มีใครเคยลองไหม ปลอดภัยจริงรึเปล่า?
“ไม่กังวลเรื่องโรคติดต่อ เพราะพบเจอได้น้อย ตัวทอม-ดี้เองต่างก็ระมัดระวังเรื่องความสะอาดในการมีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ที่น่าเป็นห่วงคงจะมีแต่เรื่องมะเร็งปากมดลูกสำหรับทอม-ดี้ที่ไม่ชอบตัดเล็บ”
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ชายหญิงข้ามเพศจึงมีโอกาสก้าวขึ้นมามีบทบาทในสังคมได้หลากหลายอาชีพ แต่มีอยู่อาชีพหนึ่ง ซึ่งผู้สื่อข่าว ‘สุนันทานิวส์’ พบว่าเป็นงานให้บริการคนเพศเดียวกันในชื่อ ‘ทอมโฮสต์’ (tom host) ขณะนี้ มีนักศึกษาหญิงที่ต้องเลี้ยงตนเอง ไปสมัครเป็นผู้ให้บริการ มีทั้งผู้ให้บริการที่เป็น ‘ทอม’ (หญิงที่มีพฤติกรรมและบทบาททางเพศเป็นชาย) และผู้ให้บริการที่เป็น ‘ดี้’ (หญิงที่คบหาและยินดีมีความสุขทางเพศกับทอม)
ข้อมูลจากเว็บ ‘ทอมโฮสต์’ แห่งหนึ่ง อธิบายบริการนี้ไว้ว่า เป็นบริการในรูปแบบใหม่ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า host คือ บุคคลที่ให้บริการความสุขแก่ลูกค้าที่เหงา เปล่าเปลี่ยว โดยอาชีพนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ ‘ทอม-ดี้’ ส่วนมากแล้ว ‘ทอม’ จะเป็นผู้ทำอาชีพโฮสต์ และคอยให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งก็คือ ‘ดี้’ ขี้เหงาทั้งหลาย โดย ‘ทอมโฮสต์’ จะเป็นทั้งเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน หรือ ‘แอ๊บ’ ว่าเป็นแฟนกับลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้าต้องการหาแฟนปลอม ๆ เพื่อควงไปอวดเพื่อน (มีจริงไม่ใช่นิยาย) ส่วนเรื่องของการบริการที่ลูกค้าต้องการนอกเหนือจากนั้น (การหลับนอน) ขึ้นอยู่ที่ตัวทอมโฮสต์เองว่าจะโอเคหรือไม่ โดยโฮสต์สามารถแจ้งขอบเขตของการรับบริการไว้ที่ห้วหน้าสังกัดในตอนรับสมัครได้ หรือชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้าอีกทีหนึ่ง
แพน (นามสมมุติ) อายุ ๒๐ ปี นักศึกษาสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ยอมรับว่าตนเป็น ‘ทอมโฮสต์’ เพื่อหารายได้พิเศษ เพราะต้องช่วยเหลือตนเองในการศึกษา ได้ทราบเรื่องนี้จากอินเทอร์เน็ตขณะกำลังเล่นเฟสบุ๊ค จึงเกิดความสนใจและลองติดต่อจนเป็น ‘ทอมโฮสต์’ มาได้เกือบ ๒ ปีแล้ว การทำงานก็เป็นขั้นตอนตามที่ต้นสังกัดกำหนดไว้ ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์จากโฮสต์ เพราะทางสังกัดจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้าก่อน แล้วตนจะไปตามวัน เวลา และสถานที่ที่ลูกค้าเลือก ทุกอย่างลูกค้าจะเป็นฝ่ายออก เมื่อจบงาน ก็จะได้รับค่าตัวเต็มตามที่ตกลงกันไว้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยทำงานเพราะมีกำลังซื้อ “ลูกค้าที่เป็นนักศึกษาก็มี แต่น้อยมาก และจะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า ถือเป็นกฎเหล็ก ถึงแม้ลูกค้าบางคนจะสวยมากจนเกินห้ามใจ แต่ก็จะไม่มีการติดต่อลูกค้าด้วยตัวเอง จะติดต่อผ่านต้นสังกัดเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องความปลอดภัย การเบี้ยวค่าตัว และการข้ามหน้าข้ามตาต้นสังกัด”
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลเสีย ‘แพน’ ตอบว่า อาชีพนี้ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเป็นเพื่อนเที่ยวให้กับคนที่เขาเหงา เครียด หรือมีปัญหาอะไรมา ตนก็จะมีหน้าที่ช่วยให้สบายใจ ทำให้ลูกค้ามีความสุข พร้อมกับยอมรับว่าให้บริการแบบมีเพศสัมพันธ์ด้วย “คิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเป็นฝ่ายกระทำ ไม่ได้เป็นฝ่ายเสีย และลูกค้าเองก็ไม่ได้เสียอะไร เพราะเขาได้ความสุข” ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อจบการศึกษาแล้ว ยังจะยึดอาชีพนี้ต่อไปหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าจะทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหง่อม “ครอบครัวเหรอ เขาไม่รู้ว่าเป็นทอมโฮสต์ และคงไม่บอก เพราะครอบครัวหัวโบราณ ขนาดเคยขอไปเป็นเด็กเสิร์ฟในผับยังไม่ให้ แล้วนี่เป็นทอมโฮสต์ คงรับไม่ได้”
ดี้โฮสต์ อายุ ๒๑ ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยย่านหัวหมาก ยอมรับว่าเป็นดี้โฮสต์เพื่อหารายได้พิเศษในเวลาว่าง รู้จักงานนี้ผ่านเพื่อนที่เป็นโฮสต์เป็นคนชวน ส่วนใหญ่รับงานในลักษณะเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว ไม่ค่อยรับงานที่ต้องมีเพศสัมพันธ์ เพราะดี้เป็นฝ่ายเสีย “ถ้าจะรับงานที่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็จะต้องเป็นลูกค้าที่มีความสนิทสนมพอสมควร” ส่วนการนัดหมาย ดี้รายนี้อธิบายว่ามีขั้นตอนตามที่สังกัดกำหนดไว้ตามวัน เวลา สถานที่นัดพบลูกค้าจะเป็นผู้เลือกโดยบอกผ่านสังกัด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน จะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะทำงานแบบนี้ต้องแยกงานเป็นงาน มองอาชีพนี้ว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะให้ความสุขลูกค้า ดี้รายนี้ก็เช่นเดียวกับแพน ที่ครอบครัวไม่ทราบว่าเป็นโฮสต์ และคงจะให้ทราบไม่ได้ แต่คิดว่าคงจะไม่เป็นโฮสต์ไปตลอด “วันหนึ่งก็ต้องเลิก เพราะต้องมีเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นโฮสต์แทน”
ต้นสังกัดโฮสต์คลับทอมดี้แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เปิดกิจการมาประมาณ ๕ ปี ก่อนหน้านี้เปิดเป็นหน้าร้านอยู่ย่านรามอินทรา แต่ปัจจุบันเปิดให้บริการแค่ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แล้วติดต่อผ่านเฟสบุ๊ค เว็บเพจ ไลน์ และมีโบรชัวร์ในผับเฉพาะ เหตุผลที่เปิดโฮสต์คลับ ต้องการลบความหมายผิด ๆ ของโฮสต์ที่ทั่ว ๆ ไปเข้าใจว่าเป็นการขายบริการทางเพศ เพราะเดิมคำว่าโฮสต์เริ่มต้นมาจากประเทศญี่ปุ่นที่มีโฮสต์ผู้ชายคอยบริการลูกค้าผู้หญิง ซึ่งโฮสต์ไม่ใช่การขายบริการทางเพศร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในอินเทอร์เน็ตมีผู้อ้างตัวสูงว่าตนเป็นทอม-ดี้โฮสต์ แต่เบื้องหลังเป็นการขายตัว “ก็เลยตัดสินใจเปิดโฮสต์คลับรวบรวมทอม-ดี้ที่มีคุณภาพมาอบรมให้เข้าใจถึงการบริการ รู้กาลเทศะ รู้มารยาท รู้จักเคารพลูกค้า รู้วิธีการแสดงออกกับลูกค้า”
ปัจจุบัน ทางคลับมีโฮสต์ทั้งสิ้น ๕๒ คน เป็นทอม ๓๒ ดี้และอื่น ๆ อีก ๒๐ คน โฮสต์ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยนักศึกษา มีทั้งที่ยังเรียนอยู่บ้าง และไม่เรียนแล้วบ้าง ที่เป็นวัยทำงานก็มีมาเป็นโฮสต์เพื่อหารายได้พิเศษเวลาว่างจากการทำงาน ส่วนลูกค้าจะมีตั้งแต่ช่วงอายุ ๑๕ – ๕๐ ปีกว่า ๆ “ส่วนใหญ่จะเป็นลูกคุณหนูไฮโซ ไม่ค่อยมีเวลา ทำแต่งาน กับคนวัยทำงานแล้ว เรื่องค่าตอบแทน มีการเก็บค่าธรรมเนียมให้ลูกค้าโอนมาก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนส่งตัวโฮสต์ให้ลูกค้า และยังมีการขอสำเนาบัตรประชาชนจากลูกค้าอีกด้วยเพื่อความปลอดภัยของโฮสต์ จึงมีความมั่นใจในความปลอดภัยของโฮสต์ค่อนข้างสูง ผู้สื่อข่าวถามเรื่องผู้ชายมาใช้บริการ เจ้าสังกัดรายนี้ตอบว่า เคยมีความพยายามของเพศปกติอย่างเพศชายในการติดต่อขอซื้อบริการหรือการล่อซื้อ แต่ก็มีมาตรการรับมือกับกรณีเหล่านี้แล้ว...
http://www.sunandhanews.com/2011-10-14-04-41-27/71-socialaenvironment/1866-2013-09-30-13-41-41.html
เดี๋ยวนี้เขามีแบบนี้แล้วนะ ‘ทอม-ดี้’ รับจ๊อบ-กิน-เที่ยว-นอน-เพศเดียวกัน ปลอดภัย ได้เงินเรียนหนังสือ
“ไม่กังวลเรื่องโรคติดต่อ เพราะพบเจอได้น้อย ตัวทอม-ดี้เองต่างก็ระมัดระวังเรื่องความสะอาดในการมีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ที่น่าเป็นห่วงคงจะมีแต่เรื่องมะเร็งปากมดลูกสำหรับทอม-ดี้ที่ไม่ชอบตัดเล็บ”
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ชายหญิงข้ามเพศจึงมีโอกาสก้าวขึ้นมามีบทบาทในสังคมได้หลากหลายอาชีพ แต่มีอยู่อาชีพหนึ่ง ซึ่งผู้สื่อข่าว ‘สุนันทานิวส์’ พบว่าเป็นงานให้บริการคนเพศเดียวกันในชื่อ ‘ทอมโฮสต์’ (tom host) ขณะนี้ มีนักศึกษาหญิงที่ต้องเลี้ยงตนเอง ไปสมัครเป็นผู้ให้บริการ มีทั้งผู้ให้บริการที่เป็น ‘ทอม’ (หญิงที่มีพฤติกรรมและบทบาททางเพศเป็นชาย) และผู้ให้บริการที่เป็น ‘ดี้’ (หญิงที่คบหาและยินดีมีความสุขทางเพศกับทอม)
ข้อมูลจากเว็บ ‘ทอมโฮสต์’ แห่งหนึ่ง อธิบายบริการนี้ไว้ว่า เป็นบริการในรูปแบบใหม่ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า host คือ บุคคลที่ให้บริการความสุขแก่ลูกค้าที่เหงา เปล่าเปลี่ยว โดยอาชีพนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ ‘ทอม-ดี้’ ส่วนมากแล้ว ‘ทอม’ จะเป็นผู้ทำอาชีพโฮสต์ และคอยให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งก็คือ ‘ดี้’ ขี้เหงาทั้งหลาย โดย ‘ทอมโฮสต์’ จะเป็นทั้งเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน หรือ ‘แอ๊บ’ ว่าเป็นแฟนกับลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้าต้องการหาแฟนปลอม ๆ เพื่อควงไปอวดเพื่อน (มีจริงไม่ใช่นิยาย) ส่วนเรื่องของการบริการที่ลูกค้าต้องการนอกเหนือจากนั้น (การหลับนอน) ขึ้นอยู่ที่ตัวทอมโฮสต์เองว่าจะโอเคหรือไม่ โดยโฮสต์สามารถแจ้งขอบเขตของการรับบริการไว้ที่ห้วหน้าสังกัดในตอนรับสมัครได้ หรือชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้าอีกทีหนึ่ง
แพน (นามสมมุติ) อายุ ๒๐ ปี นักศึกษาสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ยอมรับว่าตนเป็น ‘ทอมโฮสต์’ เพื่อหารายได้พิเศษ เพราะต้องช่วยเหลือตนเองในการศึกษา ได้ทราบเรื่องนี้จากอินเทอร์เน็ตขณะกำลังเล่นเฟสบุ๊ค จึงเกิดความสนใจและลองติดต่อจนเป็น ‘ทอมโฮสต์’ มาได้เกือบ ๒ ปีแล้ว การทำงานก็เป็นขั้นตอนตามที่ต้นสังกัดกำหนดไว้ ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์จากโฮสต์ เพราะทางสังกัดจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้าก่อน แล้วตนจะไปตามวัน เวลา และสถานที่ที่ลูกค้าเลือก ทุกอย่างลูกค้าจะเป็นฝ่ายออก เมื่อจบงาน ก็จะได้รับค่าตัวเต็มตามที่ตกลงกันไว้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยทำงานเพราะมีกำลังซื้อ “ลูกค้าที่เป็นนักศึกษาก็มี แต่น้อยมาก และจะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า ถือเป็นกฎเหล็ก ถึงแม้ลูกค้าบางคนจะสวยมากจนเกินห้ามใจ แต่ก็จะไม่มีการติดต่อลูกค้าด้วยตัวเอง จะติดต่อผ่านต้นสังกัดเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องความปลอดภัย การเบี้ยวค่าตัว และการข้ามหน้าข้ามตาต้นสังกัด”
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลเสีย ‘แพน’ ตอบว่า อาชีพนี้ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเป็นเพื่อนเที่ยวให้กับคนที่เขาเหงา เครียด หรือมีปัญหาอะไรมา ตนก็จะมีหน้าที่ช่วยให้สบายใจ ทำให้ลูกค้ามีความสุข พร้อมกับยอมรับว่าให้บริการแบบมีเพศสัมพันธ์ด้วย “คิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเป็นฝ่ายกระทำ ไม่ได้เป็นฝ่ายเสีย และลูกค้าเองก็ไม่ได้เสียอะไร เพราะเขาได้ความสุข” ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อจบการศึกษาแล้ว ยังจะยึดอาชีพนี้ต่อไปหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าจะทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหง่อม “ครอบครัวเหรอ เขาไม่รู้ว่าเป็นทอมโฮสต์ และคงไม่บอก เพราะครอบครัวหัวโบราณ ขนาดเคยขอไปเป็นเด็กเสิร์ฟในผับยังไม่ให้ แล้วนี่เป็นทอมโฮสต์ คงรับไม่ได้”
ดี้โฮสต์ อายุ ๒๑ ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยย่านหัวหมาก ยอมรับว่าเป็นดี้โฮสต์เพื่อหารายได้พิเศษในเวลาว่าง รู้จักงานนี้ผ่านเพื่อนที่เป็นโฮสต์เป็นคนชวน ส่วนใหญ่รับงานในลักษณะเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว ไม่ค่อยรับงานที่ต้องมีเพศสัมพันธ์ เพราะดี้เป็นฝ่ายเสีย “ถ้าจะรับงานที่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็จะต้องเป็นลูกค้าที่มีความสนิทสนมพอสมควร” ส่วนการนัดหมาย ดี้รายนี้อธิบายว่ามีขั้นตอนตามที่สังกัดกำหนดไว้ตามวัน เวลา สถานที่นัดพบลูกค้าจะเป็นผู้เลือกโดยบอกผ่านสังกัด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน จะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะทำงานแบบนี้ต้องแยกงานเป็นงาน มองอาชีพนี้ว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะให้ความสุขลูกค้า ดี้รายนี้ก็เช่นเดียวกับแพน ที่ครอบครัวไม่ทราบว่าเป็นโฮสต์ และคงจะให้ทราบไม่ได้ แต่คิดว่าคงจะไม่เป็นโฮสต์ไปตลอด “วันหนึ่งก็ต้องเลิก เพราะต้องมีเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นโฮสต์แทน”
ต้นสังกัดโฮสต์คลับทอมดี้แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เปิดกิจการมาประมาณ ๕ ปี ก่อนหน้านี้เปิดเป็นหน้าร้านอยู่ย่านรามอินทรา แต่ปัจจุบันเปิดให้บริการแค่ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แล้วติดต่อผ่านเฟสบุ๊ค เว็บเพจ ไลน์ และมีโบรชัวร์ในผับเฉพาะ เหตุผลที่เปิดโฮสต์คลับ ต้องการลบความหมายผิด ๆ ของโฮสต์ที่ทั่ว ๆ ไปเข้าใจว่าเป็นการขายบริการทางเพศ เพราะเดิมคำว่าโฮสต์เริ่มต้นมาจากประเทศญี่ปุ่นที่มีโฮสต์ผู้ชายคอยบริการลูกค้าผู้หญิง ซึ่งโฮสต์ไม่ใช่การขายบริการทางเพศร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในอินเทอร์เน็ตมีผู้อ้างตัวสูงว่าตนเป็นทอม-ดี้โฮสต์ แต่เบื้องหลังเป็นการขายตัว “ก็เลยตัดสินใจเปิดโฮสต์คลับรวบรวมทอม-ดี้ที่มีคุณภาพมาอบรมให้เข้าใจถึงการบริการ รู้กาลเทศะ รู้มารยาท รู้จักเคารพลูกค้า รู้วิธีการแสดงออกกับลูกค้า”
ปัจจุบัน ทางคลับมีโฮสต์ทั้งสิ้น ๕๒ คน เป็นทอม ๓๒ ดี้และอื่น ๆ อีก ๒๐ คน โฮสต์ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยนักศึกษา มีทั้งที่ยังเรียนอยู่บ้าง และไม่เรียนแล้วบ้าง ที่เป็นวัยทำงานก็มีมาเป็นโฮสต์เพื่อหารายได้พิเศษเวลาว่างจากการทำงาน ส่วนลูกค้าจะมีตั้งแต่ช่วงอายุ ๑๕ – ๕๐ ปีกว่า ๆ “ส่วนใหญ่จะเป็นลูกคุณหนูไฮโซ ไม่ค่อยมีเวลา ทำแต่งาน กับคนวัยทำงานแล้ว เรื่องค่าตอบแทน มีการเก็บค่าธรรมเนียมให้ลูกค้าโอนมาก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนส่งตัวโฮสต์ให้ลูกค้า และยังมีการขอสำเนาบัตรประชาชนจากลูกค้าอีกด้วยเพื่อความปลอดภัยของโฮสต์ จึงมีความมั่นใจในความปลอดภัยของโฮสต์ค่อนข้างสูง ผู้สื่อข่าวถามเรื่องผู้ชายมาใช้บริการ เจ้าสังกัดรายนี้ตอบว่า เคยมีความพยายามของเพศปกติอย่างเพศชายในการติดต่อขอซื้อบริการหรือการล่อซื้อ แต่ก็มีมาตรการรับมือกับกรณีเหล่านี้แล้ว...
http://www.sunandhanews.com/2011-10-14-04-41-27/71-socialaenvironment/1866-2013-09-30-13-41-41.html