อยู่ๆหัวหน้าเก่าโทรมา ชวนกลับไปทำงานที่เดิม ข้อเสนอน่าสน แต่ทำไมเรา เครียดจัง ไปดีไหม??

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายเก่า ที่ไม่ได้ติดต่อกันร่วม 2 ปี โทรมาชวนกลับไปทำงาน คือขอเล่าย้อนนิดนึงนะคะ

ตั้งแต่เรียนจบเราก็ทำงานด้านฝ่ายขาย  โดยเริ่มเข้าสู่วงการนี้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่นึง ดูแล key account Modern Trade  สินค้ากลุ่มอาหารเข้าห้างต่างๆ และยังมีโอกาสได้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ลูกค้ารายใหญ่ๆบ้าง  บางครั้งก็เปิดลูกค้าใหม่ๆ รายเล็กๆ ที่อยากรับสินค้าไปขาย เรียกง่ายๆคือ ขายมันเกือบทุกช่องทาง  รายได้เริ่มต้นรวมทุกอย่างทั้งคอม น้ำมัน อยู่ราวๆเดือนละ 2 หมื่นนิดๆ

ก็ทำไปเรื่อยๆ จนถึง 3 ปี ก็ลาออก ไปหาประสบการณ์ใหมไปขายพวกเคมีอาหารเข้าโรงงานต่างๆ ทำได้ 2 ปี ก็เริ่มรู้สึกไม่สนุกแล้ว ลองหางานใหม่ดูก็ได้งานที่บริษัทฯทำอาหารเช่นกัน เนื้องานหลักๆก็คล้ายๆบริษัทแรก เพียงแต่องค์กรเล็กกว่ามาก  ตัวงานที่ทำไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่...เพื่อนร่วมงานแย่มาก คือเรามีเพื่อนร่วมงานเด็กน้อยจบใหม่ได้แค่ปีเดียวแต่คิดเทียบรุ่น!!! มาแอบดูเงินเดือนเราซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นเรามีประสบการณ์มาแล้วกว่า 5 ปี เงินเดือนเราย่อมต้องสูงกว่าเค้าพอสมควร พอมาแอบดูเงินเดือนเรารู้แล้วก็นอยด์ ไปบอกคนอื่นๆในโรงงาน ( เด็กๆทีม ซัพพอร์ตทั้งหลาย ) เกิดการลองของเราขึ้น เช่นเราขอตัวอย่างสินค้าก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เราใช้งานอะไรก็ไม่ค่อยได้ ได้ยินแว่วๆมาว่า ได้เยอะแล้วก็ทำงานให้คุ้มหน่อย เราก็ทำไปด้วยความอึดอัด ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้หัวหน้าเรารู้ทั้งหมดจึงได้มีการออกใบเตือนเด็กๆกลุ่มนั้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยไรดีขึ้น เราทำงานเหมือน one man show มาก  จะมีก็แต่พวกคนใหญ่ๆของแผนกอื่นๆ ที่ค่อนข้างเอ็นดูเรา เช่น ผจก qa qc rd แล้ววันดีคืนดีเราก็ได้คุยกับนายเก่าที่บริษัทแรกที่เคยทำงานด้วยจังหวะที่เค้าอยากได้คนช่วยงานพอดี ด้วยความคุ้นเคยฝีมือกันประมาณนึงนายก็เลยชวนเรากลับไป ซึ่งตอนนั้นเราตัดสินใจกลับไปไม่ยากเลย ทั้งๆที่รายได้แทบไม่ต่างกัน ตำแหน่งก็ไม่ใช่โตขึ้น แต่เราเลือกความสบายใจ ประกอบกับที่ทำงานแรกใกล้บ้านด้วย ตอนเราตัดสินใจลาออกเจ้านายเราเสียดายเรามาก แต่ประเด็นอยู่ที่เจ้าของบริษัทฯที่ดูจะโกรธเรามากเพราะตอนเค้ารับเราเข้าทำงานเค้าให้เราค่อนข้างสูงแต่เราทำได้ไม่ถึงปีออกเหมือนเค้าคงมองว่าเราทำยังไม่คุ้มที่เค้าจ่ายมั้ง เพราะเค้าไม่เคยรู้ปัญหาที่เราเจอ  เราก็ไม่อยากรังแกเด็กไหนๆจะไปแล้วก็ไม่อยากพาดพิงจึงไม่ได้เล่าปัญหาที่เกิดให้เจ้าของบริษัทฟัง บอกเพียงแต่วาหัวหน้าเก่าชวนกลับไปทำงานด้วย และอ้างว่าบ้านไกล เราเหนื่อยกับการเดินทางแค่นั้น

และเราก็กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม หน้าที่เดิม กับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเราคิดว่าจะตายรังที่นี่แล้ว นายก็ผลักดันจะโปรโมทอยู่แต่เราดันท้องเลยพลาดโอกาสเลื่อนตำแหน่งไป แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะงานที่ทำมีความสุขดี และเมื่อปลายปีที่แล้วนายเราก็ลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้เราอยู่ในภาวะสุญญากาศ ไม่มีนายผลักดัน แต่โดยเนื้องานคือเราทำแทนนายเกือบหมด จนวันนี้ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่เกินปีหน้าเราน่าจะโปรโมทขึ้น เรียกได้ว่าชีวิตการงาน ครอบครัวกำลังไปได้ดีเลย

แล้วอยู่ๆวันนี้เจ้านายเก่าที่เราเคยทำงานด้วยก็โทรมาหา บอกว่าตอนนี้เค้าดูแลบริษัททั้งหมด เพราะเจ้าของบริษัทไปอยู่เมืองนอกยกหนัาที่ให้เค้าดูทั้งหมด เค้าอยากให้เรากลับไปช่วยงาน เพราะเด็กนรกแก็งค์นั้นก็ออกไปหมดแล้ว เค้าจะให้เราช่วยคุมฝ่ายขายทั้งหมด ตอนนี้มีน้องๆในทีม 3 คนให้เราดูตอนแรกเราปฏิเสธว่ามันไกล อีกอย่างเรามีลูกกำลังน่ารัก ( 2 ขวบกว่า ) เราอยากมีเวลาให้ลูก เค้าก็เสนอว่าเค้าอนุญาติใหเรากลับก่อนก็ได้  เราก็บอกเค้าไปว่าเรากำลังแฮปปี้กับงานปัจจุบันไม่ได้มีแรงจูงใจอะไรให้เปลี่ยน เค้าก็ถามว่าปัจจุบันเรามีรายได้เท่าไหร่ เค้าให้ 2 เท่า รวมๆแล้วก็เฉียดแสน แถมบอกเราว่าลูกยังเล็กต้องใช้เงินอีกเยอะ ขอให้คิดดีๆ แต่เราก็ยังกังวลเจ้าของบริษัทอยู่เพราะเหมือนเราจะจบกับเค้าไม่สวย ซึ่งเจ้านายเราบอกว่าจะเคลียร์ให้เอง คือแบบอยากให้เรากลับไปมากๆ

ตอนนี้เรากำลังสับสน เงินอ่ะก็อยากได้ แต่ถ้าไป เราต้องเดินทางไปกลับ 80 km ทุกวัน ( นนทบรี-เทพารักษ์ ) ลูกก็ยังเล็ก ทุกวันนี้เราทำงานปทุม ได้กลับบ้านมานอนกอดลูกทุกวัน แม้เค้าจะบอกว่าอนุญาติให้กลับก่อน แต่ในความเป็นจริงถ้าลูกน้องยังทำงานเราในฐานะหัวหน้าจะทิ้งลูกน้องกลับมันก็ไม่ควรใช่ไหม ดังนั้นคาดว่าเราต้องถึงบ้านไม่ต่ำกว่า 2 ทุ่มทุกวัน แถมตอนเช้าก็คงต้องออกตั้งแต่ยังไม่ 7 โมง ซึ่งทุกวันนี้เราออกจากบ้าน 8 โมง กลับไม่เกินทุ่ม เท่ากับเวลาเราจะหายไปกับการเดินทางถึง 2 ชม. ต่อวัน

แถมเรายังหลอนกับสังคมการทำงานที่นั่นอยู่เลย ในขณะที่ปัจจุบันสังคมการทำงานของเราดีมาก

แต่ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวนี่สิ ถ้าเรายังอยู่ที่ปัจจุบันต้องทำอีกเป็น 10 ปีถึงจะได้ รายได้ที่เพิ่มนี้สร้างหลักประกันให้ลูกได้หลายอย่างอยู่ อีกอย่างเราคิดว่าโอกาสอย่างนี้คงไม่ได้มีมาหาเราได้บ่อยๆ เพราะเราโง่ภาษามากไอ้เรื่องจะย้ายตัวเองไปหางานที่อื่นก็ไม่ได้คิดแล้ว เพื่อนเราก็บอกว่าไปก่อน ไปอัพฐานเงินเดือน อัพตำแหน่ว ถ้าไม่เวิร์คก็ย้ายต่อ  ส่วนลูกทุกวันนี้ก็มีตายายช่วยดูแลอย่างดีด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ฝากเนอสที่ไหน

ถ้าเพื่อนๆเป็นเราจะเลือก ไป หรือ ไม่ไปคะ  ถ้าไปประวัติการทำงานเราคงตลกมากๆ

บริษัท A 3 ปี --> บริษัท B 2 ปี --> บริษัท C 8 เดือน --> บริษัท A 3 ปี--> บริษัท C

มันจะมีผลกับประวัติเราในอนาคตไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่