สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ตอนนี้สับสนมากๆไม่รู้ว่าจะเลือกเส้นทางไหนดี อยากได้คำแนะนำดีๆเพื่อเป็นแนวทางหน่อยค่ะ
เรามีลูกกับแฟน ตอนนี้ลูกอายุ11 เดือน เราพลาดท้องค่ะ คบกันปุ๊บท้องปั๊ป ตอนนั้นแฟนบอกอยากมีลูกพอดี แฟนอายุ39ค่ะ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องลูก ช่วงที่ท้องเราสองคนทำงานที่เดียวกัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องใดๆ เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนมาเราจะเป็นคนดูแล เนื่องจากเรายังมีเงินเก็บ ส่วนแฟนจะมีรายจ่ายเยอะ ทั้งค่าบ้าน ค่างวดรถ แต่ส่วนใหญ่เราจะจ่ายค่างวดรถให้ (ตอนนั้นแฟน เงินเดือน 15,000 ) เราก็ไม่คิดอะไร เพราะถือว่าอยู่ด้วยกันแล้วต้องช่วยกัน
จนมาช่วงที่เราคลอดลูก เรามาอยู่บ้านแฟนที่ปทุม แฟนเรายังทำงานที่ต่างจังหวัด ทำให้มีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้น ในเรื่องค่าเดินทางกลับบ้าน ( บอกก่อนว่าค่าใช้จ่ายเรื่องลูก เราเป็นคนดูแลหมด ทั้งค่าคลอด ค่านม ค่าของใช้ลูก) แฟนก็อยู่ต่างจังหวัดคนเดียวทำให้เรื่องที่เราค่าใช้จ่ายที่เราเคยออกให้ เราก็ไม่ได้ช่วยแล้ว
แฟนเราจึงมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนเข้ามาในชีวิต สมมุติชื่อ น. เรื่องของ น. เราก้พอรู้บ้าง เนื่องจาก น. ชอบโทรและส่ง SMSมาหาแฟนเราบ่อย (ตอนท้อง) ข้อความที่ส่งหากันก็เหมือนว่า มีอะไรกับแฟนเราแล้ว เราก็ถามแฟน แฟนบอกไม่มีอะไร ผู้หญิงมายุ่งเอง เขาไม่ได้อะไรด้วย เราก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ น. ก็ยังส่งข้อความเชิงชู้สาวมาบ่อยๆ
จนมาเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แฟนได้ทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อเอาเงินก้อนนี้มาใช่จ่าย โดยแฟนบอกว่าจะเอาไปจ่ายหนี้ต่างๆ เพราะเฟนบอกเป็นหนี้มาก ทั้งบัตรเครดิต ทั้งหนี้นอกระบบ เงินที่แฟนเป็นหนี้มา บอกก่อนเราไม่เคยได้รับรู้เลยว่าเงินจำนวนมากที่แฟนเป็นหนี้ เอาไปใช้จ่ายอะไร เพราะเราไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้เลย อย่างที่บอก แฟนไม่เคยช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆกับครอบครัวเลย
แฟนได้ขึ้นลง( ใช้รถส่วนตัว) ต่างจังหวัดกับบ้านบ่อยขึ้น รวมทั้งมาสัมพาทงานใหม่เพื่อที่จะกลับมาอยู่บ้าน ทำให้มีร่ายจ่ายในส่วนของการเดินทางเพิ่มอีก
