ก่อนอื่นต้องบอกชาวพันธ์ทิพย์ทุกท่านก่อนนะครับว่า ทนไม่ไหว
ไม่ใช่คนเดียว แต่ทั้งซอย (ประมาณ 200 กว่าครัวเรือน) เดือดร้อนกันหมด
เนื่องจากบ้านผม ที่อาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด เกือบห้าสิบกว่าปี (50กว่าปี) เป็นซอยที่อยู่ใกล้สถาบันการศึกษา 2 แห่ง ติดกัน มีชื่อพยางค์แรกเหมือนกัน
จากระยะทางบ้านผมไปถึงสถาบันการศึกษาสองแห่งนี้ไม่ถึง 200 เมตร
พื้นที่โดยรอบๆ เป็นบ้านอยู่อาศัย หอพักนักศึกษา บ้านพักคนทำงานทั่วไป อยู่มากมาย
ปกติในซอยนั้นจะมีร้านเหล้า ผับต่างๆอยู่ในซอย ซึ่งก็มีเปลี่ยนเจ้าของ เปลี่ยนชื่อร้าน หมุนเวียนไปมาอยู่ตลอด ร้านพวกนี้เกิดมาเกือบ 15 ปีแล้ว
นับเป็นแหล่ง "มั่วซุม" ชั้นยอด ของนักศึกษาบางกลุ่มที่เลิกเรียน หรือ ขอตังค์พ่อแม่ใช้ แล้วก็มาเที่ยวเตร็ดเตร่ในชุดนักศึกษา (อันนี้อนาคตใครอนาคตมันครับ)
วันดี คืนดี ก็มีตีกัน ทะเลาะแย่งผู้หญิงบ้าง ปาขวดเหล้าบ้าง หนักสุดมียิงกันด้วย
แต่ก็เป็นบางครั้งบางคราว นานๆเกิดแบบนี้ที
แต่แล้วความเดือดร้อนก็มาเยือนครับ ปีหลังสุด
มีอยู่ร้านหนึ่ง ร้าน ช.... รู้สึกจะทำใหม่ เปลี่ยนเจ้าของใหม่
แต่ชาวบ้านแถวนั้นเค้ารู้จักกันดี ชาวบ้าน"เกลียด"กันมาก
ที่ตั้งติดอยู่กับอพาร์ทเม้นต์นักศึกษาสูง 6 - 7 ชั้น รอบข้างเป็นบ้านพักคนทำงาน บ้านเดี่ยวอยู่อาศัยทั่วไป มีบ้านหลังหนึ่งติดกันเลย เป็นบ้านพักคนสูงอายุด้วยซ้ำ (มีคุณป้าๆอยู่เยอะมาก)
หน้าร้านมีฟุตบาทปกติ สำหรับคนเดินไปมากว้างพอสมควร
แต่พอสัก 5-6 โมงเย็น ร้านนี้จะเปลี่ยนสภาพทันที
ร้านนี้จะเอารถมอเตอร์ไซต์จอดขวางทางหน้าร้านเป็นแนวยาว ซึ่งโดยปกติถนนเส้นนี้รถจะวิ่งได้ทั้งหมด 3 เลนส์ (วิ่งสวนกัน 2 เลนส์ จอดรถสลับวันคู่คี่ 1 เลนส์ )
แต่ร้านมันสามารถทำให้รถวิ่งได้แค่เลนส์เดียว เวลารถสวนกัน ต้องหลบ ต้องสลับกันวิ่ง ถึงจะผ่านได้
ฟุตบาทที่เคยว่าง ก็ตั้งโต๊ะ ตั้งเต้นท์ ให้เด็กนักศึกษาไปมั่วสุมกัน เสียงดัง เอะอะโวยวายอยู่ร้านมันตลอดเวลา
ที่หนักที่สุด ที่ทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อน
เอานักดนตรีมาร้องเรียกแขก (เด็กพวกนี้) เวลา " 3 ทุ่ม จนถึงตีหนึ่ง ( 21.00 น. - 01.00 น. ของ
อีกวัน) " "ทุกวัน!!" ย้ำว่า "
ทุกวัน!!"
ความดังของเสียง จากบ้านผม ถึง ร้านมัน ห่างพอควร ยังดังมากๆ
บรรยากาศรอบๆใกล้เคียงร้านมัน มีหอพัก บ้านพักอาศัย ผมเสี่ยงไปถ่าย ให้ได้ยินเสียงด้วยว่า ระยะใกล้เป็นยังไง
ร้านสีส้มซ้ายมือ ที่คนยืนเยอะๆ ลองดูนะครับ
นักศึกษาที่อยู่ตามบ้านพัก หอพักแถวนั้น หลายคนบ่น นอนไม่ได้ นอนไม่หลับ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
คิดดูแล้วกันนะครับว่า คนแถวนี้ได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน ผมสรุปเป็นประเด็น ดังนี้ (จากการพูดคุยชาวบ้านเกือบทั้งหมดเป็นคนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมโดยรอบ)
- นักศึกษา ที่มาศึกษาจริงๆ (ไม่ใช่พวกเที่ยว) เริ่มย้ายออกจากพื้นที่บริเวณนี้ ไปพักที่อื่น
- ชาวบ้านหลายคน รวมทั้งผมร้องเรียนไปยังสถานีตำรวจ ส. ที่ดูแลอยู่ (ระยะห่างจากร้านมันประมาณไม่ถึง 500 เมตร หรือ พูดง่ายๆว่า อยู่ในเกาะบริเวณเดียวกันด้วยซ้ำ) ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย คงรู้นะว่าเพราะอะไร
นอกจากคำว่า "ครับๆ จะไปดูแลให้" "ครับๆจะไปจัดการให้" แล้วมันก็ดังเหมือนเดิม
- ชาวบ้านหลายคนโทรแจ้ง 1599 ขนาดระบุสถานที่ไปแล้วว่าร้าน..... มันเปิดเสียงดัง และโทรไปแจ้งว่าพวกผมได้แจ้งสถานีตำรวจ...ส... แล้ว เค้าไม่ทำ...อะไรเลย ทาง 1599 บอกจะดำเนินการให้ก็เงียบ ไอชาวบ้านอย่างพวกเราก็รอ รอ รอ ก็ยังเหมือนเดิม
- ชาวบ้านหลายคนเคยแจ้งไปทางหน่วยงานหนึ่ง ที่ดูแลที่ดินตรงนี้ ก็เงียบ...
ชาวบ้านรู้ว่าเจ้าของมันคือใคร ทุกคนพยายามดำเนินการที่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ผมและชาวบ้านทั้งหมดควรทำอย่างไรดีครับ
ผมก็คงได้แต่หวังว่ากระทู้นี้คงไปถึงหลายๆคนที่เป็นสื่อสารมวลชน (คิดจะส่งโดยตรง แต่คิดว่าน่าจะช้ามากเพราะเค้าคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ)
หรือหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
หรือหลายๆท่านที่สามารถ ช่วยดำเนินการทีเถอะครับ
"ขอร้อง" จากใจเลย ขอบคุณครับ
เดือดร้อน!!! (มีคลิป มีเสียง) ผับใกล้แหล่งศึกษา เปิดเสียงดัง ถึงตีหนึ่งทุกวัน ทนไม่ไหวแล้วววววววววววครับ
ไม่ใช่คนเดียว แต่ทั้งซอย (ประมาณ 200 กว่าครัวเรือน) เดือดร้อนกันหมด
เนื่องจากบ้านผม ที่อาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด เกือบห้าสิบกว่าปี (50กว่าปี) เป็นซอยที่อยู่ใกล้สถาบันการศึกษา 2 แห่ง ติดกัน มีชื่อพยางค์แรกเหมือนกัน
จากระยะทางบ้านผมไปถึงสถาบันการศึกษาสองแห่งนี้ไม่ถึง 200 เมตร
พื้นที่โดยรอบๆ เป็นบ้านอยู่อาศัย หอพักนักศึกษา บ้านพักคนทำงานทั่วไป อยู่มากมาย
ปกติในซอยนั้นจะมีร้านเหล้า ผับต่างๆอยู่ในซอย ซึ่งก็มีเปลี่ยนเจ้าของ เปลี่ยนชื่อร้าน หมุนเวียนไปมาอยู่ตลอด ร้านพวกนี้เกิดมาเกือบ 15 ปีแล้ว
นับเป็นแหล่ง "มั่วซุม" ชั้นยอด ของนักศึกษาบางกลุ่มที่เลิกเรียน หรือ ขอตังค์พ่อแม่ใช้ แล้วก็มาเที่ยวเตร็ดเตร่ในชุดนักศึกษา (อันนี้อนาคตใครอนาคตมันครับ)
วันดี คืนดี ก็มีตีกัน ทะเลาะแย่งผู้หญิงบ้าง ปาขวดเหล้าบ้าง หนักสุดมียิงกันด้วย
แต่ก็เป็นบางครั้งบางคราว นานๆเกิดแบบนี้ที
แต่แล้วความเดือดร้อนก็มาเยือนครับ ปีหลังสุด
มีอยู่ร้านหนึ่ง ร้าน ช.... รู้สึกจะทำใหม่ เปลี่ยนเจ้าของใหม่
แต่ชาวบ้านแถวนั้นเค้ารู้จักกันดี ชาวบ้าน"เกลียด"กันมาก
ที่ตั้งติดอยู่กับอพาร์ทเม้นต์นักศึกษาสูง 6 - 7 ชั้น รอบข้างเป็นบ้านพักคนทำงาน บ้านเดี่ยวอยู่อาศัยทั่วไป มีบ้านหลังหนึ่งติดกันเลย เป็นบ้านพักคนสูงอายุด้วยซ้ำ (มีคุณป้าๆอยู่เยอะมาก)
หน้าร้านมีฟุตบาทปกติ สำหรับคนเดินไปมากว้างพอสมควร
แต่พอสัก 5-6 โมงเย็น ร้านนี้จะเปลี่ยนสภาพทันที
ร้านนี้จะเอารถมอเตอร์ไซต์จอดขวางทางหน้าร้านเป็นแนวยาว ซึ่งโดยปกติถนนเส้นนี้รถจะวิ่งได้ทั้งหมด 3 เลนส์ (วิ่งสวนกัน 2 เลนส์ จอดรถสลับวันคู่คี่ 1 เลนส์ )
แต่ร้านมันสามารถทำให้รถวิ่งได้แค่เลนส์เดียว เวลารถสวนกัน ต้องหลบ ต้องสลับกันวิ่ง ถึงจะผ่านได้
ฟุตบาทที่เคยว่าง ก็ตั้งโต๊ะ ตั้งเต้นท์ ให้เด็กนักศึกษาไปมั่วสุมกัน เสียงดัง เอะอะโวยวายอยู่ร้านมันตลอดเวลา
ที่หนักที่สุด ที่ทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อน
เอานักดนตรีมาร้องเรียกแขก (เด็กพวกนี้) เวลา " 3 ทุ่ม จนถึงตีหนึ่ง ( 21.00 น. - 01.00 น. ของ
อีกวัน) " "ทุกวัน!!" ย้ำว่า "ทุกวัน!!"
ความดังของเสียง จากบ้านผม ถึง ร้านมัน ห่างพอควร ยังดังมากๆ
บรรยากาศรอบๆใกล้เคียงร้านมัน มีหอพัก บ้านพักอาศัย ผมเสี่ยงไปถ่าย ให้ได้ยินเสียงด้วยว่า ระยะใกล้เป็นยังไง
ร้านสีส้มซ้ายมือ ที่คนยืนเยอะๆ ลองดูนะครับ
นักศึกษาที่อยู่ตามบ้านพัก หอพักแถวนั้น หลายคนบ่น นอนไม่ได้ นอนไม่หลับ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
คิดดูแล้วกันนะครับว่า คนแถวนี้ได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน ผมสรุปเป็นประเด็น ดังนี้ (จากการพูดคุยชาวบ้านเกือบทั้งหมดเป็นคนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมโดยรอบ)
- นักศึกษา ที่มาศึกษาจริงๆ (ไม่ใช่พวกเที่ยว) เริ่มย้ายออกจากพื้นที่บริเวณนี้ ไปพักที่อื่น
- ชาวบ้านหลายคน รวมทั้งผมร้องเรียนไปยังสถานีตำรวจ ส. ที่ดูแลอยู่ (ระยะห่างจากร้านมันประมาณไม่ถึง 500 เมตร หรือ พูดง่ายๆว่า อยู่ในเกาะบริเวณเดียวกันด้วยซ้ำ) ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย คงรู้นะว่าเพราะอะไร
นอกจากคำว่า "ครับๆ จะไปดูแลให้" "ครับๆจะไปจัดการให้" แล้วมันก็ดังเหมือนเดิม
- ชาวบ้านหลายคนโทรแจ้ง 1599 ขนาดระบุสถานที่ไปแล้วว่าร้าน..... มันเปิดเสียงดัง และโทรไปแจ้งว่าพวกผมได้แจ้งสถานีตำรวจ...ส... แล้ว เค้าไม่ทำ...อะไรเลย ทาง 1599 บอกจะดำเนินการให้ก็เงียบ ไอชาวบ้านอย่างพวกเราก็รอ รอ รอ ก็ยังเหมือนเดิม
- ชาวบ้านหลายคนเคยแจ้งไปทางหน่วยงานหนึ่ง ที่ดูแลที่ดินตรงนี้ ก็เงียบ...
ชาวบ้านรู้ว่าเจ้าของมันคือใคร ทุกคนพยายามดำเนินการที่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ผมและชาวบ้านทั้งหมดควรทำอย่างไรดีครับ
ผมก็คงได้แต่หวังว่ากระทู้นี้คงไปถึงหลายๆคนที่เป็นสื่อสารมวลชน (คิดจะส่งโดยตรง แต่คิดว่าน่าจะช้ามากเพราะเค้าคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ)
หรือหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
หรือหลายๆท่านที่สามารถ ช่วยดำเนินการทีเถอะครับ
"ขอร้อง" จากใจเลย ขอบคุณครับ