LKPP Review : Gravity (2013), "หนังไซไฟที่พาเราออกสู่นอกโลกได้จริงๆ"

LKPP Review : Gravity (2013)



เป็นโปรแกรมเพชรที่บอกกับตัวเองตั้งแต่ต้นๆปีว่ายังไงก็ต้องไปดูแบบจอยักษ์
ให้ได้เลยทีเดียว สำหรับหนังไซไฟเรื่องล่าสุดของ "อัลฟองโซ่ คัวรอง" เรื่องนี้
ครับ เพราะแทบไม่อยากเชื่อว่า นับตั้งแต่ Children of Men นั้น คัวรองจะกลาย
เป็นคนทำหนังไซไฟที่มีกึ๋นและอัฉริยะถึงขนาดนี้ จนนึกไม่ถึงว่านี่จะเป็นคนเดียว
กับที่เคยทำหนังบรรยากาศฟุ้งๆอย่าง Great Expectations, Y Tu Mamá También
หรือ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban มาก่อน ...แต่ Gravity พิเศษ
กว่าทุกงานที่ผ่านมาของคัวรองเพราะเขาหยิบเอาเรื่องง่ายๆพื้นๆอย่างเรื่องของ
"ปัญหาของนักบินอวกาศ" มาขับเคลื่อนด้วยบท ภาพ และพลังการแสดง จนผม
พูดได้เต็มปากเลยครับว่าคุณต้องไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้บนจอหนังมาก่อนแน่นอน



..มีหนัง 3 เรื่องที่ผมดูแล้วรู้สึกว่ามันอึดอัดจนจุกหายใจไม่ออก คือ เมื่อนักประดา
น้ำอยู่ท่ามกลางฝูงฉลามใน Open Water, เมื่อไรอัน เรย์โนลด์ นอนในโลงศพแล้ว
โดนฝังทั้งเป็นใน Buried และเจมส์ ฟรังโก้ ที่เอาแขนไปติดในซอกหินใน 127 Hours
...นี่คือหนังสามเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดได้แม้ไม่โดนด้วยตนเอง ทำให้เกิดความรู้สึก
จุกคอหอยทุกครั้งเวลาดู แต่เอาจริงๆแล้วผมดูหนังไซไฟมาเยอะแยะ แต่ก็ไม่เคยรู้สึก
ว่าอวกาศมันเป็นสถานที่ที่น่าอึดอัดมาก่อน เพราะตัวละครส่วนใหญ่ก็เจอปัญหากันใน
ยานนี่เอง ..แต่ Gravity สร้างภาพปัญหาการทำงานของนักบินอวกาศที่ต้องออกไป
ทำงานนอกยาน ลอยเคว้งคว้าง หากเอาหมวกออกก็ขาดอากาศหายใจ ฟังดูไม่ต่าง
จากอยู่ในมหาสมุทรเท่าไหร่ แต่อย่าลืมนะครับว่าอวกาศไม่มีจุดสิ้นสุดที่แผ่นดินเหมือน
มหาสมุทร XD หากคุณไม่มีสติตอนหลุดลอยไปล่ะก็ตายสถานเดียว



สิ่งที่ผมบรรยายไปนั้นถูกทำให้กลายเป็นภาพที่สมจริงด้วยพลังของเทคโนโลยี และ CG
ผสมกับพลังการแสดงของ แซนดร้า บูลล็อค และ จอร์จ คลูนีย์ ที่ทำให้ภาพการเอาชีวิต
รอดในสภาวะไร้น้ำหนักออกมาดูสมจริงและตื่นตาตื่นใจ ..การได้สำผัสฉากวิกฤตใน
อวกาศแบบ Long Take ที่สุดจะวิจิตรและชวนหยุดหายใจ จนอยากรู้เหลือเกินว่า
คัวรองกำกับฉากแบบนี้ออกยังไงกันแน่!?

แม้เนื้อหาของหนังจะไม่ได้มีอะไรมากมาย (นักบินอวกาศทำงานนอกยาน แล้ว
เกิดเหตุผิดพลาดบางอย่าง จนต้องหาทางกลับสู่โลก ...เนื้อหามีแค่นี้จริงๆ)
แต่มันกลับส่งผลดีต่อหนังมากเพราะมันทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้
ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่ต้องแบ่งไปสำผัสอารมณ์อื่นๆมาก ...แต่หนังเองก็ไม่ได้
มุ่งสร้างอารมณ์ระทึกขวัญอย่างเดียว ตามประสาหนังของคัวรองที่ในแม้จะสร้าง
ภาวะที่น่าหดหู่ขนาดนั้น เราก็ยังสำผัสถึงความหวังได้เสมอ



เอาเป็นว่านี่เป็นหนังเรื่องที่ 3 ในปีนี้ครับที่ผมไม่มีอะไรจะติ เพราะสิ่งที่หลงเหลือ
ออกมาจากโรงคือ "..เรากลับมาสู่โลกแล้วหรือ?" ...มันเกิดอิมแพคที่ฟัง
ดูเว่อร์ๆเช่นนั้นจริงๆครับผม


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนน : 10/10 อย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ

ปล.โรงที่ผมชมไม่ใช่โรง IMAX นะครับ เป็นโรงดิจิตอลธรรมดา ^ ^
แต่ว่าอยู่ว่าจะต้องไปสำผัสหนังเรื่องนี้ ในโรง IMAX ในเร็วๆนี้แน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่