เรื่องทั้งหมดมาเฉลย เมื่อเดือนกันยายนนี้เอง แฟนมีกำหนดที่จะกลับไปทำงานที่เดิมวันที่ 6-8 กันยายน วันที่7 เราโทหาแฟน แฟนกลับไม่รับ สาย เราเลยโทไปที่ทำงาน ที่ทำงานบอกว่าแฟนเราไม่มาทำงานตั้งแต่วันที่6 ทำให้เราร้อนใจมาก เรากระหน่ำโทรหาแฟน จนแฟนรับ แฟนบอกว่า เขาไปหาเพื่อนที่นครปฐม ไปหาเงิน เนื่องจากตอนนี้ค่าใช่จ่ายบานปลาย เราลืมบอกว่า แฟนได้เงินจากการรีไฟแนนซ์บ้านมาแล้ว เอาเงินไปจ่ายหนี้หมด บอกเราไม่ช่วย เราช่วยทุกอย่างนะ ไปทำสินเชื่อก็ทำให้ เราเป็นคนจ่ายอีก แฟนบอกเรากลัวเป็นหนี้ จึงไม่ยอมช่วย( แฟนเคยพูดให้เราไปทำสินเชื่อเพิ่ม) เราก็บอกที่ผ่านมาเราช่วยจนหมดตัวแล้ว แล้วเงินที่เป็นหนี้ เราก็ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น (แฟนชอบอ้างว่าที่เป็นหนี้ เพราะใช้จ่ายเดินทาง) เราคุยกับแฟนจนสายหลุดไป เราติดต่อกลับไปใหม่ก็ติดต่อไม่ได้เลย ปิดเครื่อง เราก็บอกกับที่บ้าน ที่บ้านกลับบอกว่าแฟนเราไม่ไปไหนหรอก พูดประมาณว่า มี ญ หรือเปล่า เราก็เลยเอ๊ะใจ เราจึงโทไปหา น.(เราได้เม็มเบอร์ น.ไว้) เราโทรไปถามว่าแฟนเราอยู่กับ น. หรือเปล่า น.ตอบว่า ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน เราจึงถามกลับไปว่า คิดยังไงกับแฟนเรา น. ตอบว่า เราจะรับได้ไหม ถ้าแฟนเราจะมี น. อีกคน น.บอก ที่ผ่านมาเราเคยรู้ไหม ว่าแฟนเราลำบากมาก น.ช่วยเหลือแฟนเรา แถมยังพูดอีกว่า เราจะยอมลำบากกับแฟนเราได้หรือเปล่า เราไม่ตอบโต้อะไร เราวางสาย
จนวันที่ 15( เพราะวันที่16 แฟนเริ่มงานใหม่ แต่สุดท้ายงานใหม่ก็ไม่ได้ทำเนื่องจากติดปัญหา เรื่องสัญญาจ้าง) แฟนเรากลับมาบ้าน เราถามแฟนเราว่าหายไปไหน แฟนยังตอบเหมือนเดิมคือ อยู่กับเพื่อน อยากอยู่กับตัวเอง เราถามเรื่อง น. แฟนก็บอกว่า น. เคยช่วยตอนไม่มีเงิน แต่ก็ไม่มีอะไร เราก็ไม่ได้วซักไซร์อะไรมาก ปล่อยให้มันผ่านไป
วันที่17 เรารถล้มทำให้ต้องอยู่บ้าน 1 อาทิตย์ ช่วงที่เราอยู่บ้าน แฟนจะไม่อยู่บ้านเลย บอกเราว่าจะไปดูทำเลขายของ ไปหาเพื่อน เผื่อมีลู่ทางทำอะไร แฟนกลับมา 1-2 ทุ่มทุกวัน จนวันที่20 เราบังเอิญไปดูเอกสารในกระเป๋าแฟน รู้ไหมเราเจออะไร เราเจอทะเบียนสมรสแฟนกับ น.(จด 28 พฤษภาคม 56)
เราโทรหาแฟนทันที แฟนตอบว่าที่จดทะเบียนกับ น. เพราะจะให้เรื่องรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน เจ้าหน้าที่ต้องการเอกสารสมรสเพราะชื่อลูกอยู่ในทะเบียนบ้าน เราถามว่าทำไมไม่จดกับเรา แฟนกลับบอกว่าเพราะเรากลัวเป้นหนี้ไม่ใช่เหรอ แถมเราก็ไม่อยากจดทะเบียนทั้งที่เราไม่เคยพูด เรารอให้แฟนพูดเรื่องจดทะเบียนเหมือนกัน (แฟนหย่ากับคนเก่าตอนเราเพิ่งคลอดน้อง) ที่ น. จดให้ เพราะเขาก็ติดหนี้ น. เหมือนกัน เร่องหย่าไม่ต้องเป้นห่วง คุยกับ น. เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเราพยายามเข้าใจในสิ่งที่แฟนเราทำ
