ยอมรับเลยว่าเราเองเป็นแฟนเพลงพาราด็อกซ์แบบชนิดที่ว่า เพลงของเขาต้องฟังทุกวัน แต่ส่วนใหญ่จะชอบฟังเพลงหนักๆ ของวงนะ แต่วันนี้ไม่มาพูดเรื่องเพลงค่ะ จะดูอวยไปใหญ่ และไม่ได้ชอบบุคคลเป็นพิเศษ ถ้าหากการตั้งกระทู้นี้คือการอวยศิลปิน ก็คงจะใช่ เพราะเราคงเขียนถึงศิลปินของเราในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ นอกจากเราปันใจ 555
กระทู้นี้จะขอพูดถึง การมองการณ์ไกลของต้าพาราด็อกซ์ แหม... ว่าจะไม่พูดถึงเพลง ก็ขอย้อนเรื่องราวสักหน่อย นิดนึงแล้วกันนะคะ จะสังเกตุได้ว่าเพลงของ พรด. ส่วนใหญ่ที่เล่นกันอยู่ตอนนี้จะเป็นเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ และในช่วงเวลาที่อัลบั้มแรกๆ นั้นออกมา ... คนหนึ่งแสนคนจะมีแค่ 2-3 คนฟังเองนะคะ (ออกจะเวอร์ แต่น่าจะเห็นภาพ) คือคนฟังน้อยมาก ทั้งๆที่เพลงมีจุดสนใจเยอะมาก ฟังชุดแรก ดูขาดเอกลักษ์ จะย้อนยุคก็ไม่ใช่ จะล้ำสมัยก็ไม่เชิง แต่โดยรวมมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงคงที่มาจนถึงปัจจุบัน คือความแปลกค่ะ ไม่ว่าชุดไหนมันจะต้องมีเพลงแปลกๆ ที่ขัดแย้งกัน อารมณ์ ดนตรี ขัดกันอยู่ตลอด รายละเอียดจริงๆ มีเยอะมาก ต้องอธิบายเปรียบเทียบทุกอัลบั้ม ทุกเพลง ซึ่งคงแนะนำสำหรับคนที่อยากรู้มากกว่านี้ ให้ลองอ่านหนังสือของ พรด. นะคะ
วงนี้เป็นวงที่มีคนเกลียดแล้วจะไม่ฟังเพลงเขาเลย แต่ถ้ารักแล้ว ก็จะขึ้นจากหลุมนั้นไม่ได้เลยเหมือนกัน แต่ช่วงแรกๆเพลงที่ทำออกมา ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ฟังสักเท่าไหร่ จนกระทั่ง ... เวลาผ่านมา 10 ปี อย่างที่พี่ต้าเคยกล่าวไว้ "ถึงเวลาที่เพลงทำงาน สื่อกับคนฟังได้ เขาก็จะชอบมันเอง" กว่าจะมีคนฟังเยอะขนาดนี้ ผ่านไปเป็น 10 ปี แต่เพลงกลับไม่เก่าเลย ... มันคือความคิดที่ทำเพลงให้ล้ำเกินกว่าจะนิยมฟังในยุคนั้นๆได้หรือเปล่า ? อันนี้ก็ไม่ทราบนะคะ 555 แต่รู้สึกว่า ใช่!
ในช่วงที่ออกอัลบั้มบนดิน เป็นอินดี้มีตรา ช่วงนั้นที่เราเริ่มรู้จักเขา 15 ปีผ่านมาแล้ว T T พี่ต้า ได้ทำแม็กกาซีนทำมืออกมาชื่อว่า TATAMAG เป็นกระดาษน่าจะ เอ3 แล้วพับครึ่ง เป็นนิตยสารเหมือนหนังสือพิมพ์ มีแม็กเย็บตรงกลาง ง่ายๆ แต่เป็นไอเดียที่เจ๋งดี สำหรับ 15 ปีที่แล้ว (มือถือยังไม่มีนะ) ในนิตยสารนั้น โลโก้คำว่า PARADOX จะใช้กล่องยาสีฟัน PARODONTAX แล้วก็ใช้ปากกาขีดๆ ตัว O ของคำว่า RO ออก แทนที่ด้วยการห้องตัว A แล้วก็ใช้ลิขวิดขีดๆตัว NTA ออก ตอนนั้นดูตลกแต่ก็ อืมมมม ... คิดได้ไง 555 เอ็นดูเป็นพิเศษ และถ่ายเอกสารทำเป็นหลายๆเล่ม ไม่รู้ขายได้หรือเปล่า ในเล่มรู้สึกจะมีการเล่าเรื่องต่างๆ ในการทำเพลง ทัศนะคติต่อสิ่งต่างๆ และหน้าท้ายๆ จะแนะนำวงอินดี้ วงใต้ดินในยุคนั้น จำได้ว่าเล่มที่ได้ มีวงแนะนำเป็นซีเปียด้วย ก็ไปหามาฟังนะ 555 เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักเพลงใต้ดิน มีหน้า ที่เป็นเนื้อเพลง ทั้งของพาราด็อกซ์เองและวงต่างๆ มีหน้าให้สั่งของ สั่งอัลบั้มของพาราด็อกซ์ด้วย ไม่แพงมาก แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ตอนนั้นได้เทปเพลง PARADOX AND MYFRIENDS มาไว้ในครอบครอง น่าจะให้ฟรี ไม่ได้ซื้อ เหมือนส่งให้เพราะอะไรสักอย่าง จำไม่ได้ ... นี่คือช่องทางแรกๆ ที่เราได้ติดต่อสื่อสารกัน ในเรื่องราวของการรับรู้ความเป็นไปของวง
