Runner Runner ... รีบวิ่งหนีไปซะ

1 ตุลาคม 2556

วันนี้ผมขออนุญาตั้งกระทู้ที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ซึ่งได้ไปชมมาสัก 1 เรื่องนะครับ  แต่คงต้องขอบอกก่อนว่าในเรื่องราวที่ผมจะเขียนในกระทู้นี้อาจจะเป็นใช่บทวิจารณ์หนัง  แต่เป็นเพียงแค่บทความที่ผมเขียนขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปดูหนังมาแล้วสักเรื่อง  หนังที่ควรจะมีคุณค่าอะไรมากกว่าความบันเทิงที่ได้รับ หนังที่เราเข้าไปดูแล้วควรจะได้แง่คิดหรือข้อคิดสะกิดใจอะไรบางอย่างกลับออกมาด้วย  แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ราคาตั๋วหนังนั้นอยู่ในราคาที่ค่อนข้างสูงเป็นอย่างมาก  ดังนั้นการที่เราจะเลือกดูหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นเราจึงต้องพิจารณาว่า  มันคุ้มค่ากับราคาค่าตั๋วหนังหรือไม่?  ซึ่งหนังเรื่องที่ผมไปดูมาแล้วผมชอบก็คือเรื่อง Runner Runner ครับ





เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับวงการพนันของอเมริกา  ที่ในปัจจุบันนี้นอกเหนือจากบ่อนคาสิโนทั้งหลายที่มีอยู่อย่างถูกกฎหมายแล้ว  ยังมีเว็บไซต์พนันที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นอย่างมากมาย  ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่กำลังเป็นพิษภัยแก่สังคมเป็นอย่างมาก  เพราะว่านักพนันอาจจะสิ้นเนื้อประดาตัวในขณะที่นั่งเล่นการพนันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านได้เลย  โดยไม่ต้องเดินทางไปเล่นการพนันในบ่อนคาสิโนเหมือนที่ผ่านมาแล้ว  ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าเรื่องของการพนันนั้นเกี่ยวข้องกับกิเลสในใจของคนเราประการหนึ่งก็คือ  ความโลภและความไม่รู้จักพอที่ฝังอยู่ในจิตใจของผู้ที่เป็นนักพนันนั้นเอง

ในหนังเรื่องนี้พูดถึงชายหนุ่มไฟแรงการศึกษาดีที่เป็นคนฉลาดชื่อว่า ริชชี่ (พระเอก แสดงโดยจัสติน ทิมเบอเลค) เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ทางด้านการพนันที่ถ่ายทอดมาโดยทางสายเลือดจากพ่อของเขา  กับเรื่องราวของเจ้าพ่อบ่อนพนันออนไลน์ผิดกฎหมายที่ชื่อไอเวน บล็อก (ผู้ร้าย แสดงโดยเบน แอฟเฟล็ค ) ซึ่งตั้งบ่อนคาสิโนและเปิดเว็บพนันออนไลน์อยู่ในประเทศคอสตาริก้า  โดยเรื่องราวเริ่มต้นจากการที่ริชชี่ถูกทางมหาวิทยาลัยจับได้ว่าตัวเขาเป็นเอเย่นต์จัดหานักเล่นหน้าใหม่ให้แก่เว็บพนันออนไลน์  โดยหน้าที่ของเอเย่นต์ก็คือการชักชวนให้คนเข้าไปเล่นในเว็บพนันออนไลน์ซึ่งจะได้ค่านายหน้าเป็นการตอบแทน  ดังนั้นอนาคตของเขาดูเหมือนจะดับวูบลงไปในทันทีถ้าเขาเลิกอาชีพนี้เขาก็คงจะไม่มีเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยแน่  ริชชี่จึงใช้วิธีการของนักพนันซึ่งมีความเสี่ยงก็คือ  เขานำเงินเก็บที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดไปเล่นไพ่โป๊กเกอร์ในเว็บพนันออนไลน์  ซึ่งเป็นสัจธรรมที่เรามักทราบเป็นอย่างดีว่า ในตอนแรกก็มักจะเล่นได้แล้วก็เริ่มได้ใจเล่นหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้วก็ต้องเสียพนันจนหมดตัว  เมื่อแพ้พนันหมดตัวแล้วริชชี่ก็มานั่งวิเคราะห์ดูว่าทำไมเขาถึงเสียพนัน?  เขาจึงรู้ได้ว่าเว็บพนันนั้นโกงเขา  ริชชี่จึงตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศคอสตาริก้าเพื่อไปหาไอเวน บล็อก  ผู้เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์นี้

