ยาวหน่อยนะคะ

ขอสอบถามเพื่อเป็นแนวทางค่ะ
เจ้าหนี้หลายรายเดือดร้อนกับปัญหาการเงินและไม่อยากให้เป็นหนี้สูญ รวมทั้งเจ็บใจที่เสียรู้เสียความรู้สึกจึงอยากเอาเงินคืนให้ได้ค่ะ

นาย ก และนาง ข แต่งงาน+จดทะเบียนกัน มีบุตร 1 คน จดทะเบียนหย่าเมื่อปี 2551 เมื่อรู้ตัวว่าเป็นหนี้จ่ายไม่ไหวและเตรียมไม่จ่าย
มีบ้านเป็นชื่อนาย ก 1 หลัง ปัจจุบันติดธนาคารเหลือ 1.5 แสน  (ไม่ใช่เจ้าของบัตรเครดิตที่เป็นลูกหนี้)

นาย ก เป็นหนี้บัตรเครดิตและสารพัดบัตร รวมเงินต้นประมาณ 5 แสน+  งวดสุดท้ายปี 2551 ปัจจุบันยังไม่ถูกฟ้อง
มีเพียงหนังสือทวงเงินและขู่จะดำเนินการตามกฏหมายจากสำนักงานกฏหมายเท่านั้น
เป็นหนี้เงินกู้ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ยและไม่มีหนังสือสัญญา รวมเงินประมาณ 2 ล้าน (เจ้าหนี้เป็นเพื่อนๆ, อดีตเพื่อนร่วมงานและญาติพี่น้อง)

ปี 2550-2551 นาย ก เริ่มยืมเงินบรรดาเจ้าหนี้ปัจจุบันโดยทุกคนไม่ทราบว่านาย ก ยืมใครมาบ้างแล้ว
โดยบอกว่าอีก 2 เดือนจะคืนซึ่งในอดีตเคยทำแบบนี้ประจำและได้คืน จึงไม่ทำสัญญากันไว้
โดยที่ยังไม่คืนเงินใคร ต่อมานาย ก ไปอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อทำงานที่ร้านอาหาร
เมื่อเจ้าหนี้ทราบก็ตกใจแต่ติดต่อนาย ก ไม่ได้ ส่วนนาง ข บอกว่าถ้านาย ก ส่งเงินมาจะจ่ายให้
นาย ก ทำงานร้านอาหารไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวีซ่าหมดอายุ
ระหว่างนั้นได้ฝากเงินดอลล่าห์มากับคนรู้จักเพื่อส่งให้ นาง ข ใช้จ่ายครั้งละ 1 - 2 แสน ปีละ 2-3 ครั้ง
ซึ่งเจ้าหนี้พยายามทวงเงินหลายครั้ง นาง ข ปฏิเสธไม่จ่ายเงินให้
ทราบมาว่าบ้านที่เป็นชื่อนาย ก นั้นนาง ข ได้ผ่อนชำระอยู่ทุกเดือน  แต่หนี้บัตรต่างๆ นาง ข บอกกับเพื่อนตนว่าจะปล่อยให้หมดอายุไปเอง

1 เดือนก่อน นาย ก จ้างหญิงพลเมืองอเมริกาเพื่อแต่งงานและได้กรีนการ์ด 2 ปี และวางแผนจะรับรองกรีนการ์ดให้บุตรด้วย

ขณะนี้ นาย ก กลับมาประเทศไทยกำหนดประมาณ 1 เดือน แต่ไม่ได้ติดต่อเจ้าหนี้รายใดๆ ทั้งยังไปนัดพบ นาง ข และบุตรที่จังหวัดอื่น
และสืบทราบมาอีกว่า นาย ก ประกาศขายบ้าน 2 ล้าน+ และมีผู้สนใจหลายรายกำลังอยู่ระหว่างติดต่อธนาคาร
ซึ่งนาย ก ได้ทำเอกสารโอนและใบมอบอำนาจให้นาง ข ไว้แล้ว (เป็นบ้านที่ปล่อยเช่า นาง ข และบุตรอาศัยอยู่ที่อื่น)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอสอบถามท่านผู้รู้ค่ะว่า "จะทำอย่างไรเพื่อยับยั้งไม่ให้นาย ก ออกนอกประเทศอีก หรือทำให้ถูกถอนกรีนการ์ดค่ะ"

ส่วนเรื่องหนี้ของนาย ก นั้นเจ้าหนี้ (20 กว่าราย) ได้รวมตัวกันไปพบพ่อแม่นาย ก และนาง ข
เพื่อแจ้งว่านาย ก เป็นหนี้เท่าไหร่อย่างไรบ้างเพื่อขอให้ช่วยเจรจาคืนหนี้ เจ้าหนี้จึงได้ทราบเรื่องราวดังที่กล่าวมาข้างต้น
และหวังว่าอาจได้เงินคืนจากการขายบ้านของนาย ก ซึ่งพ่อแม่ของนาย ก และนาง ข ก็รับปากว่าจะช่วยดูแลให้
(พ่อแม่ทั้ง 4 ท่านไม่ทราบมาก่อนว่านาย ก เป็นหนี้เพื่อนๆ และอดีตเพื่อนร่วมงาน ทราบเพียงเป็นหนี้ญาติๆ และธนาคาร
ซึ่งท่านก็ช่วยชดใช้ให้เฉพาะญาติเท่าที่มีกำลังทรัพย์ กระทั่งขายรถ ที่ดินและทองไป ส่วนธนาคาร นาง ข บอกว่าจะชำระให้เองซึ่งไม่จริง)

ขอขอบคุณที่อ่านและแสดงความเห็นนะคะ เราจะนำแนวทางไปช่วยเพื่อนที่เป็นเจ้าหนี้ เค้ากำลังเดือดร้อนอยู่น่ะค่ะ
ตัวเราเองก็ถูกยืมเงินหลักแสนซึ่งไม่หวังแล้วเหมือนกัน ถ้าได้คืนมาเราจะเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะเลยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