ก่อนหน้านี้เราจะชอบพูดเสมอๆว่า "แผ่นผีซีดีเถื่อน" คือตัวการที่ทำลายหนังไทย
ในขณะนั้น ผมขอเถียงหัวชนฝาเลยว่าไม่จริง
เนื่องจากคลุกคลีคนที่ดูของพวกนี้เป็นประจำ คือเค้าไม่สนใจดูที่โรงอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมีแผ่นผีหรือไม่มี เค้าก็ไม่เข้าโรงอยู่ดี ที่ดูแผ่นผีก็เพราะมันมีให้ดูเท่านั้นแหละ
แล้วอะไรคือตัวการที่ทำร้ายวงการหนัง?
บทของตัวหนังเอง? นายทุน? หรือโรงภาพยนตร์?
ในความคิดผม บทหนังไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ
จนสามารถเทียบเคียบในระดับโลกได้สบายๆ(อย่าง Shutter, 13 เกมสยอง)
บทของหนังที่มันห่วยจริงๆ ถือว่ามีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าเทียบกับจำนวนหนังดีๆ
เพราะฉะนั้น ในความคิดผม ผมคิดว่า "โรงภาพยนตร์" นี่แหละคือตัวทำร้ายหนังของจริง
เร็วๆนี้ก็ได้ข่าวว่าจะขึ้นค่าตั๋วอีกแล้ว...
เห็นค่าตั๋วหนังตอนนี้แล้วก็หนาวๆร้อนๆกันล่ะครับ ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริงๆก็คงไม่ดู
เพราะค่าตั๋วหนังแพงเหลือเกิน แพงเกินค่าครองชีพไปไกลมากๆเลยทีเดียว
สมัยนี้คนที่มาดูหนังไม่ได้เพราะว่าอยากมาดูหนังแล้วครับ เค้าแค่เข้ากิจกรรมหมู่คณะเท่านั้น
นอกจากกินข้าวแล้ว กิจกรรมอะไรที่สามารถทำให้ทุกเพศวัยทำร่วมกันได้บ้าง
...ก็คือการ ดูหนัง นั้นแหละครับ
คนบางกลุ่มเค้ามีทรัพย์ มีกำลังมากพอ ที่จะจ่ายค่าตั๋วแพงๆเป็นประจำได้
แต่อีกกลุ่ม ไม่ได้มีกำลังทรัพย์ขนาดนั้น เค้าจึงเลือกดูหนังในโอกาสพิเศษๆเท่านั้น
(อย่างนัดเพื่อนฝูงไปดูด้วยกัน พาลูกไปดูการ์ตูน หรือนัดแฟนไปดูด้วยกัน)
หรือกลุ่มสุดท้ายเลย คือ "คนดูหนัง" คนที่ดูหนังประจำ มาเพื่อดูหนังจริงๆ
แต่ถ้าดูมันทุกเรื่องก็จนกันพอดี ก็เลยต้องเลือกกันบ้าง หรือละไปเลยก็มี
อย่างสมัยผมเป็นนักศึกษา ผมใช้บัตรนักศึกษาประจำ ราคาจึงถูกลงมาหน่อย
ทำให้สามารถดูดะได้ทุกเรื่องที่น่าสนใจ บางเรื่องแม้แต่ตัวอย่างยังไม่เคยดูด้วยซ้ำ
แต่พอทำงานแล้ว ก็เลือกดูแต่ที่สนใจจริงๆเท่านั้น เรื่องอื่นรอแผ่นอย่างเดียว
เลยทำให้หนังบางเรื่อง ที่เนื้อหาดีๆ แต่หน้าหนังโคตรไม่น่าสนใจก็เจ๊งกันไป
อาศัยแรงผลักจากกระแสปากต่อปากได้ยาก เพราะมันไม่มีใครเสี่ยงไปดูตั้งแต่แรกแล้ว
นี่ได้ข่าวว่าโรงหนังยักษ์ใหญ่ กำไรจากการโฆษณาขึ้นพรวดๆ แต่ก็ยังขึ้นค่าตั๋วพรวดๆเช่นกัน
แล้วอย่างนี้ ใครหน้าไหนมันจะไปดูหนังบ่อยๆ คนทำหนังจะได้อะไร?
ในขณะที่กำไรส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของโรงหนังกันหมดแล้ว
ปล.ผมแก้ปัญหาด้วยกันดูเครือ Apex ครับ (สกาล่า-ลิโด้) ราคาตั๋วถูกดี และถ้าเรื่องไหนไม่มีฉายที่ Apex แล้วผมไม่สนใจจริงๆ ก็คือไม่ดูเลยครับ เป็นการคัดกรองหนังไปในตัว
คิดว่าอะไรเป็นตัวทำลายที่แท้จริงของวงการหนังไทย!?
ในขณะนั้น ผมขอเถียงหัวชนฝาเลยว่าไม่จริง
เนื่องจากคลุกคลีคนที่ดูของพวกนี้เป็นประจำ คือเค้าไม่สนใจดูที่โรงอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมีแผ่นผีหรือไม่มี เค้าก็ไม่เข้าโรงอยู่ดี ที่ดูแผ่นผีก็เพราะมันมีให้ดูเท่านั้นแหละ
แล้วอะไรคือตัวการที่ทำร้ายวงการหนัง?
บทของตัวหนังเอง? นายทุน? หรือโรงภาพยนตร์?
ในความคิดผม บทหนังไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ
จนสามารถเทียบเคียบในระดับโลกได้สบายๆ(อย่าง Shutter, 13 เกมสยอง)
บทของหนังที่มันห่วยจริงๆ ถือว่ามีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าเทียบกับจำนวนหนังดีๆ
เพราะฉะนั้น ในความคิดผม ผมคิดว่า "โรงภาพยนตร์" นี่แหละคือตัวทำร้ายหนังของจริง
เร็วๆนี้ก็ได้ข่าวว่าจะขึ้นค่าตั๋วอีกแล้ว...
เห็นค่าตั๋วหนังตอนนี้แล้วก็หนาวๆร้อนๆกันล่ะครับ ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริงๆก็คงไม่ดู
เพราะค่าตั๋วหนังแพงเหลือเกิน แพงเกินค่าครองชีพไปไกลมากๆเลยทีเดียว
สมัยนี้คนที่มาดูหนังไม่ได้เพราะว่าอยากมาดูหนังแล้วครับ เค้าแค่เข้ากิจกรรมหมู่คณะเท่านั้น
นอกจากกินข้าวแล้ว กิจกรรมอะไรที่สามารถทำให้ทุกเพศวัยทำร่วมกันได้บ้าง
...ก็คือการ ดูหนัง นั้นแหละครับ
คนบางกลุ่มเค้ามีทรัพย์ มีกำลังมากพอ ที่จะจ่ายค่าตั๋วแพงๆเป็นประจำได้
แต่อีกกลุ่ม ไม่ได้มีกำลังทรัพย์ขนาดนั้น เค้าจึงเลือกดูหนังในโอกาสพิเศษๆเท่านั้น
(อย่างนัดเพื่อนฝูงไปดูด้วยกัน พาลูกไปดูการ์ตูน หรือนัดแฟนไปดูด้วยกัน)
หรือกลุ่มสุดท้ายเลย คือ "คนดูหนัง" คนที่ดูหนังประจำ มาเพื่อดูหนังจริงๆ
แต่ถ้าดูมันทุกเรื่องก็จนกันพอดี ก็เลยต้องเลือกกันบ้าง หรือละไปเลยก็มี
อย่างสมัยผมเป็นนักศึกษา ผมใช้บัตรนักศึกษาประจำ ราคาจึงถูกลงมาหน่อย
ทำให้สามารถดูดะได้ทุกเรื่องที่น่าสนใจ บางเรื่องแม้แต่ตัวอย่างยังไม่เคยดูด้วยซ้ำ
แต่พอทำงานแล้ว ก็เลือกดูแต่ที่สนใจจริงๆเท่านั้น เรื่องอื่นรอแผ่นอย่างเดียว
เลยทำให้หนังบางเรื่อง ที่เนื้อหาดีๆ แต่หน้าหนังโคตรไม่น่าสนใจก็เจ๊งกันไป
อาศัยแรงผลักจากกระแสปากต่อปากได้ยาก เพราะมันไม่มีใครเสี่ยงไปดูตั้งแต่แรกแล้ว
นี่ได้ข่าวว่าโรงหนังยักษ์ใหญ่ กำไรจากการโฆษณาขึ้นพรวดๆ แต่ก็ยังขึ้นค่าตั๋วพรวดๆเช่นกัน
แล้วอย่างนี้ ใครหน้าไหนมันจะไปดูหนังบ่อยๆ คนทำหนังจะได้อะไร?
ในขณะที่กำไรส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของโรงหนังกันหมดแล้ว
ปล.ผมแก้ปัญหาด้วยกันดูเครือ Apex ครับ (สกาล่า-ลิโด้) ราคาตั๋วถูกดี และถ้าเรื่องไหนไม่มีฉายที่ Apex แล้วผมไม่สนใจจริงๆ ก็คือไม่ดูเลยครับ เป็นการคัดกรองหนังไปในตัว