Gravity
หนัง Sci-fi กำกับโดย Alfonso Cuarón (อัลฟอนโซ กวารอน) ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Academy Award ผลงานเด่นๆ เช่น Y tu mamá también แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน และ Children of Men ผู้เชี่ยวชาญในการกำกับ Long Take (การถ่ายต่อเนื่องยาวๆ แบบไม่มี cut หรือตัดต่อเลย) ซึ่งมีคน (น้องชาย) บอกมาว่าเรื่อง Gravity นั้นเค้าทำได้ดีมากๆ ถ่ายลื่นจนไม่คิดว่าเป็น long take (ส่วนไอ่เรานั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเรื่อง long take อะไรร๊อก ไม่ได้จบการทำหนังมา ก็ดูเพลินๆไป แต่ตอนนี้รู้และ )
Gravity เป็นเรื่องราวของ ด๊อกเตอร์ ไรอัน สโตน (แซนดร้า บลูล๊อค) และ แมท คลูวาสกี้ (จอร์จ คลูนี่) ที่ต้องไปซ่อมดาวเทียมนอกโลก และก็ต้องมีเหตุให้ทั้ง 2 เคว้งลอยอยู่ในอวกาศ เค้าจะทำอะไร ยังไง ต้องไปดูเอง
หนังนำเสนอเพียงแค่ 90 นาที ที่เป็นฉากอวกาศทั้งเรื่อง ซึ่งถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม ทำ CG ได้ดีมากทีเดียวสมจริง (ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆเป็นไงเพราะไม่เคยออกนอกโลก แต่ดูแล้วรู้สึกว่าจริง 555) CG ทั้งเรื่องเลย เรื่องนี้นางเอกอย่างแซนดร้า บลูล๊อค จะค่อนข้างรับภาระหนักในการแสดงพอสมควร (หอบเหนื่อยมาก แอบเหนื่อยแทน 555) เอาเป็นว่าแสดงบทบาทได้ดี แต่โดนส่วนตัวแล้วในเรื่องชอบจอร์จ คลูนี่มากกว่า (เพราะอะไรไปอ่านส่วนสปอย)
เรื่องนี้เป็นหนังที่มีฉากระเบิดที่ไม่มีเสียงระเบิดเลย เพราะในอวกาศเป็นสุญญากาศ เสียงจึงไม่สามารถส่งคลื่นผ่านได้ (การเดินทางของเสียงต้องอาศัยการสั่นของโมเลกุลของตัวกลาง ดังนั้นเสียงจะเดินทางได้เร็วขึ้นหากตัวกลางมีความหนาแน่นมาก ทำให้เสียงเดินทางได้เร็วในของแข็ง) และมีฉากลอยหมุนติ้ว ติ้ว ติ้ว เยอะทีเดียว ซึ่งคนไม่ชอบอาจดูแล้วเวียนหัวได้ โดนส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบหนังอวกาศสักเท่าไหร่ เพราะตอนเด็กๆไปท้องฟ้าจำลองทีไรหลับตลอด แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้ดูแล้วไม่ได้ชวนหลับ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ ถือว่าก็น่าติดตามอยู่ทีเดียว แนะนำให้ไปดู IMAX ค่ะ น่าจะดีกว่า (ไปดูธรรมดามาเพราะไปไม่ทันฉาย IMAX)
ให้ 7/10 สำหรับคนที่ไม่ชอบอวกาศอย่างฉัน ส่วนคนที่ชอบอวกาศอย่างน้องชายให้ 8.5/10
(นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นจากเนื้อเรื่อง แสง สี เสียง และอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิดต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ค่ะ)
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
...........................สปอย…………………………………….
- ดูแล้วแอบรู้สึกหงุดหงิดนิดๆว่าทำไมนางเอกจึงไม่มีสติเอาซะเล้ยยยยยยยอุตส่าเก่งขนาดออกไปทำงานนอกโลก แต่พอคิดหลักตามจริง เออเว้ย...ใครๆคงจะเป็น ถ้าเจออย่างงั้นเข้าใครจะไปชิลลงฟระ
- จอร์จ คลูนี่ ชิลมาก มีสติมาก พูดมาก มากๆ ชอบๆๆๆ เท่ฝุดๆ
- ชอบฉากที่แซนดร้า บลูล๊อคเข้ามาในยานแล้วถอดชุดอวกาศออก มันเหมือนทารกที่อยู่ในครรภ์เลย สวยงามมาก หนังคงตั้งใจจะสื่อออกมาเสมือนว่าเป็นการเกิดใหม่ จากการรอดตายเคว้งคว้างในอวกาศ และเมื่อลงสู่โลกก็เริ่มหัดเดิน เหมือนเด็กที่เพิ่งเกิดและเติบโตอยู่รอด (การที่อยุ่นอกโลกนานๆในระบบสุญญากาศคงทำให้ปรับสภาพในการเดินทรงตัวลำบากอยุ่ในตอนแรก)
- แอบมีผีด้วยอ่า....เหมือนหนังไทยเบยยยยย 5555
- ดูแล้วคิดถึง Cast away อารมณ์เดียวๆกัน แค่เปลี่ยนสถานที่ติดจากเกาะเป็นอวกาศ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบ Cast away มากกว่าเยอะๆเลย
