กระทู้นี้เขียนในฐานะคนมี "วง" เหมือนกันครับ
แต่ไม่ใช่ วงใ นหรือ วงนอก
เขียนในฐานะคนชนชั้น "วงศ์คำเหลา"
จะเห็นครับ ว่าแหลมาร์คนั้น เป็นคนไม่มีอะไรเลย
นอกจากคำว่า "จบอ๊อกซ์ฟอร์ด" แปะหน้าแงให้ชาวบ้านเห็น กับ "ดีแต่พูด" เท่านั้น
ไม่ว่าการบริหารงาน ไม่ว่าการตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องความจริงใจต่อบุคคลอื่น
ล้วนถูกกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้เรื่องทั้งสิ้น
แถมเป็นคนที่ "คิดเอาแต่ได้" อยู่ตลอด นี่คงเพราะชีวิตเคยแต่ได้กับได้
ทุกข์ยากแสนสาหัสของแหลมาร์คก็คือ เหงา อดทนกับการเีรียนที่อังกฤษเท่านั้น
(ซึ่งทุกข์สาหัสแบบนี้มีคนไทยที่ขาดโอกาสหลายล้านคนอยากได้เหลือเกิน)
จากนั้น ชีวิตก็มีแต่ได้กับได้ มีคนจัดการให้ทั้งนั้น
ประสบการณ์ การตัดสินใจ การให้ความสำคัญกับคนอื่น ให้เกียรติคนอื่นที่ขัดความได้ของตัวเองจึงแทบไม่มีในความคิด
คิดเสมอว่าตัวเองเก่ง ฉลาด ดีกว่าคนอื่น
พฤติกรรมจึงเหมือนคนป่วย
พฤติกรรมทางการเมืองและการบริหารในฐานะนายกฯของแหลมาร์ค
มันรู้สึกได้ครับ ว่าเป็นพฤติกรรมที่มีคนอื่นบอกบท มีคนอื่นชักจูง และคล้อยตามคนตามสถานการณ์ไปเรื่อย
ขาดการไตร่ตรองพิจารณาและตัดสินใจอย่างรอบคอบรัดกุม
ผมว่ามีเรื่องเดียวที่แหลมาร์คตัดสินใจเองแบบคือเรื่องยุบสภาฯ (ซึ่งก็คือการตัดสินใจที่ผิดมหันต์)
ซึ่งพอพูดออกทีวีไปแล้วว่าจะยุบสภาฯในวันนั้นวันนี้ มันจึงกลับหลังหันไม่ได้ แม้ใครจะไม่เห็นด้วย
"อำนาจ" นั้น เขาเล่นอำนาจเป็นครับ ใช้อำนาจเป็น
(ไม่เหมือนทักษิณ ที่พอมีอำนาจหน่อยก็ชอบโชว์พาวตลอด บ้านนอกจริง ๆ
อำนาจน่ะ ต้องคุมมันให้ดี มันไม่ใช่ขนมหวาน แต่มันคืองูพิษ ทักษิณไม่เคยหลาบจำ)
เขาถึงครองและกุมอำนาจมาได้ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
เขารู้จักเลือกใช้คน หนุนคน เพื่อประโยชน์ของอำนาจเอง
แต่หากใครไม่ไหว เขาก็สละทิ้งครับ ไม่เก็บเอาไว้ให้เป็นปัญหากับอำนาจเองหรอก
ศึกษาประวัติการเมืองไทยดูสิครับ จะเห็นได้ชัดเจน
ดูกรณี ตุลาคม 16 ตุลาคม 19 ดูกรณีพฤษภาคม 35
"อำนาจ" บริหารจัดการได้เนียนสุด ๆ เลย
แต่สำหรับกรณีราชประสงค์ในปี 2553 นี่
คนที่อำนาจเลือกใช้มันไม่ได้เรื่องครับ โดยเฉพาะคำว่า "ไม่รับนิรโทษกรรมเด็ดขาด"