วันที่20 เราได้เห็น SMS แฟนส่งข้อความหา น. ประมาณว่า ของเพียงเราเข้าใจกัน ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ เราถามแฟน แฟนตอบว่า ส่งไปอย่างนั้นแหละ น. อยากได้กำลังใจ เราเริ่มสงสัย วันนั้นเราจึงขี่รถตามแฟนเรา เราก็ไปพบว่าแฟนเราไปบ้านหลังนึง ซึงอยู่ไปไกลจากบ่านเรานัก รถยนต์แฟนเราจอดอยู่ เราเข้าไปเลย ถามแฟน รถเสียไม่ใช่เหรอทำไม่มาจอดที่บ้านนี้ แฟนบอกว่า รถใกล้มายึดแล้วจึงเอาจอดบ้านแฟน ให้เราไปคุยที่อื่น แฟนบอกเรา ที่จริงที่เขาออกไปทุกวัน เขาไปช่วย น. ทำร้าน น.เปินร้านขายของ แฟนบอก น. เคยช่วยแฟน ตอนนี้แฟนต้องช่วย น. บ้าง แฟนบอกของให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ตอนนี้ น.ก็ช่วยอยู่ ถ้าร้านเสร็จ แฟนได้งานทำก็จะไม่เป็นแบบนี้ สุดท้ายแฟนก้ไปกัน น. เหมือนเดิม
ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรืออะไร เราขี่รถไปตลาด เราเห็นรถยนต์แฟนขับอยู่ เราก็เลยขี่ไปดูว่าใครใช่เราแฟนเรา(แฟนบอกรถให้เพื่อนใช้ด้วย) เรามองเข้าไป เราเจอแฟนกับ น. อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเราสติแตกมาก เราขี่รถขวางรถแฟนเรา จนรถล้ม เราเข้าไปในรถ เชื่อไหม น.พูดยังไง บอกไม่ไหวนะป๊า อะไรกันนักกันหน้า ทำแบบนี้อายคน(หมายถึงรถขี่รถขวางรถแฟนในตลาด) ป๊าจะเคลียร์ยังไงดี แฟนบอกเราไม่รู้เรื่องเลย บอกมีไรไปคุยที่บ้าน เราไม่ยอมออกจากรถ เราบอกมีอะไรก็พูดก็เคลียร์เลย อยู่กัน3 คนแล้ว เพราะสิ่งที่ น. พูดกับแฟนพูดมันไม่เหมือนกัน น. พูดคนจะทำมาหากิน เรารู้ไหมที่ผ่านมา น.ช่วยแฟนทุกอย่าง สิ้นเดือนก็ค่าใช้จ่ายเยอะ น.จะทำมาหากินกับแฟนเรา เราถามทำไมถึงยอมจดทะเบียนกับแฟน รู้ใช่ไหม แฟนมีลูกมีเมียแล้ว น.บอก คนมันรักกันจบไหม น. รู้เรื่องเราหมดทุกอย่าง แฟนเราเราให้ น.ฟัง ส่วนเรื่อง น. แฟนเราไม่เคยพูดให้เรารู้เลยใช่ไหม น. ถามแฟนเรา แฟนเราพยักหน้า ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่ง ตอนนั้นแฟนเราก็ทำโมโหเรา บอกเราพูดไม่ฟัง น.บอกแฟนเรา ป๊าไม่ต้องห้ามเรานะ ถ้าเราจะไป (เราเคยพูดว่าเราจะไม่อยู่แล้ว) แฟนบอกจะอยุ่ก็อยู่จะไปก็ไป เราบอก เราขอคุยกับแฟนเราสองคนนะ น. บอกไม่ได้ ต้องรู้เรื่องด้วย น.