ไม่นานหลังจากนั้น ช่วงอินเตอร์เนตเริ่มเข้าประเทศและการสนนทนาผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์เริ่มเป็นที่นิยม พาราด็อกซ์ก็เป็นวงแรกๆที่ได้ทำเวปบอร์ดเพื่อให้มีการติดต่อสื่อสารกันกับแฟนเพลง และนั่นทำให้เริ่มมีฐานแฟนเพลงของ พรด. เกิดขึ้นมาบ้างอาจจะไม่ถึงกับเฟื่องฟู แต่ก็ทำให้ศิลปินมีกำลังใจทำงานออกมาได้บ้างล่ะ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราห่างหาย ก็เด็กบ้านนอกอ่ะ อยู่ๆ จะได้มีคอมเป็นของตัวเองก็ยากนะ พ่อต้องพาไปนั่งร้านคอมวันละ 1 ชม. เพื่อหัดใช้และคุยกับเพื่อนที่อยู่มาเลเซียจากคำแนะนำของอาจารย์แลกเปลี่ยน (เมื่อก่อนมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ด้วยนะ เออ) พ่อน่าสงสารอ่ะ นั่งเฝ้าลูกเป็น ชม. สมัยก่อนค่าเนตก็แพงมาก T T ช่วงนั้นเลยเสพเพลงอย่างเดียว
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ พรด. เฟื่องฟูถึงขนาดที่มีคนวิ่งขอลายเซ็นต์ (ออกมา 3 อัลบั้มละนะ) 555 ทั้งๆที่คนอื่นบางคนไม่มีอะไรแบบนี้เลย แต่ดัง .. นี่คือความทุ่มเทให้กับแฟนเพลงที่มีเพียงแค่หยิบมือหนึ่ง (ฟังแล้วดูรันทด แต่ผลมันมาเกิดอีก 10 ปีให้หลัง) การกระทำที่เป็นเช่นดังคำเปรียบเปรยที่ว่า "แม้มีคนดูเพียงแค่คนเดียว การแสดงก็ต้องดำเนินต่อไป THE SHOW MUST GO ON" แม้มีคนเขวี้ยงส้อมขึ้นมาบนเวทีก็ยังคงจะเล่นละนะ ....แม้แฟนเพลงของพาราด็อกซ์จะมีเพียงแค่ 100/1000 ของศิลปินกลุ่มอื่น หรือ 100/10000 ของศิลปินบางคน แต่ฐานของเราเป็นฐานที่มั่นคงและเหนียวแน่นมาจากกว่าสิบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ศิลปินที่เห็นฐานแฟนเพลงยาวนานมาเป็นสิบๆปี เห็นที่แบบฐานแข็งแรงมากๆ เรายกให้พี่เบิร์ดค่ะ อันนั้นยอมรับเลย
ที่บอกว่าฐานของเราคือฐานที่แข็งแรงมากเช่นกันเพราะเราเป็นกลุ่มที่คอยติดตามผลงานของศิลปินมาอย่างยาวนานแบบที่ไม่ว่าจะแปลกจะประหลาด จะออกมารูปแบบไหน เราก็จะรอลุ้น (ว่าจะมีต่ออีกไหม) และรอฟัง ไม่เคยห่างหายแม้บางคน ไม่ได้แสดงตัวว่าตามมานานสักเท่าไหร่ อยู่ในมุมเงียบ ไม่เคยไปแชทในเวปบอร์ด ไม่ต้องตามไปทุกที่ แต่ไปทุกครั้งที่มีโอกาส พร้อมที่จะรวมตัวกันเพื่อไปฟังเพลงของเรา สิบกว่าปีผ่านมาอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น และไม่ค่อยปันใจ 555 วัดจากตัวเองหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ... เราพร้อมฟังเพลงของทุกศิลปินนะคะเรายอมรับด้วย เพลงดีๆมีเยอะมาก แต่มันไม่ใช่แนวทางเรา เหมือนกับที่ทุกคนสามารถฟังเพลงของศิลปินคนอื่นได้ แต่สุดท้ายก็จะฟังเพลงของคนที่ตัวเองชื่อชอบบ่อยครั้งกว่า บางทีเล่นจะจบเพลงละ กดให้มันเล่นซ้ำอีกรอบ ก่อนจะไปฟังเพลงคนอื่น เรานี่บางทีกดไปกดมา ฟังเพลงเดียวทั้งวันก็มี 555
