ฟากฟ้าฝังศพ

กระทู้สนทนา
.

ฟากฟ้าคือ สุสาน/ที่ฝังศพในธิเบต
สถูปเจดีย์และพิธีกรรมเผาศพ
มีได้เฉพาะพระลามะธิเบต
ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงสุดเท่านั้น

ฟากฟ้าจึงกลายเป็นที่ฝังศพของคนทั่วไป
ยกเว้น เด็กหญิง/ชายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
ผู้หญิงตั้งครรภ์ คนตายจากโรคติดเชื้อ
หรือคนตายด้วยอุบัติเหตุ

ต้นกำเนิดของ ฟากฟ้าฝังศพ
ยังคงซ่อนเงื่อนงำความลึกลับในธิเบต

ซากศพจะเป็นอาหารของนกแร้ง
เชื่อกันว่าแร้งเป็น ฑากิณี
ฑากิณีเทียบเท่ากับเทพเทวดา
ในธิเบตฑากิณี คือ  นักเต้นรำแห่งท้องนภา
ฑากิณีจะนำดวงวิญญาณคนตายสู่สรวงสวรรค์
เพราะเชื่อกันว่าพื้นที่สายลม(ท้องฟ้า)
เป็นที่รอคอยของดวงวิญญาณ
ที่จะรอเกิดต่อไปในภายหน้า
.
.

เชื่อกันว่าการบริจาคร่างกายให้นกแร้ง
เป็นเนื้อที่บริสุทธิ์(เป็นการทำบุญสูงสุด)
เพราะเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ขนาดเล็กได้

ตามตำนานเล่าว่า พระศากยมุณี
(พระผู้มีพระภาคเจ้า/พระพุทธเจ้า)
ได้แสดงคุณธรรมในเรื่องนี้ไว้
ด้วยการบริจาคเนื้อของพระองค์
ให้กับเหยี่ยวเพื่อแลกกับชีวิตนกพิราบ

.
.

หลังจากตายแล้ว
ศพจะถูกวางทิ้งไว้เป็นเวลาสามวัน
พระสงฆ์จะสวดมนต์และเต้นรำรอบ ๆ ศพ
ก่อนจะถึงวันฟากฟ้าฝังศพ
จะมีการทำความสะอาดศพ
แล้วนำผ้ามาห่อศพ
จัดท่าศพเหมือนท่าเด็กแรกเกิด

พิธีฝังศพกับฟากฟ้า
จะเริ่มต้นก่อนรุ่งอรุณ
พระลามะจะเดินนำขบวนพิธี
ไปยังสุสานฝังศพกับฟากฟ้า
พร้อมกับสวดมนต์นำทางดวงวิญญาณ
มีสุสานประเภทนี้น้อยมากในธิเบต
ส่วนมากจะอยู่ใกล้กับวัดวาอาราม
มีผู้คนน้อยมากที่จะไปยังสุสานเหล่านี้
ยกเว้นแต่คนบางคนเท่านั้น

หลังเสร็จสิ้นการสวดมนตร์
จะเตรียมการแยกศพเป็นชิ้นส่วน
ในปริมาณที่เหมาะสมกับนกแร้ง
ศพจะถูกเปลือยกายแล้ว
สัปเหร่อจะเริ่มกรีด/ตัดที่หลัง
มีด/ขวานจะเป็นอุปกรณ์ใช้ในแล่ศพ
ด้วยฝีมือสัปเหร่อที่ชำนาญและแม่นยำ

ในการหั่นแบ่งศพ
เนื้อจะถูกตัดเป็นก้อน ๆ
เครื่องในจะถูกตัดเป็นชิ้น ๆ
กระดูกจะถูกทุบด้วยฆ้อนหรือหิน
ให้มีขนาดกระดูกเล็กลง/ละเอียด
แล้วปั้นผสมกับแป้งข้าวบาร์เลย์
หรืออาหารธิเบตที่เรียกว่า Tsampa
.
.