ทำตัวเหนือกว่าเรามาก แฟนก็นิ่งอย่างเดียว จนสุดท้ายแฟนเราก็ไปส่งเราที่บ้าน ตอนขี่รถ แฟนกลับบอกว่า ให้เชื่อใจเขา ที่เขาทำเพื่อครอบครัวถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ทุกอย่างจะพังหมด ตอนนี่เขาไม่มีเงิน ยังไม่มีรายได้ ที่จดกับ น .ก็มีเรื่องผลประโยชน์บางส่วนด้วย เพราะ บ้าน น. มีฐานะมีที่ดิน เผื่อที่แฟนจะได้มีผลประโยชน์เพื่อครอบครัว แต่เขาไม่เอาเข้าบ้าน เขาจะมีเราเป็นเมีย อยู่กับเขา อยู่กับแม่เขา ตอนนั้นเราเสียใจมาก ที่บ้านก็ไม่ว่าอะไรแฟนเลย น้องสาวแฟนบอก ถ้าเราไม่เลิกกับแฟนเรา เขาก็อยากให้เราโอนลูกให้เป็นลูกเขา พูดอ้อมแต่ใจความประมาณนี้ (น้องแฟนเลี้ยงลูกให้เรา เนื่องจากเราทำงาน เลี้ยงเหมือนแม่คนนึง นอนด้วยกัน เราจะไปหาเฉพาะตอนเย็ย หรือวันหยุด อยู่คยละบ้านกัน แม่แฟนบอกให้เราอดทน เดี๋ยวแฟนก็กลับมา แฟนก็พูดกับแม่เขา เหมือนที่บอกกับเรา
จนตอนนี้แฟนเราไม่สนใจ กลับบ้านดึกกว่าเดิม เราจึงไปปรึกษาพี่สาว(นับถือกันเป็นพี่น้อง) เราเล่าทุกอย่างให้พี่สาวฟัง พี่สาวสงสารเรามาก บอกถ้าไม่ไหวเราไปอยู่กับแม่ของพี่สาวได้นะ ให้เอาลูกไปด้วย จึงไปนอนบ้านพี่สาว พอเราไม่นอนบ้าน 1 วัน แฟนเราก็ไม่นอนบ้านเลย 2 คืน เราโทไปก็ไม่รับ แฟนกลับบ้าน ก็บอกเราผิดที่เราไม่นอนบ้าน เราก็คุยกันเรื่อง น. อีก สุดท้ายใจความทั้งหมดคือเราไม่ช่วยเขา เขาจึงต้องทำแบบนี้ เขาเอาเรื่องหนี้สินมาพูด
ตอนนี้เราสับสนมากๆๆๆ เลย ขอคำแนะนำและกำลังใจด้วยค่ะ
อยู่ต่อหรือเลือกที่จะไป
เรามีลูกกับแฟน ตอนนี้ลูกอายุ11 เดือน เราพลาดท้องค่ะ คบกันปุ๊บท้องปั๊ป ตอนนั้นแฟนบอกอยากมีลูกพอดี แฟนอายุ39ค่ะ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องลูก ช่วงที่ท้องเราสองคนทำงานที่เดียวกัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องใดๆ เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนมาเราจะเป็นคนดูแล เนื่องจากเรายังมีเงินเก็บ ส่วนแฟนจะมีรายจ่ายเยอะ ทั้งค่าบ้าน ค่างวดรถ แต่ส่วนใหญ่เราจะจ่ายค่างวดรถให้ (ตอนนั้นแฟน เงินเดือน 15,000 ) เราก็ไม่คิดอะไร เพราะถือว่าอยู่ด้วยกันแล้วต้องช่วยกัน
จนมาช่วงที่เราคลอดลูก เรามาอยู่บ้านแฟนที่ปทุม แฟนเรายังทำงานที่ต่างจังหวัด ทำให้มีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้น ในเรื่องค่าเดินทางกลับบ้าน ( บอกก่อนว่าค่าใช้จ่ายเรื่องลูก เราเป็นคนดูแลหมด ทั้งค่าคลอด ค่านม ค่าของใช้ลูก) แฟนก็อยู่ต่างจังหวัดคนเดียวทำให้เรื่องที่เราค่าใช้จ่ายที่เราเคยออกให้ เราก็ไม่ได้ช่วยแล้ว
แฟนเราจึงมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนเข้ามาในชีวิต สมมุติชื่อ น. เรื่องของ น. เราก้พอรู้บ้าง เนื่องจาก น. ชอบโทรและส่ง SMSมาหาแฟนเราบ่อย (ตอนท้อง) ข้อความที่ส่งหากันก็เหมือนว่า มีอะไรกับแฟนเราแล้ว เราก็ถามแฟน แฟนบอกไม่มีอะไร ผู้หญิงมายุ่งเอง เขาไม่ได้อะไรด้วย เราก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ น. ก็ยังส่งข้อความเชิงชู้สาวมาบ่อยๆ
จนมาเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แฟนได้ทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อเอาเงินก้อนนี้มาใช่จ่าย โดยแฟนบอกว่าจะเอาไปจ่ายหนี้ต่างๆ เพราะเฟนบอกเป็นหนี้มาก ทั้งบัตรเครดิต ทั้งหนี้นอกระบบ เงินที่แฟนเป็นหนี้มา บอกก่อนเราไม่เคยได้รับรู้เลยว่าเงินจำนวนมากที่แฟนเป็นหนี้ เอาไปใช้จ่ายอะไร เพราะเราไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้เลย อย่างที่บอก แฟนไม่เคยช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆกับครอบครัวเลย
แฟนได้ขึ้นลง( ใช้รถส่วนตัว) ต่างจังหวัดกับบ้านบ่อยขึ้น รวมทั้งมาสัมพาทงานใหม่เพื่อที่จะกลับมาอยู่บ้าน ทำให้มีร่ายจ่ายในส่วนของการเดินทางเพิ่มอีก
เรื่องทั้งหมดมาเฉลย เมื่อเดือนกันยายนนี้เอง แฟนมีกำหนดที่จะกลับไปทำงานที่เดิมวันที่ 6-8 กันยายน วันที่7 เราโทหาแฟน แฟนกลับไม่รับ สาย เราเลยโทไปที่ทำงาน ที่ทำงานบอกว่าแฟนเราไม่มาทำงานตั้งแต่วันที่6 ทำให้เราร้อนใจมาก เรากระหน่ำโทรหาแฟน จนแฟนรับ แฟนบอกว่า เขาไปหาเพื่อนที่นครปฐม ไปหาเงิน เนื่องจากตอนนี้ค่าใช่จ่ายบานปลาย เราลืมบอกว่า แฟนได้เงินจากการรีไฟแนนซ์บ้านมาแล้ว เอาเงินไปจ่ายหนี้หมด บอกเราไม่ช่วย เราช่วยทุกอย่างนะ ไปทำสินเชื่อก็ทำให้ เราเป็นคนจ่ายอีก แฟนบอกเรากลัวเป็นหนี้ จึงไม่ยอมช่วย( แฟนเคยพูดให้เราไปทำสินเชื่อเพิ่ม) เราก็บอกที่ผ่านมาเราช่วยจนหมดตัวแล้ว แล้วเงินที่เป็นหนี้ เราก็ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น (แฟนชอบอ้างว่าที่เป็นหนี้ เพราะใช้จ่ายเดินทาง) เราคุยกับแฟนจนสายหลุดไป เราติดต่อกลับไปใหม่ก็ติดต่อไม่ได้เลย ปิดเครื่อง เราก็บอกกับที่บ้าน ที่บ้านกลับบอกว่าแฟนเราไม่ไปไหนหรอก พูดประมาณว่า มี ญ หรือเปล่า เราก็เลยเอ๊ะใจ เราจึงโทไปหา น.(เราได้เม็มเบอร์ น.ไว้) เราโทรไปถามว่าแฟนเราอยู่กับ น. หรือเปล่า น.ตอบว่า ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน เราจึงถามกลับไปว่า คิดยังไงกับแฟนเรา น. ตอบว่า เราจะรับได้ไหม ถ้าแฟนเราจะมี น. อีกคน น.บอก ที่ผ่านมาเราเคยรู้ไหม ว่าแฟนเราลำบากมาก น.ช่วยเหลือแฟนเรา แถมยังพูดอีกว่า เราจะยอมลำบากกับแฟนเราได้หรือเปล่า เราไม่ตอบโต้อะไร เราวางสาย
จนวันที่ 15( เพราะวันที่16 แฟนเริ่มงานใหม่ แต่สุดท้ายงานใหม่ก็ไม่ได้ทำเนื่องจากติดปัญหา เรื่องสัญญาจ้าง) แฟนเรากลับมาบ้าน เราถามแฟนเราว่าหายไปไหน แฟนยังตอบเหมือนเดิมคือ อยู่กับเพื่อน อยากอยู่กับตัวเอง เราถามเรื่อง น. แฟนก็บอกว่า น. เคยช่วยตอนไม่มีเงิน แต่ก็ไม่มีอะไร เราก็ไม่ได้วซักไซร์อะไรมาก ปล่อยให้มันผ่านไป
วันที่17 เรารถล้มทำให้ต้องอยู่บ้าน 1 อาทิตย์ ช่วงที่เราอยู่บ้าน แฟนจะไม่อยู่บ้านเลย บอกเราว่าจะไปดูทำเลขายของ ไปหาเพื่อน เผื่อมีลู่ทางทำอะไร แฟนกลับมา 1-2 ทุ่มทุกวัน จนวันที่20 เราบังเอิญไปดูเอกสารในกระเป๋าแฟน รู้ไหมเราเจออะไร เราเจอทะเบียนสมรสแฟนกับ น.(จด 28 พฤษภาคม 56)
เราโทรหาแฟนทันที แฟนตอบว่าที่จดทะเบียนกับ น. เพราะจะให้เรื่องรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน เจ้าหน้าที่ต้องการเอกสารสมรสเพราะชื่อลูกอยู่ในทะเบียนบ้าน เราถามว่าทำไมไม่จดกับเรา แฟนกลับบอกว่าเพราะเรากลัวเป้นหนี้ไม่ใช่เหรอ แถมเราก็ไม่อยากจดทะเบียนทั้งที่เราไม่เคยพูด เรารอให้แฟนพูดเรื่องจดทะเบียนเหมือนกัน (แฟนหย่ากับคนเก่าตอนเราเพิ่งคลอดน้อง) ที่ น. จดให้ เพราะเขาก็ติดหนี้ น. เหมือนกัน เร่องหย่าไม่ต้องเป้นห่วง คุยกับ น. เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเราพยายามเข้าใจในสิ่งที่แฟนเราทำ
วันที่20 เราได้เห็น SMS แฟนส่งข้อความหา น. ประมาณว่า ของเพียงเราเข้าใจกัน ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ เราถามแฟน แฟนตอบว่า ส่งไปอย่างนั้นแหละ น. อยากได้กำลังใจ เราเริ่มสงสัย วันนั้นเราจึงขี่รถตามแฟนเรา เราก็ไปพบว่าแฟนเราไปบ้านหลังนึง ซึงอยู่ไปไกลจากบ่านเรานัก รถยนต์แฟนเราจอดอยู่ เราเข้าไปเลย ถามแฟน รถเสียไม่ใช่เหรอทำไม่มาจอดที่บ้านนี้ แฟนบอกว่า รถใกล้มายึดแล้วจึงเอาจอดบ้านแฟน ให้เราไปคุยที่อื่น แฟนบอกเรา ที่จริงที่เขาออกไปทุกวัน เขาไปช่วย น. ทำร้าน น.เปินร้านขายของ แฟนบอก น. เคยช่วยแฟน ตอนนี้แฟนต้องช่วย น. บ้าง แฟนบอกของให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ตอนนี้ น.ก็ช่วยอยู่ ถ้าร้านเสร็จ แฟนได้งานทำก็จะไม่เป็นแบบนี้ สุดท้ายแฟนก้ไปกัน น. เหมือนเดิม
ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรืออะไร เราขี่รถไปตลาด เราเห็นรถยนต์แฟนขับอยู่ เราก็เลยขี่ไปดูว่าใครใช่เราแฟนเรา(แฟนบอกรถให้เพื่อนใช้ด้วย) เรามองเข้าไป เราเจอแฟนกับ น. อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเราสติแตกมาก เราขี่รถขวางรถแฟนเรา จนรถล้ม เราเข้าไปในรถ เชื่อไหม น.พูดยังไง บอกไม่ไหวนะป๊า อะไรกันนักกันหน้า ทำแบบนี้อายคน(หมายถึงรถขี่รถขวางรถแฟนในตลาด) ป๊าจะเคลียร์ยังไงดี แฟนบอกเราไม่รู้เรื่องเลย บอกมีไรไปคุยที่บ้าน เราไม่ยอมออกจากรถ เราบอกมีอะไรก็พูดก็เคลียร์เลย อยู่กัน3 คนแล้ว เพราะสิ่งที่ น. พูดกับแฟนพูดมันไม่เหมือนกัน น. พูดคนจะทำมาหากิน เรารู้ไหมที่ผ่านมา น.ช่วยแฟนทุกอย่าง สิ้นเดือนก็ค่าใช้จ่ายเยอะ น.จะทำมาหากินกับแฟนเรา เราถามทำไมถึงยอมจดทะเบียนกับแฟน รู้ใช่ไหม แฟนมีลูกมีเมียแล้ว น.บอก คนมันรักกันจบไหม น. รู้เรื่องเราหมดทุกอย่าง แฟนเราเราให้ น.ฟัง ส่วนเรื่อง น. แฟนเราไม่เคยพูดให้เรารู้เลยใช่ไหม น. ถามแฟนเรา แฟนเราพยักหน้า ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่ง ตอนนั้นแฟนเราก็ทำโมโหเรา บอกเราพูดไม่ฟัง น.บอกแฟนเรา ป๊าไม่ต้องห้ามเรานะ ถ้าเราจะไป (เราเคยพูดว่าเราจะไม่อยู่แล้ว) แฟนบอกจะอยุ่ก็อยู่จะไปก็ไป เราบอก เราขอคุยกับแฟนเราสองคนนะ น. บอกไม่ได้ ต้องรู้เรื่องด้วย น.ทำตัวเหนือกว่าเรามาก แฟนก็นิ่งอย่างเดียว จนสุดท้ายแฟนเราก็ไปส่งเราที่บ้าน ตอนขี่รถ แฟนกลับบอกว่า ให้เชื่อใจเขา ที่เขาทำเพื่อครอบครัวถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ทุกอย่างจะพังหมด ตอนนี่เขาไม่มีเงิน ยังไม่มีรายได้ ที่จดกับ น .ก็มีเรื่องผลประโยชน์บางส่วนด้วย เพราะ บ้าน น. มีฐานะมีที่ดิน เผื่อที่แฟนจะได้มีผลประโยชน์เพื่อครอบครัว แต่เขาไม่เอาเข้าบ้าน เขาจะมีเราเป็นเมีย อยู่กับเขา อยู่กับแม่เขา ตอนนั้นเราเสียใจมาก ที่บ้านก็ไม่ว่าอะไรแฟนเลย น้องสาวแฟนบอก ถ้าเราไม่เลิกกับแฟนเรา เขาก็อยากให้เราโอนลูกให้เป็นลูกเขา พูดอ้อมแต่ใจความประมาณนี้ (น้องแฟนเลี้ยงลูกให้เรา เนื่องจากเราทำงาน เลี้ยงเหมือนแม่คนนึง นอนด้วยกัน เราจะไปหาเฉพาะตอนเย็ย หรือวันหยุด อยู่คยละบ้านกัน แม่แฟนบอกให้เราอดทน เดี๋ยวแฟนก็กลับมา แฟนก็พูดกับแม่เขา เหมือนที่บอกกับเรา
จนตอนนี้แฟนเราไม่สนใจ กลับบ้านดึกกว่าเดิม เราจึงไปปรึกษาพี่สาว(นับถือกันเป็นพี่น้อง) เราเล่าทุกอย่างให้พี่สาวฟัง พี่สาวสงสารเรามาก บอกถ้าไม่ไหวเราไปอยู่กับแม่ของพี่สาวได้นะ ให้เอาลูกไปด้วย จึงไปนอนบ้านพี่สาว พอเราไม่นอนบ้าน 1 วัน แฟนเราก็ไม่นอนบ้านเลย 2 คืน เราโทไปก็ไม่รับ แฟนกลับบ้าน ก็บอกเราผิดที่เราไม่นอนบ้าน เราก็คุยกันเรื่อง น. อีก สุดท้ายใจความทั้งหมดคือเราไม่ช่วยเขา เขาจึงต้องทำแบบนี้ เขาเอาเรื่องหนี้สินมาพูด
ตอนนี้เราสับสนมากๆๆๆ เลย ขอคำแนะนำและกำลังใจด้วยค่ะ