ฐานแฟนเพลงรุ่นที่ 3.2 นับเป็นรุ่นตามนี้แล้วกันนะคะ รุ่นแรก คือรุ่นที่พวกเขารู้จักกันเอง แวดวง วงในละกัน รุ่นที่สองคือพวกที่มีตาต้าแม็กกาซีนและเริ่มติดตามผลงานอัลบั้มแรก คือ ลูนาติค แพลนเนต เรารุ่นสามละกัน 55 รุ่นระหว่างเปลี่ยนยุคสมัย เป็นรุ่น 3.1 ต่อด้วย 3.2 ที่เป็นรุ่นเล่นเวปบอร์ด นี่แหละค่ะ รุ่น 3.2 เป็นการปูทางในการผลิตแฟนเพลงและแฟนคลับรุ่นต่อมา ในยุคเทคโนโลยีไร้ขีดจำกัด แต่ 3G ในไทยจำกัดการใช้งาน ... (รู้สึกจะนอกเรื่อง) นำพามาสู่ สื่อสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค (ข้ามด็อกซ์ทีวีไปนะคะ) ในยุคนี้ขออธิบายยาวนิดนึงนะคะ เพราะเป็นช่วงที่เราติดตามข่าวสารได้เต็มที่
ในช่วงเวลาหนึ่ง ทางวงได้ทำเพลงเอาใจแฟนเพลงรุ่นใหม่ ที่เป็นเพลงเบาๆ อย่างอัลบั้ม DAYDREAMER หรืออัลบั้ม ที่ 6.1 ออกมา ทำให้เกิดกลุ่มแฟนเพลงหน้าใหม่ขึ้นมาจำนวนไม่น้อย และสังเกตุได้ว่า แฟนเพลงรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และอายุของแฟนเพลงรุ่นหลังๆ เริ่มไล่ระดับถอยหลังลง คือเป็นเด็กอายุระหว่าง 15-22 ปี เพลงออกมาน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีครั้งหนึ่งไปกดฟังเพลง ปิศาจในยูทูป แล้วไล่อ่านคอมเมนท์จะมีความเห็นหนึ่งเขียนประมาณว่า "ไม่น่าเชื่อว่านี่คือ Paradox ปกติเห็นทำแต่เพลงเบาๆ" ทำเอาคนอ่านขำแทบตาย เป็นอัลบั้มที่ทำ "หลอก" คนฟังจริงๆ แต่ไม่ได้ทิ้งความเป็นพาราด็อก เพียงแต่ทั้งอัลบั้มนั้นเน้นไปในแนวหวานๆเท่านั้นเอง บอกตามตรง แฟนเพลงอย่างเราฟังเพลงในอัลบั้มนี้น้อยมาก ตัดเพลง มันใหญ่มากออกก็มี เรดิโอและรสชาติแห่งความรักที่ฟังทีไรก็มองเห็นภาพพาราด็อกซ์ที่เป็นรูปเป็นร่าง อาจจะเพราะเพลงเศร้าแบบชัดเจนและออกมาในแนวทางด็อกซ์อย่างชัดเจนกว่าเพลงอื่นๆ เป็นการเรียกแฟนคลับอย่างกับพระสังข์เรียกปลาอย่างไรอย่างนั้น และมันได้ผล จากการทำเพลงชุดนี้ แฟนคลับเพิ่มขึ้นมาเยอะมากพอสมควร ส่งผลให้ เวปบอร์ด ตาต้าแม็กมีการเคลื่อนไหวในห้องแชทอยู่บ้าง ขบหลอกคนทั้งประเทศเลยนะเห็นไหม 555 ได้แฟนคลับมาเพียบ
ที่บอกว่าอัลบั้มหลอกๆ ก็เพราะอัลบั้ม 6.2 ที่กำลังจะตามออกมา เร็วๆนี้ (ซึ่งไม่สามารถการันตีได้ว่าในช่วงไหนของปีเพราะจะปลายปีอยู่แล้ว ต้นปีก็ไม่น่าใช่ เพราะปีที่แล้วก็บอกว่าต้นปียังเลยมาถึงปลายปีนี้ได้เลย T T) อัลบั้มที่จะตามออกมาคือของจริงที่อัดแน่นไปด้วยความเป็นพาราด็อกซ์ที่อาจจะดังในอีก 10 ปีข้างหน้าเหมือนอัลบั้มที่ผ่านมา 555 แต่พี่ต้าได้ทำการหลอกให้คนมาตกหลุมรักไปแล้วน่ะสิ และถ้าคนรักไปแล้วนี่ .. ถอนตัวยากนะ ขนาดเพลงที่ผ่านมาเป็นสิบๆ ปียังไปตามหาซื้อหาฟังกันเลย ราคาบางแผ่น 4,000-5,000 บาทก็ยังซื้อกัน เพราะฉะนั้นเพลงใหม่ที่จะออกมา ต่อให้ดิบแค่ไหน ถ้าฐานแฟนคลับยังคงหนาแน่นอยู่แบบนี้ ยังไงเสีย เพลงก็คงจะพอทำงานได้บ้าง และยังจะสามารถขยายแนว เหมือนแขนงของต้นไม้ออกไปสู่เพื่อนๆของกลุ่มแฟนๆได้ต่ออีกเรื่อย นี่คือการวางแผนปูทางไปถึงอนาคตข้างหน้า ของเค้าจริงๆเลย พี่ต้านี่ไม่เคยคิดอะไรแค่ระยะใกล้ๆนะคะ พี่เค้าจะคิดจากปายไปถึงสุไหงโกลก ประมาณนั้นเลย คิดปีนี้ แพลนเหตุการณ์ตามความคาดเดาไปจนถึงอีกสิบปีข้างหน้า (เว่อร์ไปละ) 555
