เพื่อนๆนักลงทุนที่รอการจ่ายเงินปันผลกองทุน BSIRICG บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดได้ประกาศงดจ่ายเงินปันผล 7 ตุลาคม 2556
เรียน ท่านผู้ถือหน่วย
ตามที่กองทุน BSIRICG มีนโยบายการจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดย บลจ.มีความตั้งใจที่จะจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยทุกๆ ไตรมาส หากกระทำได้นั้น ในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน กองทุน BSIRICG สามารถจ่ายปันผลได้ทุกไตรมาส (รายละเอียดตามตารางประวัติการจ่ายปันผล) แต่ในช่วงระหว่างเดือน พ.ค. 56 – ก.ค. 56 กองทุนไม่สามารถจ่ายปันผลได้เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงมามากในช่วงเวลาดังกล่าว โดย SET Index ลดลงจาก 1,600 จุด มาอยู่ที่ประมาณ 1,400 จุด อันเนื่องมาจากจากปัจจัยลบทั้งในประเทศได้แก่ เศรษฐกิจชะลอตัว และปัจจัยลบภายนอกได้แก่ การ tapering QE ซึ่งส่งผลให้กองทุน BSIRICG มีผลการดำเนินงานขาดทุนในระหว่างงวดเพราะว่ากองทุนต้องใช้ราคาปิดของหุ้นที่กองทุนลงทุนมาคำนวณ NAV ของกองทุน ดังนั้น แม้ว่ากองทุนจะได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นเข้ากองทุนมามาก และกองทุนได้ขายทำกำไรเป็นระยะๆ แต่เมื่อนับรวมการประเมินมูลค่ายุติธรรม (Mark-to-Market) ที่ต้องใช้ราคาปิดของหุ้นที่กองทุนลงทุนมาคำนวณ NAV แล้ว กองทุนยังมีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) อยู่ จึงไม่สามารถจ่ายปันผลในช่วงดังกล่าวได้ เพราะมีข้อกำหนดว่ากองทุนจะจ่ายเงินปันผลได้ก็ต่อเมื่อผลการดำเนินงานในช่วงนั้นๆ ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก เมื่อเทียบกับ NAV ณ วันสิ้นงวดก่อนหน้า จึงต้องขออภัยท่านผู้ถือหน่วยมา ณ ที่นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นได้ปรับฐานจนมีเสถียรภาพมากขึ้น และ SET Index สามารถยืนระดับได้ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/56 และตลาดได้รับรู้ประเด็นการ tapering QE ไปมากแล้ว จึงน่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงานจากนี้ไปฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้กองทุน BSIRICG มีโอกาสจะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกในอนาคต ทั้งนี้ ประเด็นการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐ (Government shutdown) ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 56 และการปรับเพิ่มเพดานหนี้ (Debt Ceiling) นั้นก็ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ตลาดอาจจะหวั่นไหว จนส่งผลกระทบต่อ SET Index และจะส่งผลมายังผลการดำเนินงานของกองทุนได้ด้วยเหตุผลข้างต้น
ท่านผู้ถือหน่วยคงทราบดีว่าตลาดหุ้นนั้นมักจะถูกกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งบวกและลบซึ่งก่อให้เกิดความผันผวนอยู่เสมอๆ แต่ไม่ว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมากน้อยเพียงใด ทีมงานจัดการกองทุนของ บลจ.บัวหลวง ก็จะยังคงยึดมั่นในนโยบายและหลักการลงทุนของกองทุนที่เน้นให้น้ำหนักลงทุนกับหุ้นของกิจการที่ยังมีแนวโน้มที่ดี มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี และมีบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนโอกาสที่จะจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มมูลค่าการลงทุนของกองทุนได้ในอนาคต
จึงเรียนท่านผู้ถือหน่วยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และคงความมั่นใจที่จะถือหน่วยลงทุนต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ขอบคุณข้ิอมูลจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดhttp://www.bblam.co.th/web2/newsDetail.php
ประกาศ งดจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล
เรียน ท่านผู้ถือหน่วย
ตามที่กองทุน BSIRICG มีนโยบายการจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดย บลจ.มีความตั้งใจที่จะจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยทุกๆ ไตรมาส หากกระทำได้นั้น ในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน กองทุน BSIRICG สามารถจ่ายปันผลได้ทุกไตรมาส (รายละเอียดตามตารางประวัติการจ่ายปันผล) แต่ในช่วงระหว่างเดือน พ.ค. 56 – ก.ค. 56 กองทุนไม่สามารถจ่ายปันผลได้เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงมามากในช่วงเวลาดังกล่าว โดย SET Index ลดลงจาก 1,600 จุด มาอยู่ที่ประมาณ 1,400 จุด อันเนื่องมาจากจากปัจจัยลบทั้งในประเทศได้แก่ เศรษฐกิจชะลอตัว และปัจจัยลบภายนอกได้แก่ การ tapering QE ซึ่งส่งผลให้กองทุน BSIRICG มีผลการดำเนินงานขาดทุนในระหว่างงวดเพราะว่ากองทุนต้องใช้ราคาปิดของหุ้นที่กองทุนลงทุนมาคำนวณ NAV ของกองทุน ดังนั้น แม้ว่ากองทุนจะได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นเข้ากองทุนมามาก และกองทุนได้ขายทำกำไรเป็นระยะๆ แต่เมื่อนับรวมการประเมินมูลค่ายุติธรรม (Mark-to-Market) ที่ต้องใช้ราคาปิดของหุ้นที่กองทุนลงทุนมาคำนวณ NAV แล้ว กองทุนยังมีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) อยู่ จึงไม่สามารถจ่ายปันผลในช่วงดังกล่าวได้ เพราะมีข้อกำหนดว่ากองทุนจะจ่ายเงินปันผลได้ก็ต่อเมื่อผลการดำเนินงานในช่วงนั้นๆ ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก เมื่อเทียบกับ NAV ณ วันสิ้นงวดก่อนหน้า จึงต้องขออภัยท่านผู้ถือหน่วยมา ณ ที่นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นได้ปรับฐานจนมีเสถียรภาพมากขึ้น และ SET Index สามารถยืนระดับได้ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/56 และตลาดได้รับรู้ประเด็นการ tapering QE ไปมากแล้ว จึงน่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงานจากนี้ไปฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้กองทุน BSIRICG มีโอกาสจะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกในอนาคต ทั้งนี้ ประเด็นการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐ (Government shutdown) ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 56 และการปรับเพิ่มเพดานหนี้ (Debt Ceiling) นั้นก็ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ตลาดอาจจะหวั่นไหว จนส่งผลกระทบต่อ SET Index และจะส่งผลมายังผลการดำเนินงานของกองทุนได้ด้วยเหตุผลข้างต้น
ท่านผู้ถือหน่วยคงทราบดีว่าตลาดหุ้นนั้นมักจะถูกกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งบวกและลบซึ่งก่อให้เกิดความผันผวนอยู่เสมอๆ แต่ไม่ว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมากน้อยเพียงใด ทีมงานจัดการกองทุนของ บลจ.บัวหลวง ก็จะยังคงยึดมั่นในนโยบายและหลักการลงทุนของกองทุนที่เน้นให้น้ำหนักลงทุนกับหุ้นของกิจการที่ยังมีแนวโน้มที่ดี มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี และมีบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนโอกาสที่จะจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มมูลค่าการลงทุนของกองทุนได้ในอนาคต
จึงเรียนท่านผู้ถือหน่วยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และคงความมั่นใจที่จะถือหน่วยลงทุนต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ขอบคุณข้ิอมูลจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดhttp://www.bblam.co.th/web2/newsDetail.php