ข้อมูลพลังงานไทย ที่เผยแพร่กันอยู่ ทำไมคนไทยไม่สนใจ

กระทู้คำถาม
แท๊ก ห้องว่าก่อ เพราะมันเกี่ยวธรณีวิทยา  อยากรู้จริงไม๊
แท๊ก ห้องสินธร เพราะมันเรื่องเศรษฐกิจเงินในกระเป๋าเราหายไปเพราะพลังงานเยอะ
แท็ก ห้องราชดำเนิน  เพราะยังไงมันก็มีการเมืองเข้ามาเกี่ยว  เลิกมโน ว่าใครจะล้มรัฐบาล
       เอาหลักการเหตุผลมาคุยกัน

ทั้งหมดทั้งมวล อยากรู้ความจริงคืออะไร ก๊อป เขามาถามเพราะอยากรู้
ชวนกันช่วยหาคำตอบ ที่เขา โพสต์ ๆ กันใน IF   พันทิปสนใจป่าว  
หรือมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการ  เถียงกันเรื่อง แมงสาป  ปชป.

.

ภาพนี้เป็นภาพธรณีวิทยาเก่าแก่ ที่บริษัทขุดเจาะนำมาประกอบเอกสาร
ภายในที่แสดงต่อฝ่ายบริหาร เป็นภาพที่น่าภูมิใจของไทย แต่กลับรู้สึกเสียดายและ
เสียใจที่เด็กไทยไม่มีโอกาสรู้เรื่องนี้ในชั้นประถม
เขาน่าจะรักแผ่นดินแม่มากกว่านี้ได้หากรู้ว่า แม่ทิ้งมรดกมากกว่าผิวดินไว้ให้

(เราจะทำไปเรื่อยๆ ปล่อยไปเรื่อยๆ นะ)
http://www.asx.com.au/asxpdf/20130306/pdf/42dhgbbx9xyxbn.pdf
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
ต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมที่แท้จริง

ผู้ที่จัดทำรูป ได้เข้าใจผิดและนำต้นทุนส่วนกระบวนการผลิต (Production Cost หรือ Lifting Cost) มาเพียงแค่อันเดียว ซึ่งความเป็นจริงแล้วต้นทุนการผลิตทั้งหมดจะต้องรวม ต้นทุนที่เกิดจากการสำรวจและค้นหา ต้นทุนการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม ต้นทุนการบริหารจัดการ รวมถึงต้นทุนของดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกครับ รูปดังต่อไปนี้เป็นการแสดงยอดขายและต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในส่วนของสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของบริษัท Hess Corp ปี 2011


รูปที่ 6: แสดงยอดขายและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งหมดของบริษัท Hess Corp ในปี 2011

1. Production expenses including related taxes (ค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิต หรือ Lifting cost)

ต้นทุนค่าใช้จ่ายนี้คือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกระบวนการผลิตเท่านั้น จากคำนิยามที่ทาง HESS ให้ไว้คือ เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนกระบวนการผลิต การซ่อมบำรุงรักษาหลุมผลิต, อุปกรณ์การผลิต รวมค่าขนส่งและส่วนที่เป็นภาษีเพิ่มเติม (เป็นค่าภาคหลวง ผลตอบแทนพิเศษ ส่วนแบ่งกำไร) บางบริษัทจะแยกส่วนที่เป็นค่าภาคหลวงและค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องให้รัฐอีกต่างหาก ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ทาง HESS Corp แยกเป็นส่วนของทวีปเอเชียเท่ากับ $10.62/BOE

2. Exploration expenses, including dry holes and lease impairment (ค่าใช้จ่ายในการสำรวจ)

ต้นทุนค่าใช้จ่ายนี้คือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการสำรวจและขุดเจาะหลุมสำรวจปิโตรเลียมทั้งหมด รวมถึงหลุมที่ไม่พบปิโตรเลียมด้วย ต้นทุนนี้คือต้นทุนส่วนนึงของ Finding Cost

3. General, administrative and other expenses หรือ G&A (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ)

เป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนของการบริหารจัดการ การดำเนินงาน ธุรการ ค่าจ้างผลตอบแทนพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

4. Depreciation, Depletion and Amortization หรือ DD&A (ค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้นและค่าตัดการจำหน่าย)

ต้นทุนค่าใช้จ่ายนี้คือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม มันคือส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ในแหล่งปิโตรเลียมที่ค้นพบปริมาณสำรองที่พิสูจน์ได้แล้ว เงินลงทุนก่อสร้างแท่นผลิตต่างๆและขุดเจาะหลุมผลิตตอนพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมจะกลายเป็นสินทรัพย์ เช่น หลุมสำรวจ หลุมผลิต แท่นผลิต เครื่องมืออุปกรณ์การผลิต รวมถึงต้นทุนการรื้อถอน ฯลฯ มูลค่าของพวกนี้จะมีค่าเสื่อมราคาโดยคำนวณโดยวิธีสัดส่วนของผลผลิตตลอดอายุของปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว เมื่อหมดอายุสัมปทาน ของเหล่านี้จะกลายเป็นแค่เศษเหล็กที่ต้องรื้อถอนออกไป ดังนั้น ส่วนนี้คือต้นทุนที่จ่ายแล้วจริงตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม (ส่วนนึงของ Finding Cost เช่นเดียวกัน) แต่ใช้วิธีทยอยตัดรายจ่ายในรูปค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายนั่นเอง ส่วนแหล่งที่พบปริมาณที่ไม่คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์สินทรัพย์ทุกอย่างจะถูกตัดการจำหน่ายเป็นค่าใช้จ่ายออกไปทั้งหมด

5. Asset Impairment (การด้อยค่าของสินทรัพย์)

ต้นทุนค่าใช้จ่ายนี้จะคล้ายในส่วนของค่าเสื่อมราคา แต่เกิดจากการที่ราคาตลาดของสินทรัพย์ที่เกิดจากการลงทุนพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม (หลุมสำรวจ หลุมผลิต แท่นผลิต ฯลฯ) ที่ผมอธิบายในส่วนของค่าเสื่อมราคาฯ นั้น มีราคาเปลี่ยนแปลงลดลงมากกว่าความเสื่อมราคาเนื่องจากการใช้งาน สินทรัพย์ที่เรามีล้าสมัยแล้ว (ราคาตก) รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจนมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ (กู้เงินมาสร้าง) ถ้าสมมติเราขายสินทรัพย์ (เช่น ขายกิจการ) จะทำให้ขายได้ในราคาต่ำกว่าต้นทุนจริงหลังหักค่าเสื่อมไปแล้ว ดังนั้นต้นทุนนี้คือต้นทุนแฝงในส่วนของ Finding Cost ด้วย

ที่ขาดไม่ได้อีกอันก็คือ

6. Petroleum Income Taxes (ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม)


จะมากน้อยขึ้นอยู่รายได้สุทธิก่อนหักภาษีนั่นเอง และอัตราภาษีก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศที่ไปลงทุนด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่ค่อยสนใจกันหรอกครับ

ผมเห็นยังมีแชร์กันตาม fb อยู่เลย
ว่าไทยเราเป็น "มหาอำนาจด้านพลังงาน"
เพราะเรามีบ่อน้ำมันอยู่ที่ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร !!!!

แล้วก็มีคนเชื่ออีกต่างหากครับ ทั้งๆที่ปริมาณที่เรามีนั้นมันน้อยนิดจนไปเทียบกับใครเขาไม่ได้เลย

จากนั้นก็บานปลายกลายเป็นว่าว่าจะทวงคืน ปตท. (เมิงจะไปทวงจากใครล่ะ ??)

แถมยังด่ากันเลอะเทอะ
ว่า ปตท.สูบเลือดสูบเนื้อคนไทย
ด้วยการขายน้ำมันแพง หากินกับคนไทยด้วยกัน

โธ่....ปั๊มไหนๆมันก็ขายราคาไม่ได้หนีกันหรอกครับ
จะไปเติมเอสโซ่ ,  เชลล์ , เพโทรนาส  , คาลเท็กซ์
หรือ จะย้อนยุคไปตั้งแต่สมัยปํ๊ม "สามทหาร" ราคาน้ำมันๆก็ไม่มีใครขายแพงกว่าใครหรอก

แต่ไอ้ที่ด่าๆกัน
แชร์ๆกัน กดไล้ค์กัน สนุกมือ
ในประเด็นที่ว่า "ปตท.ขายชาติ คนไทยเราใช้น้ำมันแพงกว่าราคาส่งออก" เนี่ย

มันเป็นเพราะว่าน้ำมันที่เรา "ส่งออก" นั้น
เราอ้างอิงราคาของน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ครับ
ราคาที่เราใช้อ้างอิงนั้น มัน "ไม่มีค่าการตลาด , ค่าภาษี , เงินกองทุน"  อย่างที่ผมบอกไว้ในตอนต้น

เพราะไอ้ "ค่าการตลาด , ค่าภาษี , เงินกองทุน"  มันจัดเก็บเฉพาะน้ำมันในไทยเท่านั้นครับ

ก็เลยกลายเป็นวาทกรรม "ขายชาติ" , "ทวงคืน", "คนไทยใช้น้ำมันแพง" ...อะไรไปโน่นเลย....

ทุกอย่างมันมีกลไกอย่างที่บอกนั่นแหละครับ

หากปล่อยให้กำหนดราคากันเอง
ผมว่าจะยิ่งยุ่ง วุ่นวาย จนถึงขั้นเละเทะเลยก็ได้

เพราะถ้าโรงกลั่นตั้งราคาแพงเว่อร์กว่าตลาดโลกในแบบตามใจฉัน
พ่อค้าน้ำมันเขาก็ไม่ซื้อ แต่เขาจะไปนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศแทน

ไอ้ครั้นจะให้เขาทะลึ่งขายถูกกว่าตลาดโลก
มันก็ต้องมองตามหลักความเป็นจริงว่าเขาไม่ใช่ "มูลนิธิ" ครับ
แต่เขาคือองค์กรธุรกิจ ที่มันต้องคำนึงถึงผลกำไรขององค์กร...ไม่งั้นผู้ถือหุ้นเขาสวดชยันโตแน่ๆ

เราไม่ใช่ประเทศใน "กลุ่มโอเปค"
ที่จะมีน้ำมันราคาถูกมาให้ใช้กันนะครับ
เราเป็นประเทศที่ที่ผสมผสานระหว่างเกษตรกรรม กับ อุตสาหกรรม

แหล่งพลังงานที่เรามี
มันไม่ได้มากมานเหมือนพวกโอเปคเขามี
เอออ....ถ้าเป็น ข้าว หรือ ยางพารา ก็ว่าไปอย่าง !!!

นอกจากไม่หาข้อมูลมาศึกษาแล้ว
คนไทยบางส่วนยังเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความเชื่อแบบ จีรนันท์ "มโนแจ่ม" กันอีกต่างหาก !!!


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่