เมื่อปล่อยเพลงใหม่ (ตั้งแต่ปีที่แล้ว) ออกมา ทางป๋าเต็ดก็กรุณาพวกเราเหลือเกินค่ะ จัดให้มีคอนเสิร์ตใหญ่ของ พรด. ขึ้นมาในวันที่ 26-05-13 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดการติดตามในเพจหลักและเพจของศิลปินเกิดขึ้นอย่างล้นหลาม สิ่งหนึ่งที่เขาทำคือ นอกจากเพจของวงที่เป็นเพจหลักแล้ว เพจศิลปินเป็นเพจส่วนตัวทุกคนค่ะ คือนอกจากกดติดตามก็รับข่าวสารได้ แต่โพสต์อะไรไม่ได้ ส่งข้อความยังได้นั้นนะคะ แต่สิ่งพิเศษคือ ไม่มีแอดมินค่ะ ตัวศิลปินเล่นเองตอบเอง ที่ได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆเลย แม้จะไม่ได้ตอบทุกคน แต่ก็พยายามให้ทั่วถึง(เหนื่อยน่าดู) บางทีถ้าเพื่อนเต็มก็สามารถส่งข้อความเข้าไปคุยก็ได้ค่ะ นี่คือสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้กับแฟนคลับ ทั้งๆที่ยุ่งและวุ่นกับงาน แต่ก็ยังพยายามมาตอบคำถาม มาพูดคุย แกล้งแฟนคลับอยู่เสมอ บางทีก็หาปริศนาอะไรมาให้เราปวดหัวกันเล่นๆ มีรางวัลบ้างไม่มีบ้าง ปั่นหัวกันวุ่นวายไปหมดก็มี
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือ วิทยุออนไลน์ที่ทางพี่ต้าลงทุน จ่ายค่าเช่าเวลาเองเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารกับแฟนๆให้เข้าถึงกันได้มากยิ่งขึ้น ด้วยฐานแฟนของ พรด. ไม่ได้มีเยอะมากมายนี่คือสถานการณ์ได้เปรียบของเราค่ะ บางคอนเสิร์ตที่เราไปมา บางคนสงสัย เฮ้ยยย แฟนคลับพาราด็อกซ์ ทำไมเยอะขนาดนี้ เยอะขนาดนี้จริงๆเหรอ ...จริงๆแล้ว ไม่ใช่ 555 นี่คือความมีไหวพริบของพี่ต้าค่ะ เราไม่ดูถูกศิลปินเรานะคะ แต่เรายอมรับว่าแฟนคลับจริงๆ มีน้อยเมื่อเทียบกับวงอื่น ถ้าเอาเข้าจริงเรานี่สู้ไม่ได้ ไม่นับรวมกลุ่มผู้ชายผู้นิยมเพลงร็อคเป็นทุนเดิม ที่โดดได้กับทุกศิลปินนะคะ เช่นงานที่ CTW ไม่ขอบอกแล้วกันนะคะว่ามีศิลปินท่านไหนบ้างและงานอะไร ที่แน่ๆ ไม่ได้จัดผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้แน่นอนค่ะ แต่พาราด็อกซ์จากที่ต้องเล่นเป็นวงที่ 2 วันนั้นพลิกเวลาคะได้เล่นเป็นวงปิด ศิลปินที่เล่นก่อนหน้าจริงๆแล้ว มีแฟนเพลงเยอะมากๆ ยิ่งวงแรกนี่แฟนคลับเยอะสุดๆ แต่เขาอาจจะรับข่าวสารได้ไม่เต็มที่พอค่ะ อาจจะไม่เห็นตารางงานหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มานิดเดียว แต่พวกเราก็ทั้งร้องทั้งเต้นไปกับเขานะ ในช่วงที่สองวงแรกเล่น คนดูก็มีร้องบ้าง โดดบ้าง แต่เป็นกลุ่ม เพราะที่เหลือเป็นแฟนด็อกซ์ที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงของสองวงแรกเลยคะ เราก็คุยกับเพื่อนว่า ปกติแฟนคลับเพียบแทบจะเหยียบกันตาย วันนี้ทำไมน้อย เพลงก็ร้องไม่ได้ จะเปิดดูเนื้อร้องช่วยก็อาย ก็ได้แต่โบกมือบ้างโดดบ้าง แต่เรานึกถึงวง พรด. ที่เมื่อก่อนคน งง เวลาเล่น 555 ว่าเขาทำอะไรกัน มันรู้สึกจริงๆว่า ถ้ามีกลุ่มคนที่ชอบแบบเดียวกันมาเยอะๆ เราคงกล้าโดด คงสนุกกว่านี้
อีกงานหนึ่ง จัดที่หอศิลป์งานเล็กๆ ที่มีศิลปินที่ไม่เล็กเลยไปร่วมงาน มี 2 วงและเช่นเคย อีกวงคือ พรด. วงก่อนหน้าแฟนเพลงก็เยอะ แต่วันนั้นเจอมวลชนชาวด็อกซ์กลบซะ พื้นที่ด้านหน้าถูกจับจองด้วยเด็กซ์ด็อกซ์ (เราคุ้นหน้ากันทั้งนั้น แค่เสื้อก็บ่งบอกแล้ว) เล่นเอาคนอึ้งไปเลยว่า แฟนคลับ พรด. นี่เยอะขนาดนี้เลย ...555 เปล่าหรอกค่ะ แค่เรามากันเยอะกว่าแค่นั้นเอง
