ถ้าไม่อยากอ่านบทวิเคราะห์ละครในมุมมองของผม
ขอเชิญเพื่อนๆ ลองไปอ่านข้อคิดดีๆ
จากบทพูดของตัวละครในเรื่องได้เลยครับ เริ่มที่ ความคิดเห็นที่ 2


ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าสิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ นำเสนอจากมุมมองที่ได้จากการตีความของผมเอง ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ     ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบ และรู้สึกประทับใจในหลายๆอย่างที่ละครได้นำเสนอเอาไว้

           เรื่องโปรดักชั่น การถ่ายทำ มุมกล้อง คงมีหลายคนชื่นชมและพูดถึงไปหลาย ดังนั้นประเด็นที่ผมจะเสนอ คือเรื่องของ บทละครครับ นั่นก็คือ แก่นของเรื่องนั่นเอง
           ดาวเกี้ยวเดือน...คือละครที่นำเสนอและชักชวนให้ผู้ชมออกไปไล่ล่าหาสเปิร์มจริงๆเหรอ...?

           คำตอบ...สำหรับผมคือ...  ไม่ครับ เพราะ ถึงแม้พล็อตหลักของเรื่องจะถูกวางไว้ว่า
นางเอกผู้เคยผิดหวังกับความรักครั้งแล้วครั่งเล่า จนตัดสินใจแน่วแน่ว่าในชาตินี้จะไม่รักใครอีกและไม่แต่งงาน
แต่นางอยากมีลูก ซึ่งหนทางเดียวที่จะทำให้มีลูกได้โดยไม่ต้องแต่งงานคือ การทำเด็กหลอดแก้ว ... ภารกิจของการล่าสเปิร์มของคนที่ถูกตาต้องใจจึงได้เริ่มขึ้น

           ถึงกระนั้น เมื่อละครออกอากาศไปเรื่อยๆ กลับพบว่า ประกายดาว (ย้ำนะครับ ว่าหมายถึง ประกายดาว! ตัวละครหลักของเรื่อง)ไม่ใช่ผู้หญิงแรงอะไรในเรื่องแบบนั้น
ตรงกันข้าม เธอคือผู้หญิงมั่น ตัวแทนสาวยุคใหม่ ที่เก่งรอบด้าน ฉลาดและรู้ทันผู้ชายในหลายๆครั้ง (โดยเฉพาะผู้ชายเจ้าชู้) ในละครผู้ชมจะพบว่า ประกายดาวคือ 1 ในนางเอก ที่หวงเนื้อหวงตัวที่สุด (ก็แน่ละ นางอยากมีลูก แต่ไม่อยากมีสามี) เธอไม่เคยให้ชายใดล่วงเกินถ้าไม่ถึงเวลาอันสมควร รักเพื่อนฝูงและจริงใจ

          ละครไม่ได้นำเสนอว่า ประกายดาวเป็นผู้หญิงแรง ที่วันๆไม่ทำอะไร คอยแต่จะไล่จับผู้ชาย แต่ความจริงแล้วละครกำลังสอนอะไรผู้ชมหลายอย่าง ที่ผมพอจะมองออกได้แก่...

          1. ละครสะท้อนวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในเมืองใหญ่ ทุกวันนี้ผู้หญิงมีสถานะ ความเท่าเทียมไม่ต่างกับผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการงาน หรือหน้าตาทางสังคม สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนยังเป็นโสด เพราะเธอสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร และบางทีเธอก็ไม่อยากมีภาระหรือเรื่องวุ่นวายใจ จากคู่ครองที่ไม่ได้เรื่อง

            คนโสดในดาวเกี้ยวเดือนมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น
            โสดมั่นแต่บ้า(ตรงความคิดทำเด็กหลอดแก้ว) แบบ ประกายดาว
            โสดเจ้าชู้ เพราะไม่เจอรักแท้ แบบ พงศ์จัน
            โสดเพอร์เฟ็ค แบบ คุณชายจันทร์
            โสดกูรู เป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น แต่ตัวเองเอาตัวไม่รอด แบบ หญิงนิ่ม (เก่งเรื่องความรัก ในด้านทฤษฎี แต่ตกปฏิบัติ) 555
            โสด(ไม่จริง) คอยยิงท้ายครัวชาวบ้าน  แบบ รติรส
            โสดแบบโหยหายความรัก(ที่ไม่จริงใจ)  แบบ หญิงนัน(ซานิ)

            2. ละครสะท้อนชีวิตคู่ของคนในสังคมปัจจุบันในรูปแบบต่างกันออกไป คำว่า "ครอบครัว" ในยุคปัจจุบัน ไม่จำเป็นเสมอไปว่าต้องประกอบด้วย "พ่อ แม่ และลูก" ครอบครัวนั้นถึงจะสมบูรณ์และมีความสุข แต่ละครอบครัวมีองค์ประกอบที่ต่างกันออกไป
และองค์ประกอบเหล่านั้น ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าชีวิตครอบครัวจะประสบความสำเร็จหรือมีความสุขหรือไม่ ตัวอย่างที่เด่นๆในละครได้แก่

            * ครอบครัวของเพื่อนนางเอก(อ้นศรี) เป็นครอบครัวสมัยใหม่ที่มีลูกมาก(ลูกสาว4) แต่ด้วยความรักของพ่อแม่ ที่เราจะได้เห็นในละครว่าอ้นกับสามี(พี่ไก่)ถึงแม้จะเน้นฮา แต่ทั้งคู่แสดงความรักต่อกันตลอดเวลา ทำให้ลูกสาวเติบโตมาเป็นเด็กร่าเริงสดใสเพราะมีความครัวที่อบอุ่น

            * ครอบครัวของพี่ดิน(พี่ชายประกายดาว) ที่สามีเป็นผู้นำครอบครัว จนทำให้บางครั้งเลือกที่จะทำงานหนักเพื่อลูกเพื่อเมีย แต่ลืมใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาเกิดล้มป่วย ทำให้ทราบว่าเธอจะมีลูกไม่ได้อีก ถ้าได้รับการรักษา
              ภรรยาไม่ยอมรักษา เพราะอยากมีลูก แต่ฝ่ายสามีกล่าวว่า มันจะสำคัญอย่างไร หากมีลูกเพิ่มอีกคนแต่เราไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาหันมาใส่ใจครอบครัวมากขึ้น

           * ครอบครัวของอรอุมา+ศิวะ เป็นตัวอย่างครอบครัวสมัยใหม่ ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะปัจจัยภายนอกและภายใน
ปัจจัยภายนอกที่ว่าคือ ทั้ง 2 คนเหมือนจะถูกจับคลุมถุงชน เพราะบ้านศิวะที่อยากให้ลูกชายแต่งงานกับคนรวยๆ ทำให้เขาไม่ได้รักอรอุมา
และปัจจัยภายในที่สำคัญยิ่งกว่า คือ... ความเจ้าชู้ ไม่รู้จักพอ ไม่รับผิดชอบ ของศิวะ ที่ก่อเรื่องราวมากมาย
และ ความเอาแต่ใจของอรอุมา เพราะเธอถูกเลี้ยงดูแบบมาตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรต้องได้ เธอจึงทำได้ทุกอย่างเพื่อจะชนะ
เมื่อแรงกับแรงมาเจอกัน ครอบครัวนี้จึงล้มอย่างไม่เป็นท่าแบบที่เห็นในละคร