ร่องยาแนวกระเบื้อง

ข้อดี - กระบื้องทุกแผ่นจะมีความไม่เรียบเสมอกันในแต่ละมุมอยู่แต่เดิมเนื่องจากการผลิต พอผ่านมาถึงมือช่างปู ความไม่แน่นอนในการปู จะทำให้เกิดความไม่ราบเรียบต่อเนื่องของกระเบื้องแต่ละแผ่น หรือที่เราเรียกว่า"สะดุด"นั่นเอง อาจจะเดินแล้วสะดุดฝ่าเท้า มากน้อยตามแต่ปัจจัยดังกล่าวมา ร่องยาแนวกระเบื้อง และการมนขอบกระเบื้องต่างก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ความรู้สึก "สะดุด" นั้นลดลงไป นอกจากจะลดสะดุดจาการสัมผัสแล้ว ยังลดการสะดุดของมุมมองด้วย เนื่องจาการปูที่ใช้ทักษะมนุษย์ ย่อมไม่มีวันตรงแนวเป๊ะได้อย่างสมบูรณ์

กระเบื้องตัดขอบ ได้เข้ามาแทนที่กระเบื้องแบบมนขอบ อันเนื่องมาจากได้ความรู้สึกเหมือนการปูหิน ดูหรูหรา ขอบคมสวยงาม สามารถปูชิดได้มากขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้มีราคาแพงขึ้นด้วย กระเบื้องตัดขอบจากทางยุโรปค่อนข้างมีคุณภาพสูง ในแต่ละมุมละแผ่นราบเรียบเสมอกันดี ปูเว้นร่องยาแนว 1 มม.ได้สวยงาม แต่กระเบื้องตัดขอบจากจีนที่ราคาต่ำกว่า คุณภาพก็ต่ำตามลงมา แต่ละขอบละมุมมันมีสูงต่ำแตกต่างกัน ช่างปูกระเบื้องกับเจ้าของบ้านทะเลาะกันมาเยอะเพราะกระเบื้องจีน อันเบื้องต้นเมื่อพบว่าไม่เรียบเนียนก็จะโทษฝีมือช่างปูก่อน ร่องยาแนวที่กว้างขึ้นมาอีกนิดจะช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้

สำหรับห้องน้ำ การปูกระเบื้องตัดขอบ(หรือหิน)โดยการปูชิด และไม่ยาแนวถือเป็นความเสี่ยง เนื่องจากการใช้งานห้องน้ำนั้นมีความเปียกชื้น หรือกระทั่งท่วมน้ำอยู่เสมอๆ น้ำที่ไหลผ่านกระเบื้องเมื่อถึงบริเวณขอบจะไหลซึมลงตามร่องกระเบื้องแม้คุณจะพยายามปูให้ชิดจนเหลือความห่างเพียง 0.1 มม.ได้ก็ตาม เมื่อน้ำไหลลงไปก็มักจะซึมค้างอยู่ใต้กระเบื้อง และมีโอกาสสูงที่จะไหลซึมผ่านลงไปตามรอยร้าวเล็กๆของพื้น ทะลุลงไปห้องชั้นล่างหรือซึมมาออกที่ขอบผนังได้ การยาแนวพื้นห้องน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆเพื่อให้น้ำไหลผ่านผิวกระเบื้องและขอบยาแนวจนไหลลงท่อระบายน้ำไป และการที่จะพยายามดันกระเบื้องให้ชิดกันมากที่สุดแล้วป้ายยาแนวเป็นเส้นเล็กจิ๋วเพื่อความสวยงาม จะทำให้เนื้อยาแนวไม่เพียงพอต่อการยึดเกาะกับกระเบื้องและหลุดร่อนออกมาได้ง่าย ปัญหาน้ำซึมก็จะตามมา ดังนั้นขอแนะนำว่าอย่าหลีกเลี่ยงการยาแนวในห้องน้ำแม้คุณจะทำระบบกันซึมพื้นไว้ดีแค่ไหนก็ตาม และร่องยาแนวที่ทำงานง่าย ปาดเนื้อกาวยาแนวได้ลงเต็มร่องดีที่สุดมีขนาดตั้งแต่ 2 มม.ขึ้นไป เล็กกว่านั้น ท่านต้องรับความเสี่ยงเอาเอง