ต้า พาราด็อกซ์ กับความใส่ใจในเรื่องการสื่อสารกับแฟนคลับ
กระทู้นี้จะขอพูดถึง การมองการณ์ไกลของต้าพาราด็อกซ์ แหม... ว่าจะไม่พูดถึงเพลง ก็ขอย้อนเรื่องราวสักหน่อย นิดนึงแล้วกันนะคะ จะสังเกตุได้ว่าเพลงของ พรด. ส่วนใหญ่ที่เล่นกันอยู่ตอนนี้จะเป็นเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ และในช่วงเวลาที่อัลบั้มแรกๆ นั้นออกมา ... คนหนึ่งแสนคนจะมีแค่ 2-3 คนฟังเองนะคะ (ออกจะเวอร์ แต่น่าจะเห็นภาพ) คือคนฟังน้อยมาก ทั้งๆที่เพลงมีจุดสนใจเยอะมาก ฟังชุดแรก ดูขาดเอกลักษ์ จะย้อนยุคก็ไม่ใช่ จะล้ำสมัยก็ไม่เชิง แต่โดยรวมมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงคงที่มาจนถึงปัจจุบัน คือความแปลกค่ะ ไม่ว่าชุดไหนมันจะต้องมีเพลงแปลกๆ ที่ขัดแย้งกัน อารมณ์ ดนตรี ขัดกันอยู่ตลอด รายละเอียดจริงๆ มีเยอะมาก ต้องอธิบายเปรียบเทียบทุกอัลบั้ม ทุกเพลง ซึ่งคงแนะนำสำหรับคนที่อยากรู้มากกว่านี้ ให้ลองอ่านหนังสือของ พรด. นะคะ
วงนี้เป็นวงที่มีคนเกลียดแล้วจะไม่ฟังเพลงเขาเลย แต่ถ้ารักแล้ว ก็จะขึ้นจากหลุมนั้นไม่ได้เลยเหมือนกัน แต่ช่วงแรกๆเพลงที่ทำออกมา ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ฟังสักเท่าไหร่ จนกระทั่ง ... เวลาผ่านมา 10 ปี อย่างที่พี่ต้าเคยกล่าวไว้ "ถึงเวลาที่เพลงทำงาน สื่อกับคนฟังได้ เขาก็จะชอบมันเอง" กว่าจะมีคนฟังเยอะขนาดนี้ ผ่านไปเป็น 10 ปี แต่เพลงกลับไม่เก่าเลย ... มันคือความคิดที่ทำเพลงให้ล้ำเกินกว่าจะนิยมฟังในยุคนั้นๆได้หรือเปล่า ? อันนี้ก็ไม่ทราบนะคะ 555 แต่รู้สึกว่า ใช่!
ในช่วงที่ออกอัลบั้มบนดิน เป็นอินดี้มีตรา ช่วงนั้นที่เราเริ่มรู้จักเขา 15 ปีผ่านมาแล้ว T T พี่ต้า ได้ทำแม็กกาซีนทำมืออกมาชื่อว่า TATAMAG เป็นกระดาษน่าจะ เอ3 แล้วพับครึ่ง เป็นนิตยสารเหมือนหนังสือพิมพ์ มีแม็กเย็บตรงกลาง ง่ายๆ แต่เป็นไอเดียที่เจ๋งดี สำหรับ 15 ปีที่แล้ว (มือถือยังไม่มีนะ) ในนิตยสารนั้น โลโก้คำว่า PARADOX จะใช้กล่องยาสีฟัน PARODONTAX แล้วก็ใช้ปากกาขีดๆ ตัว O ของคำว่า RO ออก แทนที่ด้วยการห้องตัว A แล้วก็ใช้ลิขวิดขีดๆตัว NTA ออก ตอนนั้นดูตลกแต่ก็ อืมมมม ... คิดได้ไง 555 เอ็นดูเป็นพิเศษ และถ่ายเอกสารทำเป็นหลายๆเล่ม ไม่รู้ขายได้หรือเปล่า ในเล่มรู้สึกจะมีการเล่าเรื่องต่างๆ ในการทำเพลง ทัศนะคติต่อสิ่งต่างๆ และหน้าท้ายๆ จะแนะนำวงอินดี้ วงใต้ดินในยุคนั้น จำได้ว่าเล่มที่ได้ มีวงแนะนำเป็นซีเปียด้วย ก็ไปหามาฟังนะ 555 เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักเพลงใต้ดิน มีหน้า ที่เป็นเนื้อเพลง ทั้งของพาราด็อกซ์เองและวงต่างๆ มีหน้าให้สั่งของ สั่งอัลบั้มของพาราด็อกซ์ด้วย ไม่แพงมาก แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ตอนนั้นได้เทปเพลง PARADOX AND MYFRIENDS มาไว้ในครอบครอง น่าจะให้ฟรี ไม่ได้ซื้อ เหมือนส่งให้เพราะอะไรสักอย่าง จำไม่ได้ ... นี่คือช่องทางแรกๆ ที่เราได้ติดต่อสื่อสารกัน ในเรื่องราวของการรับรู้ความเป็นไปของวง
ไม่นานหลังจากนั้น ช่วงอินเตอร์เนตเริ่มเข้าประเทศและการสนนทนาผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์เริ่มเป็นที่นิยม พาราด็อกซ์ก็เป็นวงแรกๆที่ได้ทำเวปบอร์ดเพื่อให้มีการติดต่อสื่อสารกันกับแฟนเพลง และนั่นทำให้เริ่มมีฐานแฟนเพลงของ พรด. เกิดขึ้นมาบ้างอาจจะไม่ถึงกับเฟื่องฟู แต่ก็ทำให้ศิลปินมีกำลังใจทำงานออกมาได้บ้างล่ะ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราห่างหาย ก็เด็กบ้านนอกอ่ะ อยู่ๆ จะได้มีคอมเป็นของตัวเองก็ยากนะ พ่อต้องพาไปนั่งร้านคอมวันละ 1 ชม. เพื่อหัดใช้และคุยกับเพื่อนที่อยู่มาเลเซียจากคำแนะนำของอาจารย์แลกเปลี่ยน (เมื่อก่อนมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ด้วยนะ เออ) พ่อน่าสงสารอ่ะ นั่งเฝ้าลูกเป็น ชม. สมัยก่อนค่าเนตก็แพงมาก T T ช่วงนั้นเลยเสพเพลงอย่างเดียว
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ พรด. เฟื่องฟูถึงขนาดที่มีคนวิ่งขอลายเซ็นต์ (ออกมา 3 อัลบั้มละนะ) 555 ทั้งๆที่คนอื่นบางคนไม่มีอะไรแบบนี้เลย แต่ดัง .. นี่คือความทุ่มเทให้กับแฟนเพลงที่มีเพียงแค่หยิบมือหนึ่ง (ฟังแล้วดูรันทด แต่ผลมันมาเกิดอีก 10 ปีให้หลัง) การกระทำที่เป็นเช่นดังคำเปรียบเปรยที่ว่า "แม้มีคนดูเพียงแค่คนเดียว การแสดงก็ต้องดำเนินต่อไป THE SHOW MUST GO ON" แม้มีคนเขวี้ยงส้อมขึ้นมาบนเวทีก็ยังคงจะเล่นละนะ ....แม้แฟนเพลงของพาราด็อกซ์จะมีเพียงแค่ 100/1000 ของศิลปินกลุ่มอื่น หรือ 100/10000 ของศิลปินบางคน แต่ฐานของเราเป็นฐานที่มั่นคงและเหนียวแน่นมาจากกว่าสิบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ศิลปินที่เห็นฐานแฟนเพลงยาวนานมาเป็นสิบๆปี เห็นที่แบบฐานแข็งแรงมากๆ เรายกให้พี่เบิร์ดค่ะ อันนั้นยอมรับเลย
ที่บอกว่าฐานของเราคือฐานที่แข็งแรงมากเช่นกันเพราะเราเป็นกลุ่มที่คอยติดตามผลงานของศิลปินมาอย่างยาวนานแบบที่ไม่ว่าจะแปลกจะประหลาด จะออกมารูปแบบไหน เราก็จะรอลุ้น (ว่าจะมีต่ออีกไหม) และรอฟัง ไม่เคยห่างหายแม้บางคน ไม่ได้แสดงตัวว่าตามมานานสักเท่าไหร่ อยู่ในมุมเงียบ ไม่เคยไปแชทในเวปบอร์ด ไม่ต้องตามไปทุกที่ แต่ไปทุกครั้งที่มีโอกาส พร้อมที่จะรวมตัวกันเพื่อไปฟังเพลงของเรา สิบกว่าปีผ่านมาอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น และไม่ค่อยปันใจ 555 วัดจากตัวเองหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ... เราพร้อมฟังเพลงของทุกศิลปินนะคะเรายอมรับด้วย เพลงดีๆมีเยอะมาก แต่มันไม่ใช่แนวทางเรา เหมือนกับที่ทุกคนสามารถฟังเพลงของศิลปินคนอื่นได้ แต่สุดท้ายก็จะฟังเพลงของคนที่ตัวเองชื่อชอบบ่อยครั้งกว่า บางทีเล่นจะจบเพลงละ กดให้มันเล่นซ้ำอีกรอบ ก่อนจะไปฟังเพลงคนอื่น เรานี่บางทีกดไปกดมา ฟังเพลงเดียวทั้งวันก็มี 555
ฐานแฟนเพลงรุ่นที่ 3.2 นับเป็นรุ่นตามนี้แล้วกันนะคะ รุ่นแรก คือรุ่นที่พวกเขารู้จักกันเอง แวดวง วงในละกัน รุ่นที่สองคือพวกที่มีตาต้าแม็กกาซีนและเริ่มติดตามผลงานอัลบั้มแรก คือ ลูนาติค แพลนเนต เรารุ่นสามละกัน 55 รุ่นระหว่างเปลี่ยนยุคสมัย เป็นรุ่น 3.1 ต่อด้วย 3.2 ที่เป็นรุ่นเล่นเวปบอร์ด นี่แหละค่ะ รุ่น 3.2 เป็นการปูทางในการผลิตแฟนเพลงและแฟนคลับรุ่นต่อมา ในยุคเทคโนโลยีไร้ขีดจำกัด แต่ 3G ในไทยจำกัดการใช้งาน ... (รู้สึกจะนอกเรื่อง) นำพามาสู่ สื่อสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค (ข้ามด็อกซ์ทีวีไปนะคะ) ในยุคนี้ขออธิบายยาวนิดนึงนะคะ เพราะเป็นช่วงที่เราติดตามข่าวสารได้เต็มที่
ในช่วงเวลาหนึ่ง ทางวงได้ทำเพลงเอาใจแฟนเพลงรุ่นใหม่ ที่เป็นเพลงเบาๆ อย่างอัลบั้ม DAYDREAMER หรืออัลบั้ม ที่ 6.1 ออกมา ทำให้เกิดกลุ่มแฟนเพลงหน้าใหม่ขึ้นมาจำนวนไม่น้อย และสังเกตุได้ว่า แฟนเพลงรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และอายุของแฟนเพลงรุ่นหลังๆ เริ่มไล่ระดับถอยหลังลง คือเป็นเด็กอายุระหว่าง 15-22 ปี เพลงออกมาน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีครั้งหนึ่งไปกดฟังเพลง ปิศาจในยูทูป แล้วไล่อ่านคอมเมนท์จะมีความเห็นหนึ่งเขียนประมาณว่า "ไม่น่าเชื่อว่านี่คือ Paradox ปกติเห็นทำแต่เพลงเบาๆ" ทำเอาคนอ่านขำแทบตาย เป็นอัลบั้มที่ทำ "หลอก" คนฟังจริงๆ แต่ไม่ได้ทิ้งความเป็นพาราด็อก เพียงแต่ทั้งอัลบั้มนั้นเน้นไปในแนวหวานๆเท่านั้นเอง บอกตามตรง แฟนเพลงอย่างเราฟังเพลงในอัลบั้มนี้น้อยมาก ตัดเพลง มันใหญ่มากออกก็มี เรดิโอและรสชาติแห่งความรักที่ฟังทีไรก็มองเห็นภาพพาราด็อกซ์ที่เป็นรูปเป็นร่าง อาจจะเพราะเพลงเศร้าแบบชัดเจนและออกมาในแนวทางด็อกซ์อย่างชัดเจนกว่าเพลงอื่นๆ เป็นการเรียกแฟนคลับอย่างกับพระสังข์เรียกปลาอย่างไรอย่างนั้น และมันได้ผล จากการทำเพลงชุดนี้ แฟนคลับเพิ่มขึ้นมาเยอะมากพอสมควร ส่งผลให้ เวปบอร์ด ตาต้าแม็กมีการเคลื่อนไหวในห้องแชทอยู่บ้าง ขบหลอกคนทั้งประเทศเลยนะเห็นไหม 555 ได้แฟนคลับมาเพียบ
ที่บอกว่าอัลบั้มหลอกๆ ก็เพราะอัลบั้ม 6.2 ที่กำลังจะตามออกมา เร็วๆนี้ (ซึ่งไม่สามารถการันตีได้ว่าในช่วงไหนของปีเพราะจะปลายปีอยู่แล้ว ต้นปีก็ไม่น่าใช่ เพราะปีที่แล้วก็บอกว่าต้นปียังเลยมาถึงปลายปีนี้ได้เลย T T) อัลบั้มที่จะตามออกมาคือของจริงที่อัดแน่นไปด้วยความเป็นพาราด็อกซ์ที่อาจจะดังในอีก 10 ปีข้างหน้าเหมือนอัลบั้มที่ผ่านมา 555 แต่พี่ต้าได้ทำการหลอกให้คนมาตกหลุมรักไปแล้วน่ะสิ และถ้าคนรักไปแล้วนี่ .. ถอนตัวยากนะ ขนาดเพลงที่ผ่านมาเป็นสิบๆ ปียังไปตามหาซื้อหาฟังกันเลย ราคาบางแผ่น 4,000-5,000 บาทก็ยังซื้อกัน เพราะฉะนั้นเพลงใหม่ที่จะออกมา ต่อให้ดิบแค่ไหน ถ้าฐานแฟนคลับยังคงหนาแน่นอยู่แบบนี้ ยังไงเสีย เพลงก็คงจะพอทำงานได้บ้าง และยังจะสามารถขยายแนว เหมือนแขนงของต้นไม้ออกไปสู่เพื่อนๆของกลุ่มแฟนๆได้ต่ออีกเรื่อย นี่คือการวางแผนปูทางไปถึงอนาคตข้างหน้า ของเค้าจริงๆเลย พี่ต้านี่ไม่เคยคิดอะไรแค่ระยะใกล้ๆนะคะ พี่เค้าจะคิดจากปายไปถึงสุไหงโกลก ประมาณนั้นเลย คิดปีนี้ แพลนเหตุการณ์ตามความคาดเดาไปจนถึงอีกสิบปีข้างหน้า (เว่อร์ไปละ) 555
เมื่อปล่อยเพลงใหม่ (ตั้งแต่ปีที่แล้ว) ออกมา ทางป๋าเต็ดก็กรุณาพวกเราเหลือเกินค่ะ จัดให้มีคอนเสิร์ตใหญ่ของ พรด. ขึ้นมาในวันที่ 26-05-13 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดการติดตามในเพจหลักและเพจของศิลปินเกิดขึ้นอย่างล้นหลาม สิ่งหนึ่งที่เขาทำคือ นอกจากเพจของวงที่เป็นเพจหลักแล้ว เพจศิลปินเป็นเพจส่วนตัวทุกคนค่ะ คือนอกจากกดติดตามก็รับข่าวสารได้ แต่โพสต์อะไรไม่ได้ ส่งข้อความยังได้นั้นนะคะ แต่สิ่งพิเศษคือ ไม่มีแอดมินค่ะ ตัวศิลปินเล่นเองตอบเอง ที่ได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆเลย แม้จะไม่ได้ตอบทุกคน แต่ก็พยายามให้ทั่วถึง(เหนื่อยน่าดู) บางทีถ้าเพื่อนเต็มก็สามารถส่งข้อความเข้าไปคุยก็ได้ค่ะ นี่คือสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้กับแฟนคลับ ทั้งๆที่ยุ่งและวุ่นกับงาน แต่ก็ยังพยายามมาตอบคำถาม มาพูดคุย แกล้งแฟนคลับอยู่เสมอ บางทีก็หาปริศนาอะไรมาให้เราปวดหัวกันเล่นๆ มีรางวัลบ้างไม่มีบ้าง ปั่นหัวกันวุ่นวายไปหมดก็มี
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือ วิทยุออนไลน์ที่ทางพี่ต้าลงทุน จ่ายค่าเช่าเวลาเองเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารกับแฟนๆให้เข้าถึงกันได้มากยิ่งขึ้น ด้วยฐานแฟนของ พรด. ไม่ได้มีเยอะมากมายนี่คือสถานการณ์ได้เปรียบของเราค่ะ บางคอนเสิร์ตที่เราไปมา บางคนสงสัย เฮ้ยยย แฟนคลับพาราด็อกซ์ ทำไมเยอะขนาดนี้ เยอะขนาดนี้จริงๆเหรอ ...จริงๆแล้ว ไม่ใช่ 555 นี่คือความมีไหวพริบของพี่ต้าค่ะ เราไม่ดูถูกศิลปินเรานะคะ แต่เรายอมรับว่าแฟนคลับจริงๆ มีน้อยเมื่อเทียบกับวงอื่น ถ้าเอาเข้าจริงเรานี่สู้ไม่ได้ ไม่นับรวมกลุ่มผู้ชายผู้นิยมเพลงร็อคเป็นทุนเดิม ที่โดดได้กับทุกศิลปินนะคะ เช่นงานที่ CTW ไม่ขอบอกแล้วกันนะคะว่ามีศิลปินท่านไหนบ้างและงานอะไร ที่แน่ๆ ไม่ได้จัดผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้แน่นอนค่ะ แต่พาราด็อกซ์จากที่ต้องเล่นเป็นวงที่ 2 วันนั้นพลิกเวลาคะได้เล่นเป็นวงปิด ศิลปินที่เล่นก่อนหน้าจริงๆแล้ว มีแฟนเพลงเยอะมากๆ ยิ่งวงแรกนี่แฟนคลับเยอะสุดๆ แต่เขาอาจจะรับข่าวสารได้ไม่เต็มที่พอค่ะ อาจจะไม่เห็นตารางงานหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มานิดเดียว แต่พวกเราก็ทั้งร้องทั้งเต้นไปกับเขานะ ในช่วงที่สองวงแรกเล่น คนดูก็มีร้องบ้าง โดดบ้าง แต่เป็นกลุ่ม เพราะที่เหลือเป็นแฟนด็อกซ์ที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงของสองวงแรกเลยคะ เราก็คุยกับเพื่อนว่า ปกติแฟนคลับเพียบแทบจะเหยียบกันตาย วันนี้ทำไมน้อย เพลงก็ร้องไม่ได้ จะเปิดดูเนื้อร้องช่วยก็อาย ก็ได้แต่โบกมือบ้างโดดบ้าง แต่เรานึกถึงวง พรด. ที่เมื่อก่อนคน งง เวลาเล่น 555 ว่าเขาทำอะไรกัน มันรู้สึกจริงๆว่า ถ้ามีกลุ่มคนที่ชอบแบบเดียวกันมาเยอะๆ เราคงกล้าโดด คงสนุกกว่านี้
อีกงานหนึ่ง จัดที่หอศิลป์งานเล็กๆ ที่มีศิลปินที่ไม่เล็กเลยไปร่วมงาน มี 2 วงและเช่นเคย อีกวงคือ พรด. วงก่อนหน้าแฟนเพลงก็เยอะ แต่วันนั้นเจอมวลชนชาวด็อกซ์กลบซะ พื้นที่ด้านหน้าถูกจับจองด้วยเด็กซ์ด็อกซ์ (เราคุ้นหน้ากันทั้งนั้น แค่เสื้อก็บ่งบอกแล้ว) เล่นเอาคนอึ้งไปเลยว่า แฟนคลับ พรด. นี่เยอะขนาดนี้เลย ...555 เปล่าหรอกค่ะ แค่เรามากันเยอะกว่าแค่นั้นเอง