ) มาจีบคนสวยๆแบบชั้นทำไม5555 ชั้นไม่เชื่อเด็ดขาดยิ่งยุคปัจจุบันคนบ้าสวยกันขนาดนี้..ด้วยเหตุฉะนี้ล่ะค่ะ นู๋ต้นหอมถึงต้องใส่รองเท้าตลอดเวลาและไม่มีการใส่รองเท้าอื่นๆถ้าไม่จำเป็นค่ะ..คุณหมอคอนเฟริ์มว่า ไม่เกิน2ปี รับรองเท้าน้องจะสวยเริ่ด...
ใครสนใจข้อมูลติดต่อ ถามได้นะคะ^^