[CR] Review หนังเรื่อง Gravity
หนัง Sci-fi กำกับโดย Alfonso Cuarón (อัลฟอนโซ กวารอน) ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Academy Award ผลงานเด่นๆ เช่น Y tu mamá también แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน และ Children of Men ผู้เชี่ยวชาญในการกำกับ Long Take (การถ่ายต่อเนื่องยาวๆ แบบไม่มี cut หรือตัดต่อเลย) ซึ่งมีคน (น้องชาย) บอกมาว่าเรื่อง Gravity นั้นเค้าทำได้ดีมากๆ ถ่ายลื่นจนไม่คิดว่าเป็น long take (ส่วนไอ่เรานั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเรื่อง long take อะไรร๊อก ไม่ได้จบการทำหนังมา ก็ดูเพลินๆไป แต่ตอนนี้รู้และ )
Gravity เป็นเรื่องราวของ ด๊อกเตอร์ ไรอัน สโตน (แซนดร้า บลูล๊อค) และ แมท คลูวาสกี้ (จอร์จ คลูนี่) ที่ต้องไปซ่อมดาวเทียมนอกโลก และก็ต้องมีเหตุให้ทั้ง 2 เคว้งลอยอยู่ในอวกาศ เค้าจะทำอะไร ยังไง ต้องไปดูเอง
หนังนำเสนอเพียงแค่ 90 นาที ที่เป็นฉากอวกาศทั้งเรื่อง ซึ่งถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม ทำ CG ได้ดีมากทีเดียวสมจริง (ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆเป็นไงเพราะไม่เคยออกนอกโลก แต่ดูแล้วรู้สึกว่าจริง 555) CG ทั้งเรื่องเลย เรื่องนี้นางเอกอย่างแซนดร้า บลูล๊อค จะค่อนข้างรับภาระหนักในการแสดงพอสมควร (หอบเหนื่อยมาก แอบเหนื่อยแทน 555) เอาเป็นว่าแสดงบทบาทได้ดี แต่โดนส่วนตัวแล้วในเรื่องชอบจอร์จ คลูนี่มากกว่า (เพราะอะไรไปอ่านส่วนสปอย)
เรื่องนี้เป็นหนังที่มีฉากระเบิดที่ไม่มีเสียงระเบิดเลย เพราะในอวกาศเป็นสุญญากาศ เสียงจึงไม่สามารถส่งคลื่นผ่านได้ (การเดินทางของเสียงต้องอาศัยการสั่นของโมเลกุลของตัวกลาง ดังนั้นเสียงจะเดินทางได้เร็วขึ้นหากตัวกลางมีความหนาแน่นมาก ทำให้เสียงเดินทางได้เร็วในของแข็ง) และมีฉากลอยหมุนติ้ว ติ้ว ติ้ว เยอะทีเดียว ซึ่งคนไม่ชอบอาจดูแล้วเวียนหัวได้ โดนส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบหนังอวกาศสักเท่าไหร่ เพราะตอนเด็กๆไปท้องฟ้าจำลองทีไรหลับตลอด แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้ดูแล้วไม่ได้ชวนหลับ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ ถือว่าก็น่าติดตามอยู่ทีเดียว แนะนำให้ไปดู IMAX ค่ะ น่าจะดีกว่า (ไปดูธรรมดามาเพราะไปไม่ทันฉาย IMAX)
ให้ 7/10 สำหรับคนที่ไม่ชอบอวกาศอย่างฉัน ส่วนคนที่ชอบอวกาศอย่างน้องชายให้ 8.5/10
(นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นจากเนื้อเรื่อง แสง สี เสียง และอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิดต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ค่ะ)
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker
...........................สปอย…………………………………….
- ดูแล้วแอบรู้สึกหงุดหงิดนิดๆว่าทำไมนางเอกจึงไม่มีสติเอาซะเล้ยยยยยยยอุตส่าเก่งขนาดออกไปทำงานนอกโลก แต่พอคิดหลักตามจริง เออเว้ย...ใครๆคงจะเป็น ถ้าเจออย่างงั้นเข้าใครจะไปชิลลงฟระ
- จอร์จ คลูนี่ ชิลมาก มีสติมาก พูดมาก มากๆ ชอบๆๆๆ เท่ฝุดๆ
- ชอบฉากที่แซนดร้า บลูล๊อคเข้ามาในยานแล้วถอดชุดอวกาศออก มันเหมือนทารกที่อยู่ในครรภ์เลย สวยงามมาก หนังคงตั้งใจจะสื่อออกมาเสมือนว่าเป็นการเกิดใหม่ จากการรอดตายเคว้งคว้างในอวกาศ และเมื่อลงสู่โลกก็เริ่มหัดเดิน เหมือนเด็กที่เพิ่งเกิดและเติบโตอยู่รอด (การที่อยุ่นอกโลกนานๆในระบบสุญญากาศคงทำให้ปรับสภาพในการเดินทรงตัวลำบากอยุ่ในตอนแรก)
- แอบมีผีด้วยอ่า....เหมือนหนังไทยเบยยยยย 5555
- ดูแล้วคิดถึง Cast away อารมณ์เดียวๆกัน แค่เปลี่ยนสถานที่ติดจากเกาะเป็นอวกาศ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบ Cast away มากกว่าเยอะๆเลย