-10 เหตุผลที่คุณควรดูเรื่อง About Time ให้ได้ซะเดี๋ยวนี้-
1. มันเป็นหนังรักอันดับ 1 ในดวงใจที่เบียดแซง 500 Days of Summer ได้เลย
2. Soundtrack เพราะมากกก เพราะทั้งเรื่องเลย โดยเฉพาะเพลง How Long Will I Love You ที่จะต้องฮัมติดปากอยู่อีกหลายวัน
3. ความรู้สึกก่อนเข้าโรง กับ ออกจากโรงสามารถพุ่งเปลี่ยนเป็นกราฟแนวตั้ง 90 องศาเลยแหละ
4. ฉากจี้ๆ ในเรื่องทำได้ตลกระดับที่เราสามารถระเบิดหัวเราะออกมาได้อย่างไม่อายคนรอบข้าง
5. เป็นหนังที่คาดหวังไปเท่าไหร่ โดนประโคมเชียร์มาแค่ไหน ดูจบก็จะไม่ผิดหวัง และอดชอบมันไม่ได้
6. นางเอก (เรเชล แม็กอดัมส์) น่ารักมากกกกก น่าแปลกใจที่เธอหน้าเด็กลงกว่าเรื่อง Time Traveler's Wife หรือ The Notebook ซะอีก
7. ส่วนพระเอก เราก็จะรู้สึกว่าเขาหล่อและมีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตอนใส่แว่นกันแดดสีดำนี่เท่อย่างกับนักร้องนำวง Two Door ฯ
8. คำว่า 'หนังที่ดูแล้วเปลี่ยนมุมมองเราต่ออะไรบางอย่างไปตลอดกาล' ไม่เกินเลยที่จะใช้กับหนังเรื่องนี้เลย
9. ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเหี่ยวเฉาไร้รัก หรือแฮปปี้อินเลิฟ ดูเรื่องนี้แล้วคุณจะมองความรักเป็นเรื่องที่สดใสอิ่มใจได้ไม่แพ้กัน
10. ...นี่ยังต้องการเหตุผลข้อที่ 10 อีก จริงๆ เหรอ? บ้าหน่า
ส่วนตัวดิฉันแอบเถียงข้อ 1 ในใจ เพราะ 500 days of summer เป็นหนึ่งในดวงใจเสมอมาคะ
-10 เหตุผลที่คุณควรดูเรื่อง About Time ให้ได้ซะเดี๋ยวนี้- อ้างอิงจากUniform
แต่วันนี้กลับมารีวีวหนังสะงั้น
โดยส่วนตัว อยากดูหนังเรื่อง About time มากคะ และมาเจอบทความนี้พอดีเลยอยากแชร์ให้ชาวพันทิพอ่านกันคะ
1. มันเป็นหนังรักอันดับ 1 ในดวงใจที่เบียดแซง 500 Days of Summer ได้เลย
2. Soundtrack เพราะมากกก เพราะทั้งเรื่องเลย โดยเฉพาะเพลง How Long Will I Love You ที่จะต้องฮัมติดปากอยู่อีกหลายวัน
3. ความรู้สึกก่อนเข้าโรง กับ ออกจากโรงสามารถพุ่งเปลี่ยนเป็นกราฟแนวตั้ง 90 องศาเลยแหละ
4. ฉากจี้ๆ ในเรื่องทำได้ตลกระดับที่เราสามารถระเบิดหัวเราะออกมาได้อย่างไม่อายคนรอบข้าง
5. เป็นหนังที่คาดหวังไปเท่าไหร่ โดนประโคมเชียร์มาแค่ไหน ดูจบก็จะไม่ผิดหวัง และอดชอบมันไม่ได้
6. นางเอก (เรเชล แม็กอดัมส์) น่ารักมากกกกก น่าแปลกใจที่เธอหน้าเด็กลงกว่าเรื่อง Time Traveler's Wife หรือ The Notebook ซะอีก
7. ส่วนพระเอก เราก็จะรู้สึกว่าเขาหล่อและมีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตอนใส่แว่นกันแดดสีดำนี่เท่อย่างกับนักร้องนำวง Two Door ฯ
8. คำว่า 'หนังที่ดูแล้วเปลี่ยนมุมมองเราต่ออะไรบางอย่างไปตลอดกาล' ไม่เกินเลยที่จะใช้กับหนังเรื่องนี้เลย
9. ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเหี่ยวเฉาไร้รัก หรือแฮปปี้อินเลิฟ ดูเรื่องนี้แล้วคุณจะมองความรักเป็นเรื่องที่สดใสอิ่มใจได้ไม่แพ้กัน
10. ...นี่ยังต้องการเหตุผลข้อที่ 10 อีก จริงๆ เหรอ? บ้าหน่า
ส่วนตัวดิฉันแอบเถียงข้อ 1 ในใจ เพราะ 500 days of summer เป็นหนึ่งในดวงใจเสมอมาคะ