Rebalancing investment model

หนึ่งในวิธีการลงทุนที่น่าสนใจและผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนลองดูว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขนาดไหนก็คือการทำ Re-Balancing Port โดยแบ่งเงินเป็น 2 กอง กองหนึ่งนำไปลงทุนในหุ้น (Equity) และอีกส่วนหนึ่งอาจจะนำไปพักไว้ที่บัญชีออมทรัพย์ธรรมดา หรือ เอาไปลงในกองทุนพันธบัตรตราสารหนี้ระยะสั้น อาจจะเป็นสิ่งอื่นก็ได้ที่สามารถพักเงินได้ ความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง

โดยเราจะต้องกำหนด Ratio ของ Port เราก่อนว่าจะให้มันมีสภาพเป็นลักษณะอัตราส่วนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น 50:50, 70:30, 90:10, 20:80 อยู่ที่ความ Conservative และ ความ Challenge ของเจ้าของเงินแต่ละคน รวมทั้งการกำหนดเวลาในการ Re-Balancing ในแต่ละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผมทำไตรมาสละครั้ง ไม่จำเป็นต้องทำถี่ๆบ่อยๆ เพราะการทำแต่ละครั้งก็เปรียบเสมือนการซื้อหรือขายทำกำไรหุ้น ยิ่งถี่ยิ่งปรับกันเป็นรายวัน เอาเป็นรายไตรมาส ครึ่งปีล่ะนะครับผมว่ากำลังดี

การทำงานของ Model นี้คุณจะต้องปรับ Port ในวันที่กำหนด ไม่ว่า Port จะมีหน้าตาเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร จะต้องมีการ สร้างอัตราส่วนให้กลับมาเป็นรูปแบบเดิมอยู่เสมอ แต่ในตัวอย่างของผมจะเอากลางๆ คือ 50:50 มาทดลองให้ดูนะครับว่า Model ลักษณะนี้มันทำงานอย่างไร

ผมเริ่มต้นที่เงิน 1,000,000 ล้านบาท โดยมีการแบ่ง Port เป็น 50 : 50 ลงทุนในหุ้นและลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นแล้วรอความเปลี่ยนแปลงใน 1 ไตรมาสว่ามันจะเป็นอย่างไร ในระหว่างที่ 2 ผลสรุป 1 ไตรมาสนั้นก็ไม่ต้องไปดู Port รายวันนะครับ เดี๋ยวจะเจออารมณ์ตลาดเข้าครอง

ตามปกติแล้วหุ้น จะมีอัตราความยุ่งเหยิงและการเปลี่ยนแปลงมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น กำไร-ขาดทุนจากหุ้นก็ต้องเยอะกว่าแนะนอน หลังจาก 1 ไตรมาสผมผ่านไป หุ้นผมขึ้นไปเยอะมากๆ ในขณะที่เงินที่พักไว้หาประโยชน์ได้เพิ่มขึ้นบ้าง Port ของผมใหญ่ขึ้นเป็น 15,050,000 บาทแล้ว แต่นั่นมาจากการที่หุ้นขึ้นเยอะจากอัตราส่วนมันเปลี่ยนจาก 50:50 เป็น 66.44 : 33.66

วิธีการ Rebalance ก็คือการ สร้างอัตราส่วนให้เป็นเช่นเดิมที่ 50:50 ในกรณีนี้หุ้นจะถูกเทขายออกมา เงินจำนวนส่วนเกินจากอัตราส่วนในหุ้น จะถูกขายออกมาให้ 2 ฝั่งเท่ากัน อาจจะดูเหมือนมีการซื้อขาย แต่เงินมันหมุนอยู่ที่เราแหละ Port เราก็ใหญ่ขึ้น

ผ่านไปอีก 1 ไตรมาส หุ้นกลับตก อัตราส่วนมันกลายเป็น หุ้น : ตราสารหนี้ 44.3 : 55.7 ผมเองก็ต้องเอาเงินจากกลุ่มตราสารหนี้ ให้มีการขายเพื่อไปซื้อหุ้นนะครับ ซึ่งถ้าหุ้นมันดีในไตรมาสต่อไปผมก็สามารถสร้างกำไรได้อีก แต่ถ้ามันต่ำลงจากเดิม ตราสารหนี้ผมก็จะถูกขายไปซื้อเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามอัตราส่วนของเงินที่มี

เหมือนเดิมครับเราขายตราสารหนี้ หรือ เอาเงินสดที่กำไว้ไปซื้อหุ้นที่เป็นส่วนขาดของอัตราส่วน แล้วก็ปรับให้มันเป็น 50:50 เช่นเดิม โดยถ้าคุณเลือกลงในหุ้นที่ดี ต่อให้มันตกแล้วตกอีก มันก็คือโอกาสที่คุณจะซื้อได้มากขึ้น Port ก็ยังโตขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งแรก เพราะบางโอกาศคุณไม่ได้ซื้อ คุณจะได้ขายทำกำไรด้วย เราจะหมุนเงินเข้าออกระหว่าง Port ทั้ง 2 ฝั่ง

ข้อดี-ข้อเสียของวิธีการนี้

ตัดอารมณ์ของตลาดได้เพราะดู 3 เดือนครั้ง
เหมาะสำหรับคนที่อยากทำกำไรบ้าง ไม่ใช่ลงทุนซื้ออย่างเดียวไม่ขาย
ได้ทั้งซื้อทั้งขายในโมเดลเดียวกัน ขึ้นก็ขาย ลงก็ซื้อ
ใช้เงินก้อนเดิม ไม่ต้องหาเพิ่มก็ได้ หมุนกันเข้าไป
ต้องระวังในเรื่องการเลือกหุ้นนะครับ หุ้นปั่นอย่าเล่น เดี๋ยวติด Floor แล้วนิ่งตลอดการแล้วจะแย่
ในส่วนของฝั่งสินทรัพย์พักเงิน อยากไปลงกับตัวที่สภาพคล่องต่ำนะครับ ขายไม่ออกแย่ยิ่งกว่าเดิม
Model นี้ผมใช้อยู่นะ หมุนไปหมุนมา ลองพิจารณาดูวิธีการนะครับ



Tar Kawin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่