เมื่อการหั่นศพจะเริ่มต้นขึ้น
จะมีการเผาไม้สนหรือจุดธูป
เพื่อเรียกเหล่าบรรดานกแร้ง
สาวกหรือการแปลงร่างของฑากิณี
มารับประทานอาหารเช้า

ในระหว่างการหั่นศพนี้
นกแร้งจะบินว่อนเหนือหัวไปมา
บางครั้งต้องมีการโบกไล่
โดยญาติสนิทมิตรสหายของผู้ตาย

นกแร้งจะเริ่มเข้ามากินเนื้อศพ
จนกระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการ
ตั้งแต่หั่นเนื้อศพ แล่เครื่องในศพ
ป่นกระดูกบางส่วนผสมกับแป้งข้าวบาร์เลย์
เพื่อให้นกแร้งได้เก็บกินทั้งหมด
เป็นการสร้างความมั่นใจว่า
ดวงวิญญาณได้สู่สรวงสวรรค์แน่นอนแล้ว
.
.

ประเพณีแบบนี้ค่อนข้างจะลึกลับ
แต่พบเห็นกันทั่วไปในหมู่คนธิเบต
อย่างไรก็ตามการขอชมพิธีกรรมดังกล่าว
ชาวธิเบตมักจะไม่ขัดข้องแต่อย่างใด
เพียงแต่ห้ามถ่ายรูปพิธีกรรมเท่านั้น
เพราะยังเชื่อว่าภาพถ่ายจะมีผลเชิงลบ
ต่อดวงวิญญาณผู้ตายได้

เรื่องราวพิธีกรรมนี้
ดูเหมือนว่าแปลกประหลาด
แต่ชาวพุทธในธิเบตเชื่อมั่นว่า
คือ ความเอื้ออาทรครั้งสุดท้ายของผู้ตาย
ที่อุทิศร่างกายให้เป็นอาหารกับสัตว์อื่น ๆ
(นอกจากแร้ง อาจจะมีมด หรือ แมลงอื่น ๆ)
.
.

หมายเหตุ

ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาไซโรอัสเตอร์
(ศาสนาเก่าแก่นี้มักจะบูชา
ดวงอาทิตย์กับบูชาไฟ)
มีหอคอยเงียบ คือ
ให้นกแร้งมากินศพเหมือนชาวธิเบต
เพราะถือว่า ไฟ คือ ขอวศักดิ์สิทธิ์
ไม่ควรนำมาใช้เผาศพ
ตระกูลทาทา Tata ก็นับถือศาสนานี้
.
.

มีตำนานเล่าว่า บรรพชนชาวฟาร์ซี
อพยพผู้คนจากเปอร์เซียจะมาอยู่ในอินเดีย
เพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหากระทบกระทั่ง
กับชาวบ้านที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม
ราชาเจ้าแคว้นกุจรัต(คชรัฏฐ)
จึงได้เทน้ำนมลงในอ่างจนเต็ม
มีนัยว่าที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนแล้ว
พวกเจ้าจงอพยพไปที่อื่นซะ

ผู้นำบรรพชนได้เทน้ำผึ้งลงไปในน้ำนม
แล้วคนกวนผสมกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
โดยน้ำทั้งสองอย่างไม่ล้นออกจากอ่าง
มีนัยว่าจะมาทำประโยชน์/ผสมกลมกลืน ณ ที่นี่
จึงได้รับอนุญาตให้มาทำมาหากินในอินเดีย

ทาทาเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมรายใหญ่
บริจาคเงินจำนวนมากในแต่ละปี
รวมทั้งการให้สวัสดิการพนักงาน
ติดลำดับชั้นนำของอินเดียด้วยเช่นกัน
ในเมืองไทยมีธุรกิจรถยนต์ทาทา โรงงานเหล็ก
เป็นอุตสาหกรรมของยักษ์ใหญ่อินเดียรายนี้
.
.

ส่วนของไทยในอดีตก็เคยมีพิธีกรรมแบบนี้
ที่โด่งดังมากคือ แร้งวัดสระเกศ
ตามบันทึกของฝรั่งว่า
มีศพตายจนฝังไม่ทัน เผาไม่ทัน
เพราะเกิดโรคระบาด อหิวาตกโรค
.
.


เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/6AiWTx
https://goo.gl/B8DT2Q
https://goo.gl/Z4eZBz
.
.

ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง

พระธรรมเทศนาของ
หลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ
อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์
แนะนำให้เผาศพเสร็จแล้ว
นำกระดูกไปลอยอังคารในทะเล/แม่น้ำ
แทนการทำบัวหรือบรรจุไว้ตามวัดวาอาราม
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่