(ก็คงคิดว่า อำนาจจะอุ้มให้รอดนั่นแหละครับ แต่ไม่คิดว่า ถ้าอุ้มให้รอดได้จริง อำนาจจะ "เสีย" ไปด้วยแค่ไหน)
การบอกว่าไม่รับนิรโทษกรรมเด็ดขาด จีงเป็นการพูดแบบปิดทางออก เป็นการพูดแบบเด็กเถียงเอาชนะ
เรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนกัน
แสดงออกชัดเจนเหลือเกินว่าไม่กลัวใครเพราะเส้นใหญ่ แบบนี้อำนาจเดือดร้อนครับ
แหลมาร์คนั้น เพราะ "คิดน้อย" เลย "เชื่อ" วงในบางวง
จึงทำให้แต่งตั้ง ผบ.ตร. ไม่ได้เป็นปี
ซึ่งเรื่องนี้ ทำให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องลาออกจากตำแหน่ง
เพราะ "ขอ" ตำแหน่ง ผบ.ตร. ให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ไม่สำเร็จ
แหลมาร์คไม่สนว่าใคร "ขอ" มา ตะบันจะตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อย่างเดียว
ก็คิดดูครับ ก.ตร. ที่ลงเสียงโหวตเลือก ผบ.ตร. ยังไม่กล้าโหวตเลือกปทีปเพราะรู้ดีว่าใคร "ขอ" จุมพลมา
แต่แหลไม่สน
เมื่อตั้งปทีปไม่ได้ ก.ตร.ไม่โหวตให้ ก็ไม่ตั้ง แต่งตั้งให้ปทีปรักษาการไปเลยเป็นปี
งานนี้ Season Change เมื่อไร แหลอาจถึงขั้นหัวขาดครับ
เมื่อย จบ
good night
เห็นจากเฟซบุคหม่อมเต่านาแล้ว อยากเสริมอะไรนิดหน่อยครับ เพราะผมรักมาร์ค
กระทู้นี้เขียนในฐานะคนมี "วง" เหมือนกันครับ
แต่ไม่ใช่ วงใ นหรือ วงนอก
เขียนในฐานะคนชนชั้น "วงศ์คำเหลา"
จะเห็นครับ ว่าแหลมาร์คนั้น เป็นคนไม่มีอะไรเลย
นอกจากคำว่า "จบอ๊อกซ์ฟอร์ด" แปะหน้าแงให้ชาวบ้านเห็น กับ "ดีแต่พูด" เท่านั้น
ไม่ว่าการบริหารงาน ไม่ว่าการตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องความจริงใจต่อบุคคลอื่น
ล้วนถูกกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้เรื่องทั้งสิ้น
แถมเป็นคนที่ "คิดเอาแต่ได้" อยู่ตลอด นี่คงเพราะชีวิตเคยแต่ได้กับได้
ทุกข์ยากแสนสาหัสของแหลมาร์คก็คือ เหงา อดทนกับการเีรียนที่อังกฤษเท่านั้น
(ซึ่งทุกข์สาหัสแบบนี้มีคนไทยที่ขาดโอกาสหลายล้านคนอยากได้เหลือเกิน)
จากนั้น ชีวิตก็มีแต่ได้กับได้ มีคนจัดการให้ทั้งนั้น
ประสบการณ์ การตัดสินใจ การให้ความสำคัญกับคนอื่น ให้เกียรติคนอื่นที่ขัดความได้ของตัวเองจึงแทบไม่มีในความคิด
คิดเสมอว่าตัวเองเก่ง ฉลาด ดีกว่าคนอื่น
พฤติกรรมจึงเหมือนคนป่วย
พฤติกรรมทางการเมืองและการบริหารในฐานะนายกฯของแหลมาร์ค
มันรู้สึกได้ครับ ว่าเป็นพฤติกรรมที่มีคนอื่นบอกบท มีคนอื่นชักจูง และคล้อยตามคนตามสถานการณ์ไปเรื่อย
ขาดการไตร่ตรองพิจารณาและตัดสินใจอย่างรอบคอบรัดกุม
ผมว่ามีเรื่องเดียวที่แหลมาร์คตัดสินใจเองแบบคือเรื่องยุบสภาฯ (ซึ่งก็คือการตัดสินใจที่ผิดมหันต์)
ซึ่งพอพูดออกทีวีไปแล้วว่าจะยุบสภาฯในวันนั้นวันนี้ มันจึงกลับหลังหันไม่ได้ แม้ใครจะไม่เห็นด้วย
"อำนาจ" นั้น เขาเล่นอำนาจเป็นครับ ใช้อำนาจเป็น
(ไม่เหมือนทักษิณ ที่พอมีอำนาจหน่อยก็ชอบโชว์พาวตลอด บ้านนอกจริง ๆ
อำนาจน่ะ ต้องคุมมันให้ดี มันไม่ใช่ขนมหวาน แต่มันคืองูพิษ ทักษิณไม่เคยหลาบจำ)
เขาถึงครองและกุมอำนาจมาได้ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
เขารู้จักเลือกใช้คน หนุนคน เพื่อประโยชน์ของอำนาจเอง
แต่หากใครไม่ไหว เขาก็สละทิ้งครับ ไม่เก็บเอาไว้ให้เป็นปัญหากับอำนาจเองหรอก
ศึกษาประวัติการเมืองไทยดูสิครับ จะเห็นได้ชัดเจน
ดูกรณี ตุลาคม 16 ตุลาคม 19 ดูกรณีพฤษภาคม 35
"อำนาจ" บริหารจัดการได้เนียนสุด ๆ เลย
แต่สำหรับกรณีราชประสงค์ในปี 2553 นี่
คนที่อำนาจเลือกใช้มันไม่ได้เรื่องครับ โดยเฉพาะคำว่า "ไม่รับนิรโทษกรรมเด็ดขาด"
(ก็คงคิดว่า อำนาจจะอุ้มให้รอดนั่นแหละครับ แต่ไม่คิดว่า ถ้าอุ้มให้รอดได้จริง อำนาจจะ "เสีย" ไปด้วยแค่ไหน)
การบอกว่าไม่รับนิรโทษกรรมเด็ดขาด จีงเป็นการพูดแบบปิดทางออก เป็นการพูดแบบเด็กเถียงเอาชนะ
เรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนกัน
แสดงออกชัดเจนเหลือเกินว่าไม่กลัวใครเพราะเส้นใหญ่ แบบนี้อำนาจเดือดร้อนครับ
แหลมาร์คนั้น เพราะ "คิดน้อย" เลย "เชื่อ" วงในบางวง
จึงทำให้แต่งตั้ง ผบ.ตร. ไม่ได้เป็นปี
ซึ่งเรื่องนี้ ทำให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องลาออกจากตำแหน่ง
เพราะ "ขอ" ตำแหน่ง ผบ.ตร. ให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ไม่สำเร็จ
แหลมาร์คไม่สนว่าใคร "ขอ" มา ตะบันจะตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อย่างเดียว
ก็คิดดูครับ ก.ตร. ที่ลงเสียงโหวตเลือก ผบ.ตร. ยังไม่กล้าโหวตเลือกปทีปเพราะรู้ดีว่าใคร "ขอ" จุมพลมา
แต่แหลไม่สน
เมื่อตั้งปทีปไม่ได้ ก.ตร.ไม่โหวตให้ ก็ไม่ตั้ง แต่งตั้งให้ปทีปรักษาการไปเลยเป็นปี
งานนี้ Season Change เมื่อไร แหลอาจถึงขั้นหัวขาดครับ
เมื่อย จบ
good night