ไอเวน บล็อก เจ้าพ่อพนันรู้สึกหน้าแตกเมื่อมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาชี้หน้าต่อหน้าแขกเรื่อและเพื่อนฝูงในงานปาร์ตี้เพื่อบอกว่าโดนเว็บพนันออนไลน์ของเขาโกง  แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นกลับไม่เป็นไปตามที่ผู้ชมคาดคิดไว้  เมื่อไอเวน บล็อก เห็นว่าริชชี่มีพรสวรรค์จึงได้ชักชวนให้ริชชี่อยู่ทำงานที่บ่อนร่วมกับเขา  เหมือนการเปิดประตูกว้างเพื่อรับริชชี่เข้าสู่วงการพนันอย่างเต็มตัว  ซึ่งแน่นอนว่าริชชี่พระเอกของเราที่เป็นอัจฉริยะด้านการพนันนั้นก็ตอบรับด้วย  พร้อมทั้งฉายแสงรุ่งเรืองโดดเด่นขึ้นมาได้ในระยะเวลาไม่นานนัก  ซึ่งดูแล้วเหมือนว่าจะเป็นความลงเอยที่ลงตัวเป็นอย่างมาก  แต่ในจุดนี้เองคือจุดพลิกพลันที่เริ่มต้นทำให้เรื่องราวแปรเปลี่ยนไป  เมื่อริชชี่ถล้ำลึกเข้าไปในวงการพนันเข้าก็ยากที่จะถอนตัวออกมาได้  ในวันหนึ่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอของอเมริกามาจับตัวเขาไปและบังคับให้เขาเป็นสายลับให้แก่ตำรวจ  แต่เมื่อริชชี่กลับมาแล้วบอกให้ไอเวน บล็อกผู้ที่เป็นนายจ้างเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว  จึงเหมือนมีปมในใจเกิดขึ้นเป็นประเด็นสร้างความขัดแย้งระหว่างตัวละครทั้ง 2 ตัวนี้  อีกทั้งเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นคนกลางระหว่างพระเอกและผู้ร้าย (นางเอก แสดงโดย เจมม่า อาร์เทอตัน) เกิดให้ความสำคัญในตัวริชชี่ขึ้นมา  ไอเวน บล็อกจึงความรู้สึกไม่พอใจเพิ่มขึ้น  จึงเกิดปมความขัดแย้งระหว่างตัวละครทั้งสองนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ

เรื่องราวที่เป็นประเด็นหรือตรีม (Theme) ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการวิ่งหนีออกมาจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่กำลังผูกพันเราอยู่  ซึ่งตรงตามชื่อเรื่องของภาพยนตร์ว่า “ Runner Runner “  ที่ตัวละครซึ่งเป็นพ่อของพระเอกได้บอกลูกชายว่า “ให้รีบวิ่งหนีไปซะ ... ก่อนที่มันจะสายเกินไป”  เพราะตัวละครผู้เป็นพ่อในเรื่องเป็นคนที่ติดการพนันอย่างงอมแงมจนไม่สามารถแกะตัวเองให้หลุดออกมาจากผีพนันที่ครอบงำจิตใจตัวเขาเองอยู่ได้  แต่ผู้เป็นพ่อยังพอมีสำนึกดีที่ยังสามารถเตือนลูกชายให้หนีห่างออกมาจากสิ่งที่ชั่วร้ายนี้ให้ได้

สำหรับเรื่องราวของการให้รีบวิ่งหนีไปนั้น  ผู้เขียนบทก็เขียนแฝงให้ตัวละครแต่ละตัวต้องหนีจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน  ริชชี่ที่เป็นพระเอกของเรื่องในเรื่องนี้เขาต้องหาทางวิ่งหนีออกมาจากวงการพนันที่ไอเวน บล็อกชักชวนเขาเข้าไปให้ได้  ซึ่งแน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะวิ่งหนีออกมาได้ง่าย ๆ แน่  ดังนั้นพระเอกของเราจึงต้องดิ้นร้นต่อสู้  ซึ่งเป็นบุคลิกและลักษณะเด่นของตัวละครที่เป็นพระเอกในหนังฮอลลีวูดเกือบทุกเรื่อง (ส่วนในตอนจบของเรื่องพระเอกจะสามารถวิ่งหนีออกมาได้หรือไม่นั้น?  เป็นสิ่งที่ท่านจะต้องเข้าไปชมเองในโรงภาพยนตร์  เพราะว่าถ้าผมเล่าหมดก็จะกลายเป็นสปอยล์แล้วท่านจะดูไม่สนุกแน่ ๆ ครับ)

ไอเวน บล็อก ผู้ร้ายของเรื่องที่แสดงโดยพระเอกหนุ่มรูปหล่ออย่าง เบน แอฟเฟล็ค ในเรื่องนี้ถ้าให้เบน แอฟเฟล็ค  ยืนนิ่งอยู่เฉย ๆ ทั้งเรื่องก็ยังคงเป็นเจ้าพ่อที่หล่อมากจนสาว ๆ หลงใหลได้ตลอดอยู่ดี  แต่ในเรื่องนี้เบน แอฟเฟล็ค กลับแสดงในบทของ ไอเวน บล็อก ซึ่งเป็นเจ้าพ่อรุ่นใหม่ออกมาได้เป็นอย่างดี มาดของเจ้าพ่อยุคใหม่ในโลกแห่งไอทีนั้นคงอาจจะไม่เหมือนกับเจ้าพ่อในยุคเดิมที่ลากเหยื่อมารุมอัดแล้วฟาดหัวด้วยไม้เบสบอล หรือลากเหยื่อเอามาทรมานก่อนที่จะยิงให้ตายอย่างช้า ฯลฯ   มาดของเจ้าพ่อในเรื่องนี้หล่อเหลาเอาการและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก  แต่ภายในจิตใจของเจ้าพ่อแฝงไว้ด้วยความคิดเหี้ยมโหด  จ้องแต่จะใส่ร้ายและกอบโกยด้วยวิธีการโกงในรูปแบบที่คาดไม่ถึง  รวมทั้งมีความไม่รู้จักพอมีความโลภอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจะมีคนแบบนี้อยู่หรือไม่?  (โลกสวยจังนะ : รู้สึกประชดตัวเอง)

ไอเวน บล็อก ผู้ร้ายในเรื่องก็มีปมอยู่ในใจเหมือนกัน  เขาเริ่มเบื่อชีวิตเจ้าพ่อในคอสตาริก้าแล้ว เข้าเริ่มเบื่อวิธีการต่าง ๆ ซึ่งก็คือการใช้เงินติดสินบนเจ้าหน้าที่  รวมทั้งเบื่อประเทศที่เขาคิดว่าเริ่มหาเงินได้ไม่มากเท่าที่เขาต้องการ  ไอเวน บล็อกก็หาทางพยายามคิดหนีหรือวิ่งหนีออกมาจากประเทศคอสตาริก้าตาม Theme ของเรื่องด้วย  ส่วนนางเอกของเรื่องก็คงมีปมในใจเหมือนกัน  เธอก็พยายามที่จะคิดหนีหรือตีจากไอเวน บล็อกเช่นกัน  รวมทั้งตัวพ่อของพระเอกที่เป็นคนติดการพนันจนเหมือนว่าจะวิ่งหนีออกมาไม่ได้นั้น  ก็กลายเป็นตัวละครที่ไม่คิดจะดิ้นร้นต่อสู้แล้ว  ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของตัวละครที่มีลักษณะพ่ายแพ้ในหนังฮอลลีวูดเช่นกัน

อีกแง่คิดหนึ่งที่แฝงอยู่ในเรื่องหาของภาพยนตร์ก็คือหลักปรัชญาของการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ที่ว่า  “ต้องหมอบให้เป็น  ควรเกทับเมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้ถือไพ่ไม่ดี  และควรหมอบในทันทีเมื่อรู้ว่าผู้ต่อสู้ขุดหลุมพรางดักเอาไว้” (ในประเด็นนี้เด็กและเยาวชนควรพิจราณา  ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำด้วย)  

สำหรับประเด็นนี้ผมคิดว่าถ้ามองโลกในแง่ดีนั้น  เราก็สามารถนำปรัชญาการเล่นไพ่โป๊กเกอร์นี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ด้วยครับ (โลกสวยจริงนะ : รู้สึกประชดตัวเองอีกรอบ)

ในสังคมปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็ใส่หน้ากากเข้าหากันนั้นก็คงไม่ต่างอะไรไม่จากการเล่นไพ่โป๊กเกอร์แน่ ๆ ครับ  เมื่อเราเจอสิ่งที่ไม่ดีในสังคมเราควรหลีกหนีให้ห่างทันที (เราควรจะหมอบให้เป็น) ในสังคมต้องมีแข่งขันเกิดขึ้นเสมอ  ดังนั้นเราควรเลือกจะไปแข่งกันกับคนที่เราคิดว่าเราชนะเขาได้แน่ ๆ หรือว่าเราเหนือกว่าเขามาก (ควรเกทับเมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้ถือไพ่ไม่ดี)  และเมื่อเรารู้ว่าเรากำลังพลาดพลั้งหรือกำลังเดินไปในหนทางที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมควร  อันเนื่องมาจากมีคนพยายามชักชวน หลอกล่อ หรือบังคับให้เราไปในหนทางลวงนั้น  เราควรที่จะหาทางปฏิเสธในทันที (ควรหมอบในทันทีเมื่อรู้ว่าผู้ต่อสู้ขุดหลุมพรางดักเอาไว้)    







สำหรับในเรื่องการพยายามหาทางคิดหนีหรือวิ่งหนีตาม Theme ของเรื่อง ในเรื่องนี้มีตัวละครอยู่สองถึงสามตัวให้เปรียบเทียบกัน   ตัวละครที่วิ่งหนีออกมาได้ซึ่งแน่นอนว่าคือพระเอกของเรื่องก็คงได้รับสิ่งที่ดี ๆ ในตอนท้าย  ตัวละครที่ไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้ซึ่งก็คือตัวพ่อของพระเอกก็คงได้รับจุดจบที่ไม่น่าประทับใจ  ส่วนตัวละครอีกตัวที่คิดว่าตัวเองวิ่งหนีออกมาได้นั้นแต่จริง ๆ แล้วเป็นการหนีที่หลอกตัวเอง  เพราะว่าตัวเองก็ยังคงติดอยู่ในวังวนนั้นอย่างไม่รู้ตัว  ซึ่งตัวละครตัวนี้ก็คือผู้ร้ายของเรื่องนั้นเอง (ผู้ร้ายจะได้รับจุดจบอย่างไรนั้นคุณต้องไปชมเอง : รู้สึกไม่สปอยล์)  

เมื่อเราได้ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วก็สามารถนำประเด็นการวิ่งหนีนี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้เช่นกัน  (โลกสวยเกินไปแล้วนะ : รู้สึกประชดตัวเองอย่างสุด ๆ)

ในชีวิตจริงของเรานั้น เราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเป็นตัวละครตัวไหน? ตัวละครที่วิ่งหนีออกมาได้ , ตัวละครที่วิ่งหนีออกมาไม่ได้ หรือตัวละครที่คิดว่าตัวเองวิ่งหนีออกมาได้แต่จริง ๆ แล้วยังติดอยู่ในวังวนนั้นโดยไม่รู้ตัว  ในชีวิตจริงของหลาย ๆ คนนั้น  ท่านอาจจะกำลังติดกับดักอยู่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็เป็นได้  ทั้ง ๆ รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ท่านไม่ชอบหรือรู้สึกไม่ดีเลย  แต่ท่านก็ไม่สามารถดิ้นร้นหนีออกมาจากมันได้  ยิ่งเมื่อพยายามคิดหนีมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งพลาดพลั้งลงลึกมากขึ้นไปอีก   บางคนไม่ชอบงานที่ทำเลยแต่จำเป็นต้องทำงานนั้นเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ  โดยไม่กล้าที่จะหนีออกมาหางานที่อยากทำหรือใฝ่ฝันไว้  คน ๆ นั้นก็คงต้องติดกับดักของชีวิตตนเองไปตลอดโดยแน่  เมื่อไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้ก็ต้องถูกจองจำกับงานที่ตัวเองไม่ชอบไปตลอด  ได้เพียงแต่รอให้ถึงวันที่พ้นโทษ (ตอนเกษียณอายุ) แล้วจึงสามารถพ้นออกมาได้  ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเวลาที่เหลือก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะเริ่มต้นเดินตามฝันในครั้งใหม่ก็เป็นได้

หรือว่าบางท่านกำลังคิดอยากจะวิ่งหนีออกมาจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งสักอย่างแต่ยังไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้นั้น  ผมก็อยากจะให้ท่านลองไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดูครับ  เพื่อว่าท่านอาจจะได้รับมุมมองหรือแง่คิดอะไรที่ดี ๆ เพิ่มเติมกลับมาก็ได้ครับ  ผมอยากให้ท่านได้ดูหนังแล้วได้อะไรที่มากกว่าความบันเทิงเพียงอย่างเดียว  แล้วมันจะทำให้ท่านสนุกสนานและคุ้มค่ากับเงินค่าตั๋วหนังที่ท่านได้เสียไปครับ (สรุปว่าผมโลกสวยเกินไปไหมเนี่ย?)



ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการชมภาพยนตร์นะครับ  ขอให้ท่านมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ ทั้งปวง  ขอให้ท่านรักษาตนให้พ้นภัยและมีความสุขกายสุขใจมาก ๆ นะครับ

แฮบปี้ ๆ ครับ

อิอิ


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=akung-klong&month=10-2013&date=01&group=22&gblog=3

เครดิตภาพประกอบ : เสิร์ชจากในอินเตอร์